รีเซต

เงื่อนไขที่ ซิดนีย์ สวีนีย์ รีเควสใน "Immaculate" ขอเลือดโชก ๆ Jump Scare เยอะ ๆ

เงื่อนไขที่ ซิดนีย์ สวีนีย์ รีเควสใน "Immaculate" ขอเลือดโชก ๆ Jump Scare เยอะ ๆ
แบไต๋
26 มีนาคม 2567 ( 19:30 )
76

คำเตือน: บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาสำคัญของภาพยนตร์ Immaculate

ณ เวลานี้ ‘Immaculate’ หนังสยองขวัญ/ทริลเลอร์เรื่องใหม่ที่นำแสดงโดย ซิดนีย์ สวีนนีย์ (Sydney Sweeney) นักแสดงสาวฮอตของปีนี้เพิ่งเข้าฉายในไทยไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้จะได้คะแนนรีวิวจากเว็บไซต์ Rotten Tomatoes ไปกว่า 73% แต่ก็ยังทำรายได้ในประเทศได้ประมาณ 2 ล้านเหรียญ จากทุนสร้างที่คาดการณ์ว่าน่าจะต่ำกว่า 10 ล้านเหรียญ โดยที่ยังไม่ได้รวมตัวเลขรายได้จากการฉายทั่วโลกเข้าไปด้วย

ความน่าสนใจของหนังเรื่องนี้คงไม่ใช่แค่เรื่องราวอันพิลึกพิลั่นของซิสเตอร์เซซิเลีย แม่ชีวัยสาวที่ได้รับคำเชิญให้เข้าไปอาศัยยังคอนแวนต์ที่ตั้งอยู่ในชนบทห่างไกลของอิตาลี ณ ที่นั่นเธอได้พบเจอกับเรื่องราวประหลาด ๆ มากมาย จนกระทั่งวันหนึ่ง เธอได้พบว่าตัวเธอเองกำลังตั้งครรภ์อยู่ ทั้งที่เธอเป็นแม่ชีอยู่แต่ในคอนแวนต์ หลายคนในคอนแวนต์มองว่าเด็กที่อยู่ในครรภ์บริสุทธิ์ของเซซิเลียคือพระบุตรที่กลับมากำเนิด เฉกเช่นเดียวกับครรภ์บริสุทธิ์ของพระแม่มารีย์ ในขณะที่เธอเองกลับมองว่าการตั้งครรภ์ของเธอคือสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในชีวิต

ซิดนีย์ สวีนีย์ (Sydney Sweeney) นักแสดงผู้รับบทนำซิสเตอร์เซซิเลีย และโปรดิวเซอร์หนัง ในนามบริษัท Fifty-Fifty Films ที่เธอก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2020 และ ไมเคิล โมฮาน (Michael Mohan) ผู้กำกับที่เคยร่วมงานกับสวีนนีย์มาแล้วในหนังทริลเลอร์ ‘The Voyeurs’ (2021) ที่เธอเลือกมารับหน้าที่กำกับอีกครั้ง ได้เปิดเผยเบื้องหลังน่าสนใจเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้กับเว็บไซต์ Entertainment Weekly เพราะนี่ไม่ใช่โปรเจ็กต์ที่เพิ่งเกิดขึ้น แต่เป็นโปรเจ็กต์ที่สวีนนีย์เคยมีส่วนร่วมมานานนับ 10 ปีแล้ว เพราะเธอเคยมีโอกาสออดิชันบทหนังเรื่องนี้มาแล้วเมื่อตอนอายุ 16 ปี แต่เธอเองก็ยังคงติดใจกับบทบาทนี้

และนั่นก็ทำให้เธอตัดสินใจนำโปรเจ็กต์นี้มาทำต่อ เริ่มแรก เธอตัดสินใจให้ แอนดรูว์ โลเบล (Andrew Lobel) เข้ามาปรับแก้ไขบทดั้งเดิม ตั้งแต่การปรับให้ตัวของซิสเตอร์เซซิเลียมีความโตขึ้นตามอายุของสวีนนีย์ และถ้าสังเกตดี ๆ สำหรับคนที่ดูหนังแล้วจะพบว่า ศัตรูที่เข้ามารุกรานตัวของเซซิเลียนั้นไม่ได้เป็นสิ่งที่เหนือธรรมชาติ แต่เกิดขึ้นจากความชั่วร้ายของมนุษย์ที่อยู่ภายในทั้งสิ้น

“ฉันเป็นคนที่ชอบหนังสยองขวัญค่ะ และฉันก็มองหาจังหวะที่จะทำมัน แต่บทที่ฉันได้มา มันเป็นแค่การถูกไล่ล่าโดยสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติ โดยที่ไม่ได้ยึดตามหลักจิตวิทยาอะไร เมื่อย้อนกลับไป (ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา) ฉันมักจะนึกถึง (บทหนัง) ‘Immaculate’ อยู่เสมอ เพราะส่วนที่น่ากลัวที่สุดของหนังเรื่องนี้คือความเป็นจริงและความเป็นมนุษย์ และฉันก็ชอบความจริงที่ว่า เธอพยายามจะหนี และความต้องการหนีนั้นก็เบ่งบานขึ้นในตัวเธอ”

ในตอนท้ายของหนัง ‘Immaculate’ ซิสเตอร์เซซิเลียค้นพบว่าตัวเธอเองตั้งครรภ์ขึ้นมาเองไม่เคยผ่านการมีเพศสัมพันธ์ใด ๆ ในขณะที่ทั้งบรรดาแม่ชีและพระคาดินัลมองว่าเป็นปาฏิหาริย์ แต่เธอกลับพบว่านี่ไม่ใช่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นสิ่งที่ คุณพ่อซัล เทเดสคี (อัลวาโร มอร์เต – Álvaro Morte) บาทหลวงอดีตนักวิทยาศาสตร์ จงใจทำให้เกิดขึ้นด้วยวิธีการทางชีววิทยา ด้วยการนำเอา DNA ที่สกัดมาจากคราบเลือดบนตะปู (ที่อ้างว่าเป็นตะปูที่ใช้ตรึงพระเยซูบนกางเขน) และใช้ร่างของเซซิเลียเป็นเหมือนภาชนะรองรับการกำเนิดร่างโคลนนิงของพระผู้ไถ่ ซึ่งที่ผ่านมาบาทหลวงไม่เคยทำได้สำเร็จเลย แม้แต่ครั้งนี้ก็ด้วยเช่นกัน

เซซิเลียจึงพยายามจะหลบหนีเอาตัวรอดจากคอนแวนต์แห่งนี้ ด้วยการหลอกบาทหลวงว่าเธอเกิดอาการตกเลือดด้วยการตัดหัวไก่แล้วเอาเลือดมาชโลม และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการก่อเหตุฆาตกรรมในคอนแวนต์ที่เกิดขึ้นในองค์สุดท้ายของหนัง และถ้าหนังเรื่องนี้จะเต็มไปด้วยเลือดโชก และจังหวะ Jump Scare หรือจังหวะสะดุ้งที่ใส่เข้ามาในหนังเป็นจำนวนมาก นั่นก็เป็นเพราะความตั้งใจของโปรดิวเซอร์อย่างสวีนนีย์ที่อยากจะใส่องค์ประกอบเหล่านี้เข้ามาในหนังนั่นเอง โดยเธอได้แรงบันดาลใจจากหนังสยองขวัญเรื่อง ‘Carrie’ (1976) และ ‘Ready or Not’ (2019)

“สิ่งสำคัญของฉันก็คือในตอนท้ายของหนัง ฉันแค่อยากจะเปียกโชกไปด้วยเลือดค่ะ ฉันชอบช่วงเวลาเหล่านั้น ที่ในตอนท้ายของหนัง จะมีผู้หญิงตัวแสบที่เพิ่งผ่านเรื่องเลวร้าย และจัดการทุกอย่างเรียบร้อยในตอนจบ”

“มันเป็นสมดุลอันยอดเยี่ยมระหว่างช่วงเวลาแห่งความผ่อนคลาย กับสิ่งที่เราอยากจะไปให้ถึง ฉันเป็นแฟนตัวยงของหนังสยองขวัญทุกแบบ และฉันก็อยากได้อะไรที่มีส่วนผสมของทุกอย่างนั้นอย่างละนิดหน่อย ฉันชอบ Jump Scare ดังนั้น ฉันจึงพยายามใส่ Jump Scare ในหนังเรื่องนี้เยอะ ๆ ในขณะที่ไมก์เป็นคนชอบหนังระทึกขวัญจิตวิทยามาก ๆ ดังนั้น ฉากแนวจิตวิทยาที่ยาวและตื่นเต้นมาก ๆ ก็มาจากเขานั้นเอง มันจึงเป็นเพียงส่วนผสมบางอย่างจากทั้งหมดในความรักและชื่นชอบในหนังสยองขวัญ และจากนั้นก็สร้างสรรค์สิ่งที่สนุก น่าสนใจ น่าตื่นเต้น และก้าวข้ามขีดจำกัดไปให้ได้”

ในขณะที่ตอนท้ายของหนัง เราจะได้เห็นฉาก Long Take สุดเหวอ นั่นก็คือฉากที่เซซิเลียสามารถหนีออกมาจากถ้ำเก็บศพใต้ดินของคอนแวนต์ออกมาได้ ก่อนที่เธอจะตัดสินใจกรีดร้องยาวนานเพื่อเบ่งคลอด ซึ่งในหนังเราจะไม่ได้เห็นครรภ์ที่หลุดออกมา เห็นแต่เพียงภาพลาง ๆ ของก้อนเนื้อสุดสยองที่กำลังหายใจรวยริน ก่อนที่เซซิเลียจะตัดสินใจใช้ก้อนหินทุ่มเพื่อสังหารทารก (?)

โดยเบื้้องหลังของก้อนเนื้อชิ้นนี้ ทั้งสวีนนีย์และโมฮานเปิดเผยแต่เพียงว่าเป็นการใช้เทคนิคแอนิเมทรอนิกส์ (Animatronic) และเบื้องหลังของการไม่ยอมเปิดเผยร่างที่แท้จริงของก้อนเนื้อชิ้นนี้เพื่อเปิดให้ผู้ชมหาข้อสรุปด้วยตัวเอง และเป็นการทดสอบการถ่ายทำ รวมทั้งเหตุผลทางด้านการเงิน

“เราถ่ายสิ่งนี้ด้วยหลากหลายวิธีเลยค่ะ สิ่งที่คุณเห็นคือเทคแรกที่เราถ่ายกัน จากนั้นเราค่อยถ่ายช็อตอื่น ๆ ในซีนเดียวกันอีก 2 เทคเผื่อกรณีที่อยากได้มุมกล้องที่แตกต่างกัน แต่สัญชาตญาณของเรา มักจะแสดงออกมาไม่ได้ ดังนั้นเราจึงเริ่มถ่ายกันตั้งแต่เทคแรกเลย มันเป็นช่วงเวลาหนึ่งที่เราเอากล้องออกไป แล้วไมก์ก็ถามว่า ‘เอาล่ะ ซิด คุณอยากทำอะไร ?’ และฉันก็แบบว่า ‘งั้นมาลองกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น’ และนั่นก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นค่ะ”

สวีนนีย์ นักแสดงและโปรดิวเซอร์ของหนังเผยว่า การได้เห็นตัวเธอเองในหนังด้วยร่างอันชุ่มโชกไปด้วยเลือดนั้นเป็นเรื่องที่เธอเองพึงพอใจอย่างมาก เธอกล่าวกลั้วหัวเราะ “มันยอดเยี่ยมมาก ๆ ค่ะ ในงานเปิดตัวรอบปฐมทัศน์หนังที่ลอสแองเจลิส และรอบปฐมทัศน์ที่เทศกาล South by Southwest ผู้คนต่างส่งเสียงเชียร์ในฉากนั้น และฉันก็คิดว่าเป็นอะไรที่ดีงามมากเลย”