รีเซต

"ฮาย อาภาพร" ควงน้องสาว "แหวดศรี" เคลียร์ดราม่าหลังโดนนักแสดงตลกไล่ลงจากเวที

"ฮาย อาภาพร" ควงน้องสาว "แหวดศรี" เคลียร์ดราม่าหลังโดนนักแสดงตลกไล่ลงจากเวที
EntertainmentReport2
19 ตุลาคม 2566 ( 21:20 )
136

นักร้องลูกทุ่งแถวหน้า "ฮาย อาภาพร นครสวรรค์" ที่วันนี้ควงน้องสาว "แหวดศรี นครสวรรค์" มาเปิดใจครั้งแรกหลังเกิดดราม่าถูกตลกคู่กรณีด่ากราด ผลักหัวให้ลงเวทีกลางงานคอนเสิร์ต ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องOne31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์ และชมพู่ ก่อนบ่าย เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

"ฮาย อาภาพร" ควงน้องสาว "แหวดศรี" เคลียร์ดราม่าหลังโดนนักแสดงตลกไล่ลงจากเวที

แหวดตอนนี้สภาพจิตใจเป็นยังไงบ้าง?
แหวด : ดีขึ้น เพราะมันไม่ได้เครียดเหมือนตอนแรก

ตอนแรกเครียดขนาดไหน?
แหวด : ไม่เล่าให้พี่ฟัง ไม่บอกใครเลย เก็บตัวอยู่กับบ้านอย่างเดียว คือมันไม่ได้ใจเสีย แต่มันเสียใจมากกว่าไม่คิดว่าพี่เขาจะทำกับเราแบบนี้

เรารู้จักเขาอยู่แล้ว?
แหวด : รักเลย เหมือนเขาเป็นพี่ชายเราคนนึง มีอะไรคุยกัน ปรึกษากันตลอด เกือบจะทุกเรื่องที่ปรึกษากัน และงานนี้ก็คุยกันแล้ว เข้าใจกันแล้ว ไม่คิดว่ามันจะเป็นข่าวออกมาแบบนี้ คุยกันก่อนที่จะมีงาน แล้วทางผู้ใหญ่ก็บอกพี่เขาแล้ว แล้วหนูก็ไม่มีสิทธิ์ที่พานักร้องพี่จอยไปงานนี้อยู่แล้ว เพราะไม่ใช่งานหนู พอผู้ใหญ่คุยกันเสร็จเขาก็เคลียร์บอกว่ามีช่วงนึงที่ให้พี่จอยขึ้นได้ เขาก็ให้ขึ้น แต่ทำไปทำมาก็เกิดประเด็น
ฮาย : ไม่ต้องพูดแล้ว พูดไปก็เหมือนแก้ตัว

 

แสดงว่าเรื่องที่เกิดไม่ได้เกิดจากคุณแหวดกับบุคคลนั้น แต่มาโยงกับเรา?
แหวด : เปล่า

ฮาย : เดี๋ยวรวบให้ฟัง จริง ๆ แหวดกับวิลลี่ที่เขามีปัญหากัน เขาโตมาด้วยกันเลย เวลาเล่นหน้าเวที เมื่อก่อนเขาก็อยู่วงเรา มันก็ไปของมันเรื่อย แต่ตอนนี้เราไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่เราเดาถูก ด้วยความคิดของเด็กมีอยู่แค่นี้มันไม่ได้กว้าง มันก็เป็นธรรมดาที่มีใครสักคนขาดสติ การขาดสติมันคือบ้า มันอาจจะหลุด เราไม่รู้หรอกตรงนั้น ถ้าสติมี มันจะไม่มีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น บางทีคิดว่ากูไม่ได้นะ กูต้องอย่างนี้นะจะทำทุกอย่างที่ต้องการมันไม่ได้ อยากบอกเด็ก ๆ ทุกคนหยุดเถอะ อย่าทะเลาะกันดีกว่า วงการนี้มันแคบมาก เดี๋ยวก็ต้องเจอกันในงาน หันหน้าคุยกันเลย ไม่ว่าแหวด จอย หรือว่าไอผีก็แล้วแต่หันหน้าคุยกัน เรื่องมันจบง่าย ๆ ไม่มีปัญหา ไม่งั้นทางนั้นพูดที ทางนู้นพูดที ทุกคนต้องแกตัว ทุกคนไม่อยากผิด ทีนี้ถ้าไม่ผิดเลยก็ไม่มีคนถูก  ถ้ามันไม่มีคนถูกเลย มันก็ไม่มีคนผิด เพราะฉะนั้นคนผิดก็ขอโทษ อภัยให้กันจบเลย เด็ก ๆ หยุดกันเถอะ อย่าให้สัมภาษณ์ หรือไม่ต้องมาพูดว่าฉันไม่ผิด

แหวด : เอาจริง ๆ หนูไม่เคยให้ข่าวเลยนะ หนูบอกกับนักข่าวว่าหนูไม่อยากเป็นข่าว หนูไม่อยากให้พี่ฮายรู้เรื่อง เพราะถ้าพี่ฮายรู้เรื่องหนูโดน คนอื่นไม่ได้โดนกับหนูนะ หนูโดน ทั้ง ๆ ที่หนูก็ไม่ได้ผิด แต่หนูไมาอยากให้พี่เข้ามายุ่งเรื่องนี้

ฮาย : แต่เราจะสอนคนของเรา คนรอบตัวเรา น้องเราทุกคนอย่าก้าวร้าว มันไม่น่ารัก ทะเลาะกัน กัดกันเหมือนหมา 2 ตัวให้ชาวบ้านเขาดูมันไม่สนุก เพราะฉะนั้น จอย ผี แหวด หยุดเถอะนะ แหวดนี่ตัวสำคัญ มันอยู่ใกล้ตัวเรา เราจะต้องจัดการ เพราะคนของเรา เราตีคนของเรก่อน ทีนี้เราได้ยินมา ไม่ได้และแหละต้องออกมาพูดสักนิดนึง จริง ๆ วันนั้นไปทำงาน แล้วนักข่าวมาสัมภาษณ์ การจ่อหัวข่าวมันอาจจะรุนแรง แล้วคนฟังคนที่มีปัญหากันอยู่ ฉันทำยังไงดี ฉันจะต้องไม่ผิด ทุกคนเป็นอย่างนั้นหมด

ล่าสุดน้องแหวดแจ้งความดำเนินคดี?
แหวด : หนูไม่ได้แจ้ง หนูไปเป็นพยาน เพราะว่าเขาโทรมาขอโทษหนู แล้วหนูก็บอกว่า โอเคเรื่องของพี่กับหนูจบนะ เราจะไม่มีปัญหากัน เรายังรักกันเหมือนเดิม หนูนับถือพี่เหมือนเดิม แต่ถ้าพี่จอยให้หนูไปเป็นพยานหนูก็ต้องไป เพราะตรงนั้นมีหนูอยู่กับพี่จอยแค่ 2 คนที่เขาด่ากราดมา

วันนั้นที่มีการปะทะเสียงกัน สังเกตุไหมว่าฝ่ายตรงข้ามมีอาการมึนเมา?
แหวด : เมา

ฮาย : เขาบอกว่าเขาไม่เมา เขาดื่มไปนิดนึง

 

ขอบคุณคลิปจากรายการ คุยแซ่บShow 

วันนั้นนอกจากปะทะเสียงกันยังมีการผลักหัวกันด้วย?
แหวด : ครั้งแรกค่ะที่เขายังไม่ได้ด่า เขาก็ผลัก

อันนี้พี่ไม่รู้จากปากแหวด พี่โกรธไหม?

ฮาย : ไม่ ๆ เราจะเรียกเด็กของเรามาคุยเลย แล้วทุกอย่างจะไม่มีการแจ้งความ ไม่มีการมาด่ากัน ไม่มีการสาดโคลนใส่กัน ถ้าเรารู้ทุกอย่างแบบนี้ไม่มี

แหวด : หนูก็ไม่รู้เขารู้ตอนไหน โทร.มาหนูไม่รับสาย แล้วส่งข้อความมาว่าแหวดมีปัญหาอะไร เจ๊รู้แล้วนะ โทร.กลับเจ๊ด้วย

ฮาย : แล้วมันก็ไม่โทร รออีกวันนึงค่อยโทร.

แหวด : กลัวโดนดุ ด่าหนูไม่กลัว หนูกลัวโดนดุมากกว่า ทั้งที่เราไม่ผิดนะ แต่เราก็กลัวโดนดุ

ฮาย : พี่จะสอนมากกว่า

แหวด : เวลาเขาดุด้วย สอนด้วยมันเจ็บนะพี่

ฮาย : ไม่ผิดจะกลัวอะไร

แหวด : ไม่ผิดหรอก แต่มันฝั่งใจ เพราะเราโดนมาตั้งแต่เด็ก เวลาเกิดเรื่องหนูโดนคนแรก แล้วโดนหนัก

ฮาย : นี่คือการให้ทุกคนรู้ว่าเราเลี้ยงลูกน้องมาทีมงานเราเป็นร้อย เราต้องคุมเด็กเป็นร้อย เราต้องให้เด็กรู้ว่าขนาดน้องเรายังโดนขนาดนี้ เพราะฉะนั้นเราอย่าทำความผิด เพราะร้อยพ่อ พันแม่มาอยู่ด้วยกัน คนนึงไม่ได้มีเรื่องเดียว คนคนนึงมีสิบเรื่องมาให้เราแก้ เอาลูกคนอื่นมาเลี้ยง เอาเมี่ยงคนอื่นเขามาอม แต่ละคนวัยสะพรั่ง เราต้องดูแลให้ดี ไม่ว่าจะกินเหล้า ตินยาบ้า มันมีหมด โดยเฉพาะเด็กผู้ชายเลี้ยงยาก เด็กผู้หญิงก็ยาก คัน สวยหน่อยก็จะเอาผัว มันหลากหลายมาก ต้องขอขอบคุณประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมา ที่ดูแลเด็กๆ ในชีวิต บางคนก็ไปได้ดี บางคนก็ลงไปเลย 


บางคนที่เขาฟังเราก็โอเค

แล้วน้องตัวเองล่ะ?

ฮาย : น้องตัวเองเหนื่อย เขาโตแล้วไง ตอนที่อยู่กับอกเรา เรายิ่งห่วงหนักเลย เพราะตอนนั้นเขาเพิ่ง 30 ต้นๆ เราจะดูแล เพราะเขาเป็นคนสวย เมื่อก่อนเขาสวยมาก สวยจนเราหวง บอกตรงๆ เราเลี้ยงมา คนมาชอบมันเยอะมาก เราก็บอกแหวดดูให้ดีนะ มีผู้ชายมาจีบคนนี้ใช่แหวด มึงสานต่อเจ๊สิ เจ๊ไม่อยากคุย เจ๊รำคาญเจ๊ไม่ชอบคุย บางทียกคนที่คุยกับเราให้แหวด ให้แหวกคุยต่อ

แหวด : คนต่างชาติ เขาชอบพี่ฮาย แต่พี่ฮายไม่ชอบ จะหาใครดี น้องสาวลงจากรถบัส อ่าว...น้องกูเลย ก็คุยกันมา 3 ปี แต่ตอนนี้ไม่ได้คุย เขามีครอบครัวไปแล้ว


มีคนเห็นข่าว แล้วบอกว่าเรื่องนี้พี่ฮายเข้าข้างตัวเองหรือเปล่า?

ฮาย : ไม่ได้เข้าข้าง อย่างที่ทุกคนรู้ว่าแหวดเป็นน้องเรา แต่ถ้าเป็นอย่างที่ทุกคนบอกว่ามันเป็นอย่างนี้ น้องเรา มันก็ต้องเห็นแก่หัวเราบ้างสิ ถ้าไปทำกันขนาดนั้นทีนี้เราไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ เราเลยพูดไปแบบนี้ ทีนี้ข่าวเขาจะลงยังไงก็แล้วแต่ แต่จริงๆ ไม่ได้เข้าข้าง ใครผิดก็ว่าไปตามผิด

จากเรื่องนี้กลัวไหมว่ามันจะเสียไปถึงพี่สาวเรา?

แหวด : กลัว หนูถึงไม่ให้เขารู้ไง เพราะถ้าเขารู้ เขาต้องขึ้นแน่ๆ เขาต้องไม่พอใจแน่ ๆ 

ฮาย : อย่างที่บอกถ้ารู้ก่อนก็จะไม่มีปัญหา

อยากให้จบยังไง?

ฮาย : เงียบ ไม่ต้องพูด หยุดได้แล้วพวกมึง ทีนี้คนจะจ้างเขาก็มีปัญหาแล้ว เจ้าภาพจ้าง เอ้า..2 คนนี้ไม่ถูกกัน ไม่เอาดีกว่า ไปเอาเบอร์อื่น เพราะฉะนั้นอย่ากัดกัน ทำงานรักกันเข้าไว้ เพราะวงการนี้มันแคบมาก เดี๋ยวมาเจอกันตามงาน มันจัมีปัญหากันไหม เพราะฉะนั้นหยุดจ้างพวกที่ทะเลาะกัน มาจ้างอาภาพร ย้อนยุคดีกว่า ตอนนี้แต่ละฝั่งสาดโคลนใส่กัน มันเลยเปื้อนทั้งคู่ หยุดนะลูกนะ หยุดเถอะ 

แหวด : หนูจบ หนูไม่เคยให้ข่าวพี่ มีแต่คนโทรมาขอสัมภาษณ์หนูก็ไม่ให้ เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่สมควรพูดออกไป หนูก็เงียบ

พี่ฮายเป็นคนดุมาก พี่ฮายดุขนาดไหน?

แหวด : ดุมาก

ฮาย : เวลาทำงานดุ สมัยนั้นมันตึงไง เพราะว่าเราแข่งกับตัวเอง เราทำงาน งานจ้างยิ่งเทศกาล พี่วิ่งวันเล 7-8 ที่ สนุกสนาน

ถึงแม้จะดุแต่ก็ใจดีกับลูกน้องด้วย โดยเฉพาะแดนซ์เซอร์สาวๆ ออกเงินส่งไปทำจมูก?

ฮาย : ใช่ ทำเสร็จเขาก็สวย เด็กมันอยากทำบอกว่าหนูผ่อนหัวหน้าได้ไหม ตอนนั้นมีนถูกหมื่นกว่าบาท ทุกคนก็มาขมูกโด่งเลย ทำทีเดียว 7 คนเลย พอจมูกแห้งปุ๊บมันหนีตามผู้ชายไปเลย แต่เราก็เข้าใจความเคียวของเด็ก  มันวัยฮอร์โมน โอเคลูก 

แหวด : เอาง่าย ๆ แดนซ์เซอร์ 6 คนเหลือหนูคนเดียวที่ไม่ได้ไป

ฮาย : นี่ถ้าไม่ใช่น้องเรามันก็คงหนีตามผู้ชายเหมือนกัน ก็ทำใหม่ ปั้นเด็กใหม่ ถือว่าทำบุญกับเด็ก ๆ ไป

แล้วแดนเซอร์ชาย?

ฮาย : ตอนนั้นเราต้องให้เล่นกล้าม ของเราเวลาเต้นชุดมีบอดี้สวยๆ ใส่แล้วสวยมาก ถามว่ามีตีกันไหม มี แล้วมีกินเหล้า บางคนไม่ถูกกัน เราก็ต้องจัดการ พอเต้นทำไมไม่ยิ้มกันเลย เราไม่เอาแล้ว 1-2 ปีมันเหนื่อยปากมาก ซื้อกล้องมาเลยหน้าเวที ใครไม่ยิ้มกูหักเงิน คุมคนเป็นร้อยเป็นพันเหนื่อย ไม่ไหว

เห็นว่ามีอยู่ครั้งนึงแหวดเกือบดับคาเวที?

ฮาย : เรามีกติกาอยู่แล้วห้ามกินเหล้าก่อนขึ้นเวที รู้สึกวันนั้นเป็นงานบวช 

แหวด : เขาเลี้ยงโต๊ะจีน

ฮาย : เราดูแล้วเซ ๆ ไม่กล้าเต้น เพราะเขาจะเต้นขนาบเรา แต่มันถอยห่าง แต่เราได้กลิ่นแล้ว มันจะมีท่าแบบยกเด็กขึ้นไปแล้วฟาดลง พอมันยกขึ้นปุ๊บหาย ควบคุมไม่ได้ แล้วสแตนลูกทุ่งมันจะมี อาภาพร นครสวรรค์ แหวดหวิดคอเฉียดนิดเดียว

แหวด : แค่ฝ่ามือเดียว

ฮาย : นิดเดียวจริง ๆ มันเต้นไม่ได้ มันร้องไห้ เรารู้เพราะมันฟาดปัง

แหวด : หนูหงายหลัง หล่นจากมือเขาไปเลย หาดลงพื้น จุก ร้องไห้แล้วลุกขึ้นมาเต้นต่อเพราะมันอยู่บนเวทีมันทำอะไรไม่ได้ จุกก็จุกเอาเท่าที่เราไหว

ฮาย : พอเลิกงานเลยประชุมเลย ครึ่งเดือนไม่จ่ายเงิน แต่ต้องมาเต้น เพราะกติกาเรามีอยู่แล้ว พออย่างนี้มันแก้ปัญหาไป พอระยะหลังเริ่มมียาเสพติดเข้ามา ตอนประชุมจะบอกหมดว่ามีปัญหากับใคร โอเคเราแก้ได้ เราจะแก้ แต่เรื่องยาเสพติดเราขอนะอย่านะ ทีนี้เด็กมันติด 3-4 คน ผู้ชายเราตัวเด่นๆ ทั้งนั้นเลย เราทำยังไงดี นั่งคิดอยู่เป็นเดือน พอมันไปตรวจฉี่แล้วสีม่วง ตำรวจก็ให้รายงานตัวตลอด ซึ่งเราไม่รู้ แต่เราได้ยินมาแล้ว เอ้า..ทำไมวันนี้เจ้านี่ไม่มา ตำรวจขัง ขังเพราะว่าตรวจฉี่สีม่วงต้องคุมปนะพฤติ เรานั่งทำใจอยู่ 1-2 เดือน หยุดเลย

หมายถึง?

ฮาย : หยุดวงเลย ยุบเลยทั้งวง ตอนนั้นรวม ๆ คนแล้วประมาณ 20 กว่าชีวิต เหนื่อยกับการคุมคน แต่ถ้าตอนนั้นไม่มีปัญหานี้เราก็จะไปต่อ เพราะเราคุยแล้วไงว่าโอเคงั้นฉันจ้างคนอื่นก็ได้ ไม่เป็นไรพวกเธอฉันปล่อยให้เป็นอิสระ เพราะตอนนั้นเราจะเลี้ยงเด็กแบบครอบครัวเดียวกัน มากินข้าวด้วยกันก่อนไปงาน พอเลิกงานเราก็จะเลี้ยงเด็กๆ เห็นมันกินได้เราก็ดีใจ แต่พอมันกินหมดเราก็สลดใจ เพราะมันกินทีนึงเป็นหมื่น

พอมีปัญหาเรื่องยาเสพติดพี่ยุบเลย ยุบนานไหม?

ฮาย : จนถึงทุกวันนี้ ไม่ใช่เฉพาะแดนซ์เซอร์ น้องชายเราด้วยไง น้องเราขับรถ มันก็เอากับเขาด้วย คนของเรา ญาติเราอีก ไปกันใหญ่แล้วอยู่ไม่ได้ ตัวใครตัวมันดีกว่า ตอนนี้เราก็เซ็ตวงขึ้นมาใหม่ แต่เราจ้างเป็นซัพพลายเออร์มา แต่วงดนตรีเราก็ซ้อม ตอนนี้ที่ทำอาภาพรย้อนยุคเนี่ย เราก็เซ็ตวงขึ้นมาใหม่ เราก็เอาทั้งวงเลย เท่าไหร่ว่ามา มาซ้อมกันอาทิตย์นึงก่อนจะออกงาน แดนซ์เซอร์เดี๋ยวนี้สวยๆ เยอะแยะ เราเซ็ตมาทุกอย่าง เราใช้เงินจ่ายดีกว่าไม่ต้องเอาคนทั้งหมดมาอยู่กับเรา

พี่น้องคู่นี้อายุห่างกันเยอะไหม?

แหวด : 12 ปี

ฮาย : นี่ก็เหมือนลูก เราเลี้ยงมาเหมือนลูก ทุกวันนี้มันไปรับงาน ทำเพลงก็เรื่องของเขา

แหวด : ทำเพลงไม่บอกเขาด้วยนะ หนูกลัวเขาดุมากกว่า หนูแบบว่าพอพี่ติมาแล้วหนูขาดความมั่นใจเวลาอยู่กับพี่ แต่ถ้าอยู่กับคนอื่นหนูพูดได้หมด เหมือนหนูถอดแบบพี่ฮายมา แต่ก็ไม่เท่าเขา

ฮาย : เราห่วงในการใช้ชีวิต สังคมถ้าเราใช้ชีวิตเป็นมันอยู่ไม่ยากหรอก ผิดก็ขอโทษ การใช้ชีวิตของแหวดนี่มันไม่ใช่คนฉลาดไง มันไม่ทันคน มันเป็นคนซื่อ ๆ สวยวงเล็บซื่ออารมณ์อย่างนั้น เรื่องผู้ชายไม่ทันใครเลย ใครหลอกมันก็ได้ เขาโตแล้วเขาออกไปใช้ชีวิต 5-6 ปีแล้ว


เราเป็นอย่างที่พี่สาวพูดไหม?

แหวด : หนูเป็นคนตรงมากกว่า หนูพูดโกหกไม่ได้ ไม่โอเคก็พูดตรง ๆ เลย

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

อ่าน ข่าวบันเทิงวันนี้ ที่เกี่ยวข้อง :