บทละครโทรทัศน์ สองรักสองวิญญาณ ตอนที่ 1
ย่านวังบูรพา กรุงเทพฯ ปี 2505 โรงหนังย่านนั้นมีโปสเตอร์หนังไทยเรื่อง “บันทึกรักพิมพ์ฉวี” (ปี2505) นำแสดงโดยมิตร ชัยบัญชา-เพชรา เชาวราษฎร์
หนุ่มสาวแต่งตัวเข้ากับยุคเดินกันขวักไขว่ ชายนุ่งกางเกงขาตรง เสื้อพอดีตัวพับแขนตามแฟชั่นเจมส์ ดีน ผมใส่น้ำมันหวีเสยเงาวับ สาวนุ่งกระโปรงตามสมัย ผมตีโป่งเหมือนเพชรา แต่งหน้าตาคมหวาน
วัยรุ่นหนุ่มสาวบางกลุ่มก็จับกลุ่มพากันเดินเข้าโรงหนัง วัยรุ่นบางกลุ่มจับกลุ่มกันตามร้านน้ำชา บนโต๊ะเห็นเครื่องดื่มยุคนั้น ไบเล่ อาร์ซี ท้องถนนมีรถรายี่ห้ออเมริกันแล่นกันประปราย ยังคงมีสามล้อถีบรับส่งผู้คน
ที่หน้า “Diony club” เห็นพนักงานต้อนรับยืนต้อนรับแขกที่มาเที่ยว รถอเมริกันหรูคันหนึ่งแล่นมาจอด พนักงานที่ยืนต้อนรับรีบกุลีกุจอไปหาแขกคนสำคัญทันที
พนักงานเปิดประตูรถให้เอาอกเอาใจ “วันนี้มาเร็วนะครับป๋า เมียไม่อยู่บ้านเหรอครับ”
แขกคนสำคัญที่พนักงานมาต้อนรับ คือ สัญญา ในวันนี้สัญญาแต่งตัวตามสมัย เจมส์ ดีน เอลวิส กางเกงขาตรง เสื้อเชิ้ตแขนสั้นพอดีตัว พับแขนเผยให้เห็นกล้ามแขนที่แน่นกระชับพอดีกับแขนเสื้อ ผมหวีเสยขึ้นด้วยน้ำมันมันขลับ หันไปตอบพนักงานต้อนรับ “ไอ้น้อง วันนี้พี่มาหานางฟ้า อย่าพูดถึงนางยักษ์เลยนะ พี่ขอ...” สัญญายิ้มพรายเดินเข้าไป
ที่วัดแห่งหนึ่ง รัชนี สาวสวยทันสมัย ตาคมหยาดเยิ้มแต่เฉียบขาด นุ่งขาวห่มขาว ก้มกราบพระพุทธรูปที่ลานวัด “หลวงพ่อเจ้าขา...ลูกมาปฏิบัติธรรมก็เพราะอยากสร้างบุญบารมี ขอเมตตาประทานลูกให้ลูกกับสามีด้วยเถิดนะเจ้าคะ...ถ้าได้ลูกสมหวังลูกจะยกสมบัติทั้งหมดให้เป็นการกุศล” รัชนีนึกได้ “อุ๊ย ไม่ได้ๆ” เธอมองพระ “ไม่ได้งกนะเจ้าคะ แต่ทรัพย์สมบัติของลูกมันเยอะ .. เยอะม้าก ให้หมดมันจะมากเกินไป .. เอาเป็นว่า ถ้าลูกได้ทายาทสมใจ ลูกจะสร้างพระอุโบสถใหม่ให้เลยเจ้าค่ะ สาธุ” รัชนีก้มกราบพระ
สัญญาเดินเข้ามาในร้าน Diony club ร้านเต็มไปด้วยผู้คน โต๊ะสำหรับแขกที่มาเที่ยวเรียงราย ทุกโต๊ะแน่นขนัดไปด้วยหนุ่มสาว ทุกคนแต่งตัวสวยงาม สัญญามองไปบนเวที มองเห็น ชนิดา เยาวเรศ ใส่ชุดกระโปรงสั้นเซ็กซี่เหมือนนักร้องสาววงสตริงคอมโบยุคนั้น ใส่เสื้อคลุม รองเท้าบูทสูงจรดเข่าทั้งคู่ร้องเพลง Stupid Cupid อยู่บนเวที โชว์ลีลาสวยเซ็กซี่ไม่แพ้กัน เรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดของแขกหนุ่มสาวที่จับคู่กันเต้นรำได้เกรียวกราว
เมื่อถึงท่อนดนตรีโซโล ทั้งชนิดาและเยาวเรศต่างมองกวาดสายตาไปตามโต๊ะแขกแต่ยังมองไม่เห็นสัญญา ทั้งสองซุบซิบกัน
“เจอไหมนังเรศ?”
“ไม่เจอเลยนังดา แต่ยังไงพี่สัญญาก็ต้องมา เพราะเมื่อวานพี่สัญญารับปากพวกเราไว้”