บทละครโทรทัศน์ มงกุฎริษยา ตอนที่ 12 หน้า 4

นักข่าวถ่ายเด็กบ้านเปรมจิตรัวๆ “แล้วของทางค่ายคุณดวงเดือนล่ะคะ”
“ดิฉันเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนต้องมีการพัฒนาค่ะ เด็กๆของดิฉันแต่เดิมก็เป็นเพชรกันอยู่แล้ว แต่ดิฉันมีหน้าที่หาเหลี่ยมหามุม เจียระไนให้เพชรแต่ละเม็ดส่องประกายเพิ่มคุณค่าขึ้นให้มากขึ้น เพราะฉะนั้นก่อนที่จะมาสมัครวันนี้ พวกเราฟิตซ้อมเก็บตัวมาอย่างดีเลยค่ะ เพราะเราไม่รู้ว่าจะมาเจออะไรที่นี่บ้าง ...ความประมาทเป็นหนทางแห่งหายนะนะคะ”
เปรมจิตรู้ว่าโดนแขวะก็กัดฟันยิ้ม
“แล้วแต่ละค่ายมีใครเป็นตัวเต็งบ้างรึเปล่าครับ”
เปรมจิตดึงแพรวแพรออกมา “คนนี้ค่ะ น้องแพรวแพร ดาวเด่นของค่ายเปรมจิต”
“นี่น้องแพรวแพรที่เป็นนางงามเดินสายประกวดใช่มั้ยคะ”
เปรมจิต แพรวแพรหน้าเสียนิดๆ แต่เก็บอาการ “ที่น้องต้องเดินสายประกวดเพราะว่าน้องต้องหาเลี้ยงครอบครัวค่ะ” เปรมจิตหันไปถามแพรวแพร “หนูมีน้องต้องส่งเสียกี่คนนะลูก”
แพรวแพรตีหน้าเศร้า “2 ค่ะ “
“ดูสิคะ มีน้องที่ต้องส่งเสียตั้ง 2 คน ไหนจะพ่อแม่ที่แก่เฒ่าอีก น้องก็เลยต้องใช้ความสวยและความสามารถในการหาเลี้ยงครอบครัวค่ะ ถือว่าเป็นลูกกตัญญูตัวอย่างเลยนะคะ”
คิตตี้นำปรบมือ นักข่าวบ้าจี้ปรบมือตาม แพรวแพรบีบน้ำตา ไหว้ขอบคุณ
“แล้วค่ายดวงเดือนล่ะคะ มีดาวเด่นบ้างรึเปล่า”
“เด็กๆทุกคนของค่ายดิฉัน ล้วนได้รับการคัดสรรและเคี่ยวเข็ญมาอย่างดีค่ะ ทุกคนมีคุณค่าเท่ากันและดิฉันก็ให้ความสำคัญกับเด็กทุกคนเท่ากันเพราะฉะนั้นจึงไม่มีดาวเด่นค่ะ“ เปรมจิตกับคิตตี้แอบเบะปาก “แต่ก็ขอแนะนำน้องชมพู่นะคะ” ดวงเดือนดึงชมพูนุชออกมา “เธอเป็นเด็กใหม่ของค่าย ดีกรีเป็นถึงเทพีเมืองเพชร เข้ามาเก็บตัวกับทางค่ายเพื่อมาประกวดงานนี้โดยเฉพาะเลยค่ะ ขอฝากน้องด้วยนะคะ”
นักข่าวถ่ายภาพชมพูนุชรัวๆ ฟ้ารุ่งมองชมพูนุช อิจฉาที่ชมพูนุชได้รับการโปรโมท
ทั้ง 2 บ้านเดินเข้ามาในโถง สื่อตามถ่ายรูป อยู่ก็มีเสียงร้องเอื้อนแบบแขกดังมา “ฮ้า..........”
ทุกคนแปลกใจ มองหาต้นเสียง เห็นคนกำลังมุงดูถ่ายคลิปใครคนหนึ่งอยู่
นักข่าวปลีกจาก 2 ค่าย ไปที่คนกำลังมุง “ใครน่ะ เสียงดีจัง”
พวกดวงเดือน เปรมจิตไม่พอใจที่นักข่าวหนีไป