รีเซต

"ป๊ายปาย โอริโอ้" เล่าวันสูญเสียเสาหลัก พ่อคือแรงหนุนหลัง กำลังใจสำคัญของชีวิต

"ป๊ายปาย โอริโอ้" เล่าวันสูญเสียเสาหลัก พ่อคือแรงหนุนหลัง กำลังใจสำคัญของชีวิต
EntertainmentReport3
17 ตุลาคม 2568 ( 11:25 )
19

เพิ่งผ่านการสูญเสียครั้งใหญ่ในชีวิตมาหมาด ๆ สำหรับสาวเท่คนเก่ง "ป๊ายปาย โอริโอ้" กับการจากลาของคุณพ่อที่จากไปอย่างสงบเมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา งานนี้เดินทางมาเปิดใจผ่านรายการ "โต๊ะหนูแหม่ม" ช่องเวิร์คพอยท์ หมายเลข 23 กับพิธีกรตัวแม่ "หนูแหม่ม สุริวิภา" ขอเล่าถึงความรัก ความผูกผัน และความทรงจำที่ไม่เคยลืมกับคุณพ่อสุดที่รัก ที่งานนี้ไม่มีน้ำตา มีแต่เรื่องราวดี ๆ ที่น่าจดจำ

"ป๊ายปาย โอริโอ้" เล่าวันสูญเสียเสาหลัก พ่อคือแรงหนุนหลัง

>>ดูทีวีออนไลน์ ช่อง เวิร์คพอยท์ 23<<

ขอถามตอนนี้ข้างในจิตใจเป็นยังไงบ้าง ?
ป๊ายปาย : คือมันแข็งแรงขึ้น ถ้าถามว่าเตรียมใจมามั้ย ก็เตรียมใจมาระดับนึง เพราะว่าพ่อเข้าโรงพยาบาลมาตั้งแต่ช่วงแผ่นดินไหว แล้วก็รักษาตัวมาเรื่อย ๆ

ถามถึงอาการป่วย คุณพ่อป่วยเป็นอะไร ?
ป๊ายปาย : เป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจ เป็นโรคไต ไตวาย เราก็รักษาตัวมาเรื่อย ๆ จนเมื่อช่วงเดือนที่แล้วมีอาการทรุดหนัก เนื่องด้วยเลือดคลั่งในสมองไปกระทบกับแกนสมอง ระบบมันเริ่มรวน ก็รักษากันสุดความสามารถของทีมแพทย์ก็ยื้อไว้ไม่ได้

แล้วป๊ายปายได้อยู่กับพ่อ จนวินาทีสุดท้ายเลยมั้ย ?
ป๊ายปาย : อยู่ครับ อยู่จนวินาทีสุดท้าย ทีมแพทย์บอกว่าพ่อจะอยู่ถึงเที่ยงคืน เราก็รอสแตนด์บายอยู่ที่นั้นเลย แล้วก็เป็นคนที่เปลี่ยนชุดให้พ่อด้วย

ได้มีพูดหรือสั่งเสียอะไรไว้ก่อนท่านจะไปมั้ย ?
ป๊ายปาย : คือมันแย่ตรงที่ท่านไม่ได้มีสติแล้ว เป็นแค่ร่างอยู่รอการรักษา มีลมหายใจแต่ไม่สามารถพูดคุยได้

แล้วโมเมนต์ปกติเวลาเจอกันจะคุยอะไรกัน ?
ป๊ายปาย : ก็จะคุยถึงเรื่องที่ผ่านมา และก็มีคุยเรื่องอนาคตที่ยังมาไม่ถึง คุยกันทุก ๆ เรื่อง ทุกอย่างในชีวิตของป๊ายจะมีพ่อหนุนหลังอยู่เสมอ พ่อจะเป็นที่ปรึกษาทั้งในเรื่องการงาน หรือว่าเรื่องการใช้ชีวิต เราก็ใช้ชีวิตตามปกติแม้ว่าเราจะไม่อยู่ด้วยกัน

ช่วงเด็กเราอยู่ห่างไกลกันทางคุณพ่อยังไง ?
ป๊ายปาย : ป๊ายเติบโตและใช้ชีวิตอยู่ที่ศรีสะเกษ แต่พ่ออยู่ที่กรุงเทพ ถ้าได้มากรุงเทพก็จะได้จบป๊าอยู่บ่อย ๆ ตอนเด็ก ๆ เราโฟกัสที่คุณแม่อยู่กับคุณแม่ด้วยความเข้าใจ สิ่งหนึ่งที่ติดอยู่กับตัวเราก็คือว่ารู้แค่ในสิ่งที่เขาอยากให้เรารู้ มันก็เติบโตมาแบบนี้ แม่อยากให้รู้อะไรก็อยากรู้แค่นั้น พ่ออยากให้รู้อะไรก็รู้แค่ตรงนั้น

ที่ผ่านมาคุยกับคุณพ่อได้ทุกเรื่องมั้ย ?
ป๊ายปาย : คุยกับคุณพ่อได้ทุกเรื่อง แต่ป๊ายจะเลือกคุยแค่บางเรื่อง บ้างเรื่องการงานป๊าจะเป็นคนที่ให้คำแนะนำได้ดี ก็เลยโฟกัสแค่บางอย่าง

อย่างความฝันที่อยากเป็นนักร้องคุณพ่อเป็นคนให้การสนับสนุน ?
ป๊ายปาย : ในช่วงโควิดเริ่มแรกๆ ป๊ายเริ่มมีชื่อเสียงมากับนุ๊ก ผมโดนด่าเยอะมากในเรื่องของการร้องเพลง หรือว่าเวลาออนสเตจไปแล้วบุคลิกภาพไม่ดี คราวนี้มันก็เลยไม่อยากทำแล้ว ทำไมเราต้องทำ ทำแล้วโดนด่าทำไปทำไม ก็เลยมีความคิดว่าไม่อยากทำแล้ว แม่ก็บอกว่าคัมแบคกลับบ้านมาได้เลย แต่พ่อพูดว่าต่อให้คนทั้งโลกด่ามึงอยู่ แต่พ่อภูมิใจในตัวมึงมาก ๆ เป็นคำที่พ่อบอก

พอถึงวันที่เราประสบความสำเร็จแล้วพ่อว่ายังไงบ้าง ?
ป๊ายปาย : ได้รับคำชมครับ ในวัย 29 ปี ได้รับคำชมจากป๊าครั้งแรก ภูมิใจในตัวของเรา เป็นความรู้สึกที่ว่าดีใจนะอยู่ในใจ แต่มันทำได้แค่แสดงออกมาทางรอยยิ้มให้ป๊าดู เป็นความรู้สึกที่ตื้นตันมาตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ ทุกครั้งที่ออกสเตทขึ้นเวทีไปแล้วไม่อยากทำจะนึกถึงคำนี้มาเสมอครับ

แล้วตอนที่เราหาเงินได้แล้ว เคยเอาเงินไปให้ท่านภูมิใจมั้ย ?
ป๊ายปาย : เคยเอาไปให้ เป็นก้อนใหญ่ ๆ แต่คุณพ่อไม่รับ คุณพ่อบอกว่ามึงเอาเก็บไว้เถอะไม่ต้องให้กูหรอก เก็บไว้ใช้ถ้าอยากให้ก็เอาไปให้แม่ ในมุมของป๊าย ป๊ายคิดว่าป๊าคงเห็นว่าเราเติบโตมาด้วยตัวเราเอง มันเป็นเงินจากน้ำพักน้ำแรงของเรา เค้าก็คงอยากให้เราได้ใช้

 

อ่าน ข่าวบันเทิงวันนี้ ที่เกี่ยวข้อง :