บทละครโทรทัศน์ ดวงใจในไฟหนาว ตอนที่ 6 หน้า 3
“อะไรนะ”
“ตั้งแต่เด็ก ผมมีนิสัยอย่างหนึ่ง ในขณะที่เด็กอื่นคิดแต่จะมาเล่น แต่ผมคิดจะเป็นเจ้าของกิจการ”
เยี่ยมยุทธมองไปที่คนเล่นถูกขีดฆ่าออก เปลี่ยนเป็นสายตา มองคนนั่งนับเหรียญ ปิ๊งๆๆ
ขึ้นคาถาเศรษฐี : คนจนคิดใช้เงิน คนรวยคิดหาเงิน
“ตอน ป4 พอเลิกเรียน ผมก็ช่วยเขาคุมร้านพวกนี้เพื่อสำรวจตลาดจากนั้นสามเดือน ก็นี่เลย กิจการแรกของผม ตู้ไข่หมุน” เยี่ยมยุทธ พาทุกคนมาดูตู้ไข่หมุน
“ผมศึกษาทุกอย่างตามหลัก 4 p ต้องใส่ของเล่นอะไรไว้ในไข่ (product) ต้องตั้งราคาเท่าไหร่ ( price ) ต้องวางตู้ที่ไหน (place) ต้องไปบอกคนแถวนั้นยังไง ว่ามีตู้นี่ (promotion)”
“ป.4 เนี่ยนะ” แดนทึ้ง
“นี่ไงแม่ คิดบนหลักการความเป็นจริง ถ้าเป็นแม่ คงคิดแต่พรมน้ำมนต์ ติดยันต์ สีผึ้งทาปาก”
เดือนเพ็ญโวยเล็กๆ “แล้วนี่ แกจะมาแขวะฉันทำไมเนี่ย”
“ผมขึ้นรถเมล์ไปซื้อของเล่นที่สำเพ็งมาใส่ในไข่เองทุกใบ แล้วไปขอวางที่ร้านชำ ตรงหน้าโรงเรียน ลงทุนไม่กี่พัน ถือเป็นกิจการแรกในชีวิต”
“กำไรไหม”
“แน่นอน ป 6 ผมก็เริ่มมีเงินหมื่นแล้ว ช่วงมัธยมผมเริ่มขยับเป็นตู้เกม ลงทุนร่วมกับเฮียร้านชำนั่นแหล่ะ”
“อย่าบอกนะว่ามีเงินแสน ตั้งแต่มัธยม?” เยี่ยมยุทธพยักหน้าว่าถูกต้อง
“เด็กมัธยม คือ ลูกค้าคนสำคัญเลยล่ะ พวกนี้จ่ายง่ายก็เงินพ่อแม่เขานี่ ไม่ใช่เงินเขา วัยรุ่นจะเปลี่ยนความชอบตามแฟชั่น เกมต่างๆ การ์ตูน ริสแบรนด์ เครื่องประดับของผู้หญิง ผมขายทุกอย่างที่ช่วงนั้นเขาฮิตกัน”
“หัวการค้าตลอดเวลาว่างั้น”
“ก็มีเจ๊งบ้าง หมดตัวบ้างแต่ไม่ท้อ ความรู้เรื่องคน เรื่องสินค้า เรื่องการตลาด มันก็เริ่มมีมาเรื่อยๆ ผมคิดอยู่อย่างเดียว ผมต้องรวย ต้องมีเงิน เด็กกำพร้าอย่างผมถึงจะมีที่ยืนในสังคม”
สายตาของพ่อแม่ลูก ทึ่งในตัวเยี่ยมยุทธมาก พร้อมใจกันยกนิ้วให้เลย “กดไลค์รัวๆ”
เกมเซ็นเตอร์ ผ่านเวลา เดือนเพ็ญกับแดนไปเล่นเกมที่มุมหนึ่ง เยี่ยมยุทธกับดาวเหนือ ยืนกันที่หน้าตู้ไข่หมุน
“มีของเล่นอย่างหนึ่งอยากได้มาก ถ้าได้วันนี้นะ ผมจะทำบางอย่างที่อยากทำมากๆ”
เยี่ยมยุทธหยิบเหรียญสิบมาเสก “โอมเพี้ยง”
เยี่ยมยุทธ ใส่เหรียญลงไป หมุนไข่ออกมา หันหลังให้ดาวเหนือ เปิดไข่ออกแล้วยิ้ม