บทละครโทรทัศน์ พิษสวาท ตอนที่ 10 หน้า 11
กล่องอุปกรณ์ช่าง ใบเลื่อย วางระเกะระกะ วิชิตกำลังพยายามเลื่อยหางสิงห์ ด้านหลังวิชิต เห็นจันกับวิญญาณบ่าว ๓ คนยืนมองอยู่ ทันใดนั้นเลื่อยหักคามือวิชิต
วิชิตชะงัก โมโห “ทำไมมันยากเย็นอย่างนี้วะ!!” วิชิตหันไปเปิดกล่องเครื่องมือ มีอุปกรณ์ช่างหลายอย่าง วิชิตเลือกหยิบค้อนขึ้นมา หันมองสิงห์ “คราวนี้ไม่ได้ให้มันรู้ไป!” วิชิตง้างค้อนจะทุบรูปปั้นสิงห์!
เสียงกรับจากวงมโหรีดังเชื่อมมา วงมโหรีปี่พาทย์เล่นอยู่ นางรำกำลังรำอวยพรในช่วงท้ายของเพลง บนตั่งตรงกลางมีของหวาน ผลไม้ตั้งอยู่ อัคนีตั้งใจฟังรู้สึกคุ้นกับบรรยากาศ เชษฐามองๆวงมโหรี แล้วถ่ายรูปเก็บไว้ทั้งภาพกว้างและภาพแคบใบหน้านางรำทีละคน ทิพอาภาวาดรูปสโรชินีไปด้วย เพลงรำอวยพรจบ นางรำกลับเข้าไป เสียงดนตรียังบรรเลงต่อเป็นเพลงลำนำ เสียงคนขับลำนำผู้หญิงดังขึ้น
“เห่เอย พระจันทร์เพ็ง
เด่นลอยฟ้า เวหาหาว
ทอแสง สุกสกาว
เป็นเจ้าแห่ง โพยมบน
ทรงกลด งามกระจ่าง
แลสว่าง ทั่วเวหน
เทียบกับ พักตร์ยุบล
เจ้างามกว่า จันทราเอย..”
อัคนีเอ่ย “ผมเคยได้ยินเพลงนี้ แต่ท่อนที่ว่าเทียบกับพักตร์ยุบล ของเดิมผมว่า เป็นอุบลมากกว่า”
“ใช่ค่ะ บทลำนำเมื่อครู่ สามีดิฉันเป็นคนแต่งให้ในวันเพ็ญเดือนสิบสอง...ปีแรกที่เราอยู่ด้วยกันค่ะ”
เชษฐาซัก “แล้วพี่อัครู้ได้ไง เคยได้ยินเหรอ?”
“คิดว่าเคย... แต่เมื่อไหร่ก็ไม่แน่ใจ”
“ความทรงจำ ถึงจะอยู่ไกลแค่ไหน ก็ไม่ไกลเกินกว่าความรู้สึกจะไปถึงหรอกค่ะ” อัคนีชะงัก มองหน้าสโรชินี สโรชินียิ้ม แล้วหันหาทิพอาภา “เป็นไงคะคุณทิพอาภา?”
ทิพอาภาสะดุ้ง เพราะกำลังรู้สึกคุ้นลำนำนี้เช่นกัน “คะ?”
สโรชินียิ้มๆ “ดิฉันถามเรื่องภาพของดิฉันน่ะค่ะ วาดสำเร็จไหมคะ?”
ทิพอาภาถอนใจ แล้ววางมือ “ทิพเคยพยายามวาดภาพคุณจากความทรงจำแล้ว แต่วาดเท่าไหร่ก็ไม่เหมือน นี่ขนาดวาดจากตัวจริงก็ยังไม่ได้เลยค่ะ ตาของคุณวาดยากมาก”
“คงเพราะมันเป็นส่วนที่แสดงถึงจิตใจมั้งคะ “
เชษฐาเหน็บ “จะบอกว่า ตาคุณวาดยากเหมือนกับใจคุณที่เดายากงั้นเหรอครับ?”
“ผู้หญิง ให้เดายากยังไง ก็ไม่ยากเท่ากับ ผู้ชาย ที่ไม่ซื่อสัตย์หรอกค่ะ”
อัคนีสวน “คุณหมายถึงใคร?”
“สามีดิฉันค่ะ! ต้องขอโทษนะคะ ดิฉันจมอยู่กับอดีตที่ขมขื่นของตัวเองมากเกินไป”