บทละครโทรทัศน์ ไฟล้างไฟ ตอนที่ 23 หน้า 4
“คุณคะ...” ศิริจับมือกัลยาแน่น กัลยาจำต้องนิ่ง
ศตวรรษหันกลับมาทางนักข่าว นักข่าวรีบขยับเข้ามาสัมภาษณ์ศตวรรษกับลีลา
“การแต่งงานครั้งนี้ทางผู้ใหญ่ไม่เห็นด้วยเหรอคะ” ลักษณ์เอ่ยถาม
“งานถูกจัดกะทันหันเพราะความใจร้อนของผมเอง แต่การแต่งงานครั้งนี้ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายรับทราบครับ”
“แต่ไม่เห็นมีผู้ใหญ่ทางฝ่ายเจ้าสาวมาร่วมงาน หรือว่าทางคุณพ่อคุณแม่ของน้องลีไม่รับรู้เรื่องนี้?” ศตวรรษมองลีลา ลีลากำลังจะตอบคำถาม
“รับรู้สิครับ” เสียงชลัมน์ดังขึ้น ทุกคนชะงักหันไปตามเสียง เห็นมัสยาเข็นรถเข็นพาชลัมน์เข้ามา
ทั้งลีลา วัลภาและดลฤดีอึ้งที่เห็นชลัมน์มาปรากฏตัวที่นี่ด้วย กัลยาตะลึงเมื่อเห็นหน้าชลัมน์ ศตวรรษงงว่าชลัมน์คือใคร
“คุณรุตม์อยู่ไหนเนี่ย”ดลฤดีกดโทรศัพท์หานรุตม์ด้วยความร้อนใจ
นรุตม์ ก้าวเข้ามาในโรงแรมด้วยความเร่งรีบ “ผมกำลังเข้าไปครับ” นรุตม์เห็นแดนที่วิ่งเข้า มาจากอีกด้านหนึ่งก็เอ่ยถาม “อาชลัมน์อยู่ในงาน คุณอาดลล่ะ”
“ใกล้จะถึงแล้ว”
ทั้งคู่รีบเข้าไปที่ห้องจัดเลี้ยง
ภายในห้องจัดเลี้ยง ลีลาเดินเข้ามาหาชลัมน์ “คุณชลัมน์ กรประดิษฐ์ คุณพ่อของลีค่ะ...มีหนังสือหลายฉบับสงสัยที่ลีไม่เคยให้สัมภาษณ์เรื่องครอบครัว ลีขอชี้แจงในวันนี้ว่าสาเหตุไม่ใช่เพราะความพิการของคุณพ่อ แต่ท่านจำเป็นต้องเก็บตัวเพื่อความปลอดภัยจากเพื่อนทรยศที่ทำร้ายครอบครัวของเรา”
“แต่ชลัมน์ตายไปตั้งแต่เมื่อยี่สิบปีก่อนไม่ใช่เหรอคะ” กัลยาหันไปมองศิริ
ศิรินิ่งมองชลัมน์กับลีลาว่าคิดจะทำอะไร นรุตม์กับแดนเดินเข้ามา แล้วชะงักที่เห็นการเผชิญหน้าของทุกฝ่าย
ลีลามองศิริด้วยสายตาแข็งกร้าว“แค่เกือบตาย! เพื่อนทรยศคนนั้น พยายามจะกำจัดคุณพ่อทุกทาง พ่อต้องพิการ แม่ของฉันต้องตายเพราะจิตใจหยาบช้าของเขา!”
นรุตม์ห้าม “หยุดนะลี อย่าพูดแบบนั้น!”
“คำว่าเลวยังน้อยไปสำหรับเพื่อนใจคด ทรยศคนที่ไว้ใจ! มันกอบโกยความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น และยืนอยู่ในสังคมโดยไม่มีความละอาย!” ทุกคำที่พูด ลีลามองหน้าศิริอย่างจงใจ นักข่าวมองเหตุการณ์อย่างงุนงง
“ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ลีลาใช้คำพูดกับท่าทีที่ก้าวร้าว แต่เป็นเพราะลีลาเจ็บแค้นแทนผม ผมถูกโกง ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนที่ทำให้ชีวิตของผมต้องตกต่ำ ไร้เกียรติ ไร้ที่ยืนในสังคม แต่วันนี้ผมก็พร้อมที่จะอภัยให้เขา”
ลักษณ์อยากรู้สุดๆ“ช่วยบอกได้ไหมคะว่าเพื่อนคนนั้นคือใครคะ”
ชลัมน์ชี้ไปที่ศิริ “คนๆ นี้ไงครับ คนที่เคยเป็นเพื่อนของผม” นักข่าวฮือฮามองไปทางศิริ