"แจ็ค แฟนฉัน" ร่ำไห้ เคยกลัวตายเพราะแพนิค สู่การปรับตัวเป็นพ่อและสามีที่ดี

เผยตัวตนที่ไม่เคยมีใครรู้! "แจ็ค แฟนฉัน" ในรายการ "WOODY FM" ถึงชีวิตรัก การเป็นพ่อและสามี ต้องปรับตัวหลังเผชิญกับปัญหาหนัก ร่ำไห้ เคยกลัวตายเพราะความเครียดจากโรคแพนิค เรียนรู้ที่จะเป็นผู้ให้มากกว่าผู้รับ สู่เปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อครอบครัว
"แจ็ค แฟนฉัน" ร่ำไห้ เคยกลัวตายเพราะแพนิค
จริง ๆ แล้ว แจ็ค ถ้าอยู่บ้านไม่ได้อยู่กับภรรยาและลูกจะเป็นยังไง ?
แจ็ค แฟนฉัน : ผมจะนิ่ง ๆ แล้วจะไม่ค่อยคุยกับใคร ถ้าแบบเลือกได้อยากอยู่เฉย ๆ เลย เพราะว่าข้างนอกผมหนักมาแล้ว ผมพยายามจะไม่เห็นแก่ตัว ตั้งแต่มีครอบครัวนะ เพราะแต่ก่อนผมจะมีความเห็นแก่ตัวในที่นี้คือแบบเหนื่อยข้างนอกมาละขอพักก่อน เพราะเดี๋ยวต้องไปเหนื่อยข้างนอกอีก เพราะเลือกแล้วว่าเกิดมาครั้งนี้เป็นผู้ให้นะ มากกว่าผู้รับ ผู้รับมันมีไหม มันมี ไม่ใช่ว่าเราจะตอแหลคนว่าแหมอย่างแกไม่ได้หรอกอะไรอย่างงี้ ผมก็เลยรู้สึกว่าผมก็ได้ด้วย แต่ผมเป็นผู้ให้มากมากกว่า เพราะรู้สึกว่ามีความสุข ถ้าผมตายไป ตอนแรกเป็นคนกลัวตายมาก ถ้าผมจะตายจริง ๆ ก่อนผมจะต้องตาย ผมจะบอกว่า คุ้มแล้ว (เสียงสั่นจะร้องไห้) หมายถึงว่าแบบจะตายแล้วเหรอ อะไรอย่างนี้ คุ้มแล้ว พ่อแม่เราแบบทุกอย่าง ขอเลือกตายคือขอนอนแบบเหมือนยายเราอะไรอย่างนี้ แบบที่เห็นยายเรามา คือยายเป็นผู้ให้ที่แบบว่าเขาเป็นแบบอย่างผมเลย (ร้องไห้) ยายผมคือที่สุดเลย แต่ผมยังไม่อยากตายอะไรอย่างนี้ ผมแค่รู้สึกว่ากลัวตายมาก ผมกลัวตาย ผมเคยเป็นแพนิคแบบพี่วันหนึ่ง ผมจำได้เลย ก็เลยรู้สึกว่าไอ้คนที่มันมีความเครียดสูง ผมเลยเข้าใจคนที่เป็นโรคแบบแพนิค หรือแบบคนที่เป็นโรคซึมเศร้า
เคยเป็นด้วยเหรอ ?
แจ็ค แฟนฉัน : เป็นวันเดียว แล้วผมก็แบบเราจะเป็นไม่ได้ ผมด่าแพนิคเลย ผมด่ามันเลย เพราะว่าคนไม่เครียดกับงานไม่เข้าใจหรอก ผมโกรธเลย ผมต้องขับรถไปหาเพื่อนผมเดี๋ยวนั้นเลย ก็เลยเข้าใจ ผมตั้งใจฟังพี่ แล้วผมก็แบบแค่รู้สึกว่าการตาย ทุกคนกลัวหมด เพราะรู้สึกว่าคือดับไปเลย แต่ทีนี้ผมเคยอยากทำรายการหนึ่ง แบบที่ผมเชื่อมั่นว่าปีหน้าผมต้องทำให้ได้เลย คือผมเชื่อว่าผมมีประสบการณ์จากอายุ 35 แล้ว เชื่อว่ารายการของผมที่จะทำต่อไปได้ประโยชน์ต่อสังคม ไม่ได้แค่ตลก มันเยอะไปหมดเลย
ความเครียดในการมีลูกในการมีครอบครัวในการหาตังค์ อีกหลายคนในประเทศก็เจอสภาวะแบบนี้คุณอยู่กับมันยังไงได้บ้าง เพื่อให้มีพลังกายต่อไปในแต่ละวัน ?
แจ็ค แฟนฉัน : ผมมองในยุคแต่ละ GEN นะ แต่ GEN ผมเชื่อว่าหลาย ๆ คน ผมย้ำหลาย ๆ คนทั่วโลกนะ ประสบปัญหาเยอะที่สุด ถ้าไม่ย้อนตั้งแต่ยุคต้มยำกุ้งก็จะเป็นนักธุรกิจ แต่ตอนนี้เราอยู่ในยุคที่มันเจอกับหลาย ๆ โรค หลาย ๆ อย่าง หลาย ๆ ปัจจัย มันทำให้คนมีความเครียดสูง ผมก็เลยรู้สึกว่าไอ้สิ่งที่ผมจะบอกกับคุณผู้ชมได้ในฐานะที่เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง คือผมแค่รู้สึกว่าอยู่ให้พอดี ประคองและอย่าประมาท อะไรที่รู้ว่าจะเสี่ยงแม้แค่นิดเดียวอย่าไปทำ เพราะว่าถ้ามันเกิดผลกระทบที่ตามมา ความรับผิดชอบของเราและครอบครัวไม่ไหวจริง ๆ ก็เลยอยากให้ในยุคนี้ทำอะไรตั้งสติ ทุกคนเคยผ่านเรื่องแย่ ๆ มาหมด ทุกคนเคยผ่านเรื่องเลวร้ายมาหมด คุณต้องคิดเสมอว่าการทำงานหรือเราไปรบข้างนอก มันมีบาดแผลหมดจากเจ้านายเอย จากทีมงานเอย ไอ้บาดแผลตรงนี้ มันจะทำให้คุณจำและเก็บไว้ว่าในอนาคตเรามีบทเรียนตรงนี้แล้ว บาดแผลพวกนี้มันคือบทเรียนที่คุณไปเจอมาแล้ว แล้วคุณอย่าไปเครียดเยอะ เพราะถ้าคุณเครียดเยอะสมองของคุณมันพังไม่ได้ สมองของคุณมันต้องไปต่อ มันต้องไปต่อแบบที่อื่น เพราะฉะนั้นความโกรธไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นเลย ความโกรธมันได้แค่แป๊บเดียวได้แค่สะใจ แต่เมื่อไหร่ที่ดูถูกเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน แล้วใช้เขาไม่เป็น อันนี้มันมองให้เห็นเลยว่าศักยภาพของคนมันมีอีกเยอะ ที่คนเก่ง ๆ หรือใครที่จะต้องไปเจออะไรมาอีกเยอะ เพราะฉะนั้นเก็บตรงนี้ไว้ก่อน ปัญหา ณ ปัจจุบันตอนนี้โลกมันมีปัญหากันหมด เพราะฉะนั้นค่อย ๆใช้ชีวิต อะไรประหยัดได้ประหยัดอย่าไปเสี่ยง ผมเคยนั่งวิเคราะห์ครับว่าวัตถุทุกอย่างทุกคนอยากมีหมด เพราะคนส่วนใหญ่บ้าวัตถุ ทำไมต้องค่านิยมสำคัญเพราะแค่มีของอะไรหลักแสนหลักล้าน มือไม้อ่อนทันทีเลย เพราะฉะนั้นผมเพิ่งมาค้นพบว่าถ้าเราไม่บ้าวัตถุเยอะ แต่ใจของเราเก่งหรือร่างกายของเรา ไม่ต้องทำตัวแพง ไปไหนก็จะมีแต่คนรัก ผมก็เลยเลือกทิ้งวัตถุนั้นออกไป ผมพยายามจะให้คนรักผม
แจ็คเองก็เคยติดวัตถุหนักมาก ?
แจ็ค แฟนฉัน : มาก ๆ ครับ
ทำไมถึงเลิกตัดสินใจวาง ?
แจ็ค แฟนฉัน : ขบวนการของวัตถุ ผมเชื่อว่าหลาย ๆ คนที่ยังไม่เคยมีก็อยากจะมี เราห้ามความคิดเขาไม่ได้ ไม่ผิด ทุกคนอยากมีหมด ทุกคนอยากมีบ้านหลังใหญ่ ทุกคนอยากมีรถซูเปอร์คาร์ ทุกคนอยากมีนาฬิกาแบรนด์เนม ทั้งหมดทั้งตัว ผมเคยเป็นหนึ่งในนั้นที่โคตรอยากมี แล้วรู้สึกว่าเลือกไม่มีเพราะว่าตัวผมเองมานั่งคิดว่าถ้ามี ผมเครียด ผมกังวล ยังไม่ถึงขั้นที่แบบเราจะทำอะไรก็ได้แล้ว รู้สึกว่าวัตถุพวกนี้มันเลือกเฉพาะที่มีประโยชน์ดีกว่าแล้วมันต่อยอด เพราะผมมานั่งคิด สมมุติผมมีนาฬิกาแพง ๆใช่ไหม หรือมีรถแพง ๆ ผมเลือกมีประมาณหนึ่ง ที่เพื่อเซฟชีวิตผม คงไม่สุดไปกว่านี้เพราะรู้สึกว่าถ้าผมเอาของแพงแล้วผมใช้ประมาณหนึ่ง ไม่ใช่ว่าผมไม่แพงเลยนะ ผมก็ยังมีอยู่นะ ผมเอาส่วนนี้ไปให้ผู้อื่นดีกว่า ไปให้ที่เขาไม่มี เพราะว่าการให้ตรงนี้มันอาจจะช่วยคนอื่นที่เขาหล่อเลี้ยง ผมไม่ได้ให้แบบปัจจุบันนะ เพราะปัจจุบันคนก็กลัวการบริจาค และในยุคปัจจุบันนี้คนมันกลัว คนมันเครียด เรื่องเอาไปให้ตรงนี้แล้วยังไง เอาเงินไปทางไหน ก็เลยรู้สึกว่าของวัตถุพวกนี้มันทำให้ผมกลัว เพราะถ้าผมมีเยอะ ผมจะมีความไม่น่ารัก ผมก็เลยทิ้งไอ้วัตถุนั้นออกไป แล้วผมเอาไอ้วัตถุที่ผมอยากมีไปให้คนอื่น
ที่บอกว่าไม่น่ารักเป็นยังไงบ้างในอดีต ?
แจ็ค แฟนฉัน : สมมุติว่าถ้าผมมีเยอะ บางทีคนอาจจะมองว่าแจ็คตอแหล เพราะยังไม่มีไงก็เลยมาพูด ผมมีครับ แต่ผมเลือกที่จะไม่โชว์ เพราะผมรู้สึกว่าความไม่น่ารัก คือมันไม่ถูกใจคนหลาย ๆ คน มันไม่ถูกกาลเทศะ เพราะในมุมของผม แค่มองว่าพวกวัตถุตรงนี้มันทำให้เราไม่น่ารัก คือเราจะมีความแบบหลงกับมัน แล้วก็ไปอยู่ในกลุ่มที่แบบเราไม่ใช่ เราไม่ใช้กลุ่มนี้ เราพยายามอย่าไป คือมันจะทำให้ผมเป๋ ชีวิตผมจะเป๋อะไรประมาณนั้น คืออย่างเช่นมันจะเป็นอัตโนมัติเลยว่าพอมีอันนี้ปุ๊บ ต้องมีอันอื่นต่อ แล้วเราก็เช็คจากภาพรวมทั้งหมด ทำไมบ้านเราถึงมีคดีฟอกเงินเยอะรู้ไหม ก็เพราะว่าวัตถุนั้นแหละ ถ้าไม่ไปทำตรงนั้น อยู่แบบพอเพียงหรืออยู่แบบประคองชีวิต ผมว่ามันก็จะไม่มีเหตุการณ์ตรงนี้มาเยอะ ลองตัดออกบ้าง
คากิ น่ารักมากเขาเปลี่ยนชีวิตคุณเลย ?
แจ็ค แฟนฉัน : เปลี่ยนมากครับ เปลี่ยนในที่นี้คือ ผมซัพพอร์ตภรรยาและลูกมาก ๆ เพราะผมเลือกที่จะเป็นผู้นำ แล้วผมก็มีปมตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ แล้ว แต่ผมไม่โทษใคร เราพยายามจะทำให้มันดีที่สุด เชื่อว่าทุกครอบครัวมีปัญหาหมด แต่เราพยายามจะเลี้ยงครอบครัวให้ไปได้ไกลที่สุด ณ วันนี้คุยกันอาจจะไม่มีปัญหา วันข้างหน้าเราไม่รู้แต่เลือกที่จะโพรเทคความรู้สึกของความเป็นแม่ คนที่เป็นแม่ยิ่งใหญ่ที่สุด เพราะว่าถ้าแม่มีความสุข ลูกก็จะมีความสุข เพราะฉะนั้นต้องทำให้แม่มีความสุขก่อนลูกถึงจะมีความสุข ความเป็นผู้หญิงมันละเอียดอ่อน เค้าแบกทุกอย่าง เราอย่าไปเห็นแก่ตัว เราเป็นผู้ชายนะ เพราะฉะนั้นถ้าเลือกที่จะมีครอบครัวหรือใครสักคนหนึ่งมาเติมเต็มแล้ว (น้ำตาซึม) ต้องมีสติให้มาก ๆ ต้องวางแผนชีวิตให้ดี ๆ อย่าไปคิดแค่ว่าช่างมัน ๆ ไม่ได้ช่วยอะไรให้สังคมมันดีขึ้น เอาแบบง่ายๆเลย เพราะว่าเด็กที่ออกมา หรือเด็กที่มาเจอโลกเขาก็อยากที่จะมีชีวิตที่มีความสุข มีมันสมองที่ดี อย่างน้อยไม่บังคับลูก อยากเป็นเพศไหน ลูกอยากทำอาชีพอะไร มันคือความสุขของลูก เพราะว่าเรามองว่าเมียเราเลือกแล้วที่จะให้เกียรติเรา ต้องให้เกียรติเมียเรามากขึ้นกว่าเดิม
เป็นทั้งพ่อดีเด่นและสามีดีเด่นแล้วตอนนี้ ?
แจ็ค แฟนฉัน : คนอาจจะไม่ค่อยชอบนะว่าแบบคนอาจจะบอกปลอม
แล้วแคร์ไหมวันนี้ ?
แจ็ค แฟนฉัน : ก็ถ้าคนพูดก็อาจจะแคร์นิด ๆ
พี่ว่าคุณเป็นมนุษย์ที่ครบองค์นะ ครบองค์เลย ตลกก็มี สั่งได้ด้วย ตลกมุกมาได้หมด แต่ในเวลาเดียวกันก็เป็นคนที่ค่อนข้างจะจริงจัง ไม่ได้บอกว่าเครียด หมายถึงว่ารู้ว่าต้องการอะไรกับชีวิต ?
แจ็ค แฟนฉัน : ถ้าผมโตผมยังมาเล่นมุกหยาบคาย คนมาดูผมในช่องคุณวู้ดดี้ ที่ไม่ชอบผมในเรื่องของการหยาบคาย นี่คือตัวตนผม แต่จริง ๆ แล้วเวลาผมไปเล่นตลกไปออกช่องอื่น ถ้าผมไม่เล่นตลกเขาไม่จ้างผม ไม่ตลกในที่นี้คือไม่หยาบคาย คนจะมองว่าถ้าหยาบคายแล้วจะตลก จริง ๆ ผมก็อึดอัด เพราะคือถ้าไม่เล่นไม่ได้ ผมก็จะไม่มีเงินเลี้ยงครอบครัวแค่นั้นเอง
สามารถติดตาม "WOODY FM" ได้ที่ช่องทาง Podcast : WOODY FM, Facebook : Woody, Youtube : Woody ทุกวันพุธ เวลา 18.00 น. และสามารถรับชมย้อนหลัง ได้ที่นี่
อ่าน ข่าวบันเทิงวันนี้ ที่เกี่ยวข้อง :