รีวิวหนัง "Wicked วิคเค็ด" อะบราคาคาบรา ...ช่างแจ่มจรัสไปทุกอณู

และนี่คืออีกหนึ่งละครบอร์ดเวย์ชื่อดังก้องโลกที่ถูกหยิบจับมาขึ้นจอใหญ่อย่างเกรียงไกร "Wicked วิคเค็ด" ความแฟนตาซีแห่งโลกเวทมนตร์จะถูกปลุกขึ้นด้วยพลังแห่งเสียงเพลงที่ร้อยเรียงขับขานแบบมิวสิคัลสุดจับใจ ด้วยความทะเยอทะยานสานต่อตำนานแห่งออซ ที่เพลิดเพลินและหรรษายิ่งใหญ่กว่าที่คาดคิดเอาไว้

เอลฟาบา หญิงสาวผู้ถูกเข้าใจผิดเพราะผิวสีเขียวที่ผิดธรรมชาติของเธอ ผู้ยังไม่ค้นพบพลังที่แท้จริงของตัวเอง กับ กลินดา หญิงสาวยอดนิยม ผู้เปี่ยมล้นด้วยอภิสิทธิ์และความทะเยอทะยาน แต่ยังไม่ค้นพบหัวใจที่แท้จริงของตัวเอง ทั้งคู่ได้พบกันตอนเป็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยชิซในดินแดนมหัศจรรย์แห่งออซและได้ก่อเกิดเป็นมิตรภาพที่เหลือเชื่อ แต่ก็ลึกซึ้งขึ้นมา หลังจากการได้พบกับพ่อมดมหัศจรรย์แห่งออซ มิตรภาพของพวกเธอก็มาถึงทางแยก และชีวิตของพวกเธอก็ดำเนินไปในเส้นทางที่แตกต่างกัน

ความปรารถนาที่จะได้รับความนิยมอันไม่สั่นคลอนของกลินดาทำให้เธอถูกล่อลวงด้วยอำนาจ ในขณะที่ปณิธานของเอลฟาบาที่จะซื่อตรงต่อตัวเอง และผู้คนรอบด้านเธอ จะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึงและชวนตะลึงต่ออนาคตของเธอ การผจญภัยสุดพิเศษในออซของพวกเธอในท้ายที่สุดจะนำพวกเธอไปสู่ชะตากรรมของพวกเธอในฐานะกลินดา แม่มดแห่งความดีและแม่มดชั่วร้ายแห่งตะวันตก

"จอน เอ็ม. ชู" ได้กลายเป็นเจ้าพ่อหนังมิวสิคัลคนล่าสุดอย่างเป็นทางการ ด้วยการกลับมาสานต่องานมิวสิคัลอีกเรื่องของเขาในรอบเกือบ 5 ปีที่ผ่านมา เรียกได้ว่านักสร้างหนังเชื้อสายเอเชียผู้นี้มองขาดและมีวิสัยทัศน์ในการเนรมิตโลกแห่งออซได้อย่างจับใจ กลายเป็นหนึ่งในหนังมิวสิคัลเรื่องเยี่ยมในรอบหลายปีมานี้อีกเรื่อง และความเป็นผู้กำกับของเขาก็สามารถแบกรับประคับประคองหนังเรื่องนี้ไปได้ถึงใจถึงอารมณ์ตามโจทย์ที่ผู้ชมต้องการ

แน่นอนว่า Wicked ดัดแปลงสร้างมาจากนิยายขายดีของ "เกร็กกอรี แม็คไกรว์" พร้อมกับหยิบเอาบทละครเวทีของ "วินนีย์ ฮอล์ซแมน" มาเติมแต่งในพาร์ทของมิวสิคัลแสนไพเราะ โดยที่เธอก็ยังมาเป็นหัวเรือในการเขียนบทหนังเรื่องนี้ ร่วมด้วย "ดานา ฟ็อกซ์" (จาก Cruella) ที่กลายออกมาเป็นบทหนังที่เจิดจรัส คมคาย และเปล่งประกาย จับใจความได้ดีชนิดที่ค่อนข้างเคารพต้นฉบับ

ด้วยความที่ Wicked มีสตอรี่ที่ค่อนข้างเต็มไปด้วยมิติที่ลึกซึ้งดีอยู่ ทั้งเส้นเรื่องและประเด็นของเรื่องนี้ค่อนข้างแข็งแรงเป็นอย่างดี เมื่อถูกนำมาเรียบเรียงเป็นบทหนังเรื่องยาวก็กลายเป็นข้อได้เปรียบในองค์ประกอบ เพราะนี่คือการแต่งเติมเนื้อหนังมังสาและสร้างชีวิตชีวาให้กับคาแรกเตอร์ต่าง ๆ ด้วยการใช้อินเนอร์ที่เข้มข้นยิ่งกว่าเวอร์ชันไหน ๆ นี่จึงทำให้เป็นจุดที่ค่อนข้างเข้มข้นของหนังมาก ๆ เลยทีเดียว

ขณะที่งานสร้างและโปรดักชันต่าง ๆ เต็มไปด้วยสีสันความอลังการและตระการตาคุ้มคาราคาตั๋วหนังโดยแท้ ด้วยงานออกแบบโดย "นาธาน ครอว์ลีย์" มือสร้างที่เคยเข้าชิงออสการ์มาแล้วถึง 6 ครั้ง กับผลงานล่าสุดที่เข้าตาคนดูก็คือ Wonka เมื่อปีก่อน เรียกได้ว่าเขาไม่ทำให้ผิดหวังเลย มันคือการสาธยายความแฟนตาซีแบบเวอวังติดแกลมที่ดูดีออกมาบนโลกซินีเมติกที่ช่วยผลักดันอารมณ์ของหนังได้อยู่หมัดในทุก ๆ ซีน

กับที่โดดเด่นไม่แพ้กันก็คืองานออกแบบเสื้อผ้าโดย "พอล แทซเวลล์" ดีไซเนอร์ผู้ช่ำชองงานสร้างระดับบอร์ดเวย์มาเป็นอย่างดี เพราะเขาก็คือผู้ที่อยู่เบื้องหลังของชุดต่าง ๆ ในโชว์ The Wiz Live! และเพิ่งได้เข้าชิงออสการ์จากงานนี้ในเรื่อง West Side Story เมื่อไม่กี่ปีก่อน เขาจึงวาดลวดลายแบบจัดเต็ม ไม่ออมมือ และไม่แผ่ว ดีไซน์ชุดต่าง ๆ ได้บียอนด์คำว่าเวอวังไปได้อีกระดับ กลายเป็นอีกหนึ่งส่วนที่หนังทำได้ถึงจริง ๆ

และที่คาดไม่ได้เลยก็คือพาร์ทงานดนตรี ที่ซาวน์ประกอบเรื่องนี้ได้ "จอห์น พาวเวลล์" เจ้าพ่อเพลงหนังการ์ตูนมารังสรรค์สร้างเสียงความบันเทิงเชิงแฟนตาซีได้อย่างอบอวลหัวใจ ขณะที่บทเพลงดังต่าง ๆ จากฉบับบอร์ดเวย์ก็ถูกนำมามิกซ์ท่วงทำนองใหม่ให้เข้ากับเนื้อหา พร้อมกับเก็บรายละเอียดในทุก ๆ เนื้อเพลงออกมาได้อย่างทรงพลัง ครบทุกองก์ และนี่คือไฮไลต์ที่เจิดจ้าของหนังมิวสิคัลที่ทำได้ปังมาก

ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือทีมนักแสดงที่แคสติ้งออกมาได้แจ่มทุกคนเลย "ซินเธีย เอริโว" สาวคนนี้ไม่ทำให้ผิดหวังจริง ๆ กับตำแหน่งสาวผิวสีที่ครบเครื่อง เธอได้ทำการถอดวิญญาณตัวเองและเป็น เอลฟาบา ได้แบบคนดูแทบจะเชื่อไปแล้วจริง ๆ ว่าเธอตัวสีเขียว เธอยังงัดทักษะการแสดงดรามาชั้นเลิศของตัวเองออกมาใช้ได้อย่างคุ้มค่า เข้าซีนอารมณ์เมื่อไหร่ก็เผลอน้ำตาคลอตามด้วยทุกครั้ง

แต่ถ้วยตำแหน่ง MVP ประจำเรื่องนี้ก็ต้องมอบให้กับ "อารีอานา กรานเด" นี่คือการแสดงนำแบบเต็ม ๆ ในผลงานหนังฟอร์มใหญ่ยักษ์เรื่องแรกของเธอ ที่เรียกได้ว่าจริตมาเต็ม อินเนอร์ใส่แรง สมกับตำแหน่งลูกสาวแห่งชาติ บทหนังค่อนข้างรักเธอ และเธอก็ดีไซน์มันออกมาได้เกินเบอร์ในทิศทางที่ดีเยี่ยม กลายเป็นคาแรกเตอร์ที่ไม่หายไม่จม และยังเป็นที่โปรดปรานของคนดูโดยปริยาย

โดยที่ทีมนักแสดงคนอื่น ๆ ก็ไม่น้อยหน้าเลยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น "มิเชล โหย่ว", "เจฟฟ์ โกลด์บลูม" และ "โจนาธาน เบลีย์" ที่รายหลังนี้ทำการปลดปล่อยทางการแสดงอีกครั้ง กับการปล่อยจอยเต็ม ๆ กับการงัดทักษะโชว์มิวสิคัลออกมาได้เต็มหน่วยเต็มก้าน และหนังยังโปรยอีสเตอร์เอ้กในส่วนการแสดงเอาไว้ในหลาย ๆ จุด ที่ถ้าใครติดตามจักรวาลนี้ก็อาจจะเผลอร้องว้าวได้เหมือนกัน

ดูเหมือนว่าเราจะได้ค้นพบหนังมิวสิคัลเรื่องประทับใจเรื่องใหม่เข้าเสียแล้ว เพราะเมื่อพิจารณาดูในหลาย ๆ องค์ประกอบที่ร่ายเรียงมาก กับพบว่า Wicked ได้มายกระดับบรรทัดฐานอีกระดับให้กับวงการหนังแฟนตาซีมิวสิคัลในตอนนี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าระหว่างที่ดูหนัง ก็แอบอดคิดนำไปเปรียบเทียบกับผลงานสไตล์เดียวกันจากค่ายปราสาทวิเศษชื่อดัง ที่กลายเป็นว่าคอนเทนท์เรื่องนี้ได้แซงหน้าไปอย่างเหลือเชื่อ เพราะความซื่อสัตย์ต่อคนดู ซื่อสัตย์ต่อต้นฉบับ ไม่จำเป็นต้องโว้กใด ๆ ให้เหนื่อยหน่าย ก็ให้ผลลัพธ์ที่ดีได้เหมือนกัน

ดังนั้นในตอนนี้ก็คงจะถึงเวลาที่ต้องร้องเพลงรอไปอีกสักปี เพราะนี่เป็นแค่เพียงครึ่งแรกของความมหัศจรรย์หรรษาทั้งหมด ถ้าหากเป็นละครเวทีก็คงจะถึงช่วงจังหวะที่ปิดฉากองค์แรก ให้ผู้ชมได้พักเบรกเข้าห้องน้ำ แต่สำหรับฉบับหนังอาจจะพักนานเป็นปี อย่างน้อย ๆ Wicked ก็น่าจะมีกลิ่นอายความดีงามที่น่าจดจำ จะกลับมาดูซ้ำอีกก็น่าจะเพลินใจกับทุก ๆ องค์ประกอบที่ทำถึง ระหว่างที่รอเรื่องราวต่อไป