รีเซต

เรื่องย่อ มนต์รักหนองผักกะแยง ช่อง 3HD (ตอนจบ)

เรื่องย่อ มนต์รักหนองผักกะแยง ช่อง 3HD (ตอนจบ)
EntertainmentReport
4 มกราคม 2565 ( 10:58 )
7.6K

เรื่องย่อละคร มนต์รักหนองผักกะแยง ช่อง 3HD (รีรัน) วันจันทร์-อังคาร และวันศุกร์ เวลา 20.30-22.30 น. ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.25-22.25 น. เริ่ม 14 ธันวาคม 2564 นำแสดงโดย พระเอกแม่เหล็กระดับซุปตาร์อย่าง “ณเดชน์ คูกิมิยะ” ประกบคู่นางเอกน้องใหม่ “โบว์ เมลดา” เรื่องราวในละคร มนต์รักหนองผักกะแยง เป็นการเล่าเรื่องราวของพระเอก แบรี่(ณเดชน์ คูกิมิยะ) ที่รับบทเป็น เขียว เขาได้มาเรียนและทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ แต่แล้วชีวิตกลับพลิกผันต้องซมซานกลับถิ่นฐานเดิมบ้านหนองผักกะแยง และไปพบกับเรื่องราวในอดีตความอบอุ่นในชุมชนบ้านหนองกะแยง ประเพณีดั้งเดิมของชาวอีสาน และได้เรียนรู้การใช้ชีวิตแบบวิถีเกษตรกรรม ทำให้พระเอกหลงรักในวิถีชีวิตอันเรียบง่าย และเกิดเรื่องราวมากมาย รวมถึงความรักกับคู่ปรับเพื่อนวัยเยาว์อย่าง ชมพู่ (โบว์ เมลดา) ที่เข้ามาสกิดใจบักเขียว

ตัวอย่างละคร

เรื่องย่อ มนต์รักหนองผักกะแยง ช่อง 3HD

บ้านหนองกะแยงเป็นหมู่บ้านขนาดย่อมอยู่ในภาคอีสานในหมู่บ้านมีหนองน้ำหลายหนองกระจาย อยู่รอบหมู่บ้านมีผักกะแยงรสเผ็ดกลิ่นร้อนแรงผักโปรดของชาวอีสานบ้านเฮา ขึ้นอยู่ริมหนอง ให้ชาวบ้าน ได้เก็บไปแกง ไปแซ่บได้ตลอดปี ทำให้เป็นที่มาของชื่อหมู่บ้าน 

ธรากร หรือ “เขียว”มีคู่หูคู่ปรับอยู่ข้างบ้าน ชื่อเด็กหญิงชมพู่ ทั้งสองเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก แต่พอโตขึ้น เขียวย้ายไปเรียนที่กรุงเทพฯ ทำให้ทั้งสองตั้งแยกจากกัน จากที่เคยเป็นนักเรียนยอดนิยม นักกีฬาตัวเด่นเขียวกลายเป็นไอ้บ้านนอก ไอ้ลาวเด็กอีสาน พูดไทยไม่ชัดโดนเพื่อนร่วมชั้น นอกชั้น กลั่นแกล้งสารพัด กลายเป็นตัวตลกในโรงเรียน ธรากรสติแตก โทษว่าเป็นความผิดยายที่เป็นคนอีสาน ทำให้ตัวเองต้องโดนเพื่อนแกล้ง ไม่มีใครยอมรับแบบนี้ ประกาศกร้าวว่าจะไม่กลับไปบ้านหนองกะแยงอีก ยายเพียร เสียใจมากแต่ไม่โกรธโทษหลานรัก ตรงกันข้ามกลับเป็นห่วงหลานอย่างสุดหัวใจ ธรากรฝึกพูดภาษาไทยจนชัดโดยที่ไม่มีสำเนียงอีสาน ได้กลับมาเป็นหนุ่มป๊อปปูล่าร์อีกครั้งหนึ่ง มันคือชีวิตที่เริ่ดเลอเพอร์เฟคของหนุ่มวัยรุ่น

ชมพู่จบม.6สอบติดคณะเกษตรที่มหาวิทยาลัยประจำจังหวัด ส่วนเขียวได้เข้าเรียน คณะนิเทศศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยชื่อดังในกรุงเทพ วันรับปริญญาของเขียว ชมพู่เดินทางเข้ากรุงเทพ เพื่อมาแสดงความยินดี แต่เขาทำเมิน ดูถูกว่าชมพู่เป็นเด็กบ้านนอก ไม่ได้สนิทกัน มาทำไม ชมพู่โกรธและเสียใจมาก พอเรียนจบ ชมพู่ได้งานเป็นเจ้าหน้าที่เกษตรประจำจังหวัด และภายหลังตัดสินใจลาออกมาลงมือทำ ไร่แบ่งฝันปันรัก ไร่อินทรีย์ สอนและช่วยเหลือชาวบ้านหนองกะแยง ดูแลพ่อและแม่อย่างมีความสุข

ส่วนเขียวพอเรียนจบ ก็ได้งานเป็นผู้กำกับตั้งแต่อายุยังน้อย ได้แฟนชื่ออลิซ เป็นนางร้าย เขียวรักมาก หลงมาก รับงานที่ผ่านเข้ามาทำงานหามรุ่งหามค่ำ เพื่อผ่อนคอนโด หลักหลายล้าน ที่ทำสัญญาซื้อ ในชื่อของอลิซ ตั้งใจจะใช้เป็นเรือนหอ และใช้สู่ขอแฟนสาว ระหว่างที่เขียวกำลังฝันหวาน อลิซก็นำโฉนดไปแล้ว เท่านั้นยังไม่พอ อลิซประกาศแต่งงานกับชายอื่น แบบสายฟ้าแล่บ เขียวช็อกแทบบ้า เงินไม่เหลือ ติดต่ออลิซไม่ได้ สุดท้ายเขียวจึงจำใจ กลับบ้านหนองกะแยงในที่สุด

เขียวมาถึงบ้านหนองกะแยงวันงานบุญของหมู่บ้าน โดยมีชมพู่ขับรถมารรับ ปิดหน้าปิดตาจนเขียวจำไม่ได้ ที่สำคัญ กว่าจะกลับถึงบ้าน ก็ต้องพบกับเรื่องราวมากมาย เกินบรรยาย จนเขียวถึงกับร้องไห้ออกมา ทั้งยายเพียร มานิต พิไล น้าพิลา ต่างดีใจที่เขียวกลับมาบ้าน แต่เขียวกลับมองว่า หากวันหนึ่ง เขาขายที่ดิน ซึ่งเป็นสมบัติของครอบครัวได้เมื่อไหร่ จะหอบเงินกลับไปตั้งหลักที่กรุงเทพฯให้ได้

ชมพู่มาเช่าที่ดินของยายเพียร เพื่อทำไร่เกษตรอินทรีย์ มีชื่อว่า “ไร่แบ่งฝัน ปันรัก” ไร่อินทรีย์แห่งนี้มีการจัดสรรพื้นที่ให้มีการทำนา ปลูกผักหมุนเวียน ปลูกผลไม้หลายชนิด ที่ผลัดกัน ออกผลผลิตครบทุกฤดู เลี้ยงไก่อินทรีย์ เลี้ยงไส้เดือน ใช้ปุ๋ยมูลสัตว์ ปุ๋ยหมักเศษอาหาร และน้ำหมักชีวภาพ ไร่นี้ไม่มีลูกจ้าง อาศัยแรงงานอาสาสมัครชาวบ้าน ครูและนักเรียน มีการตอบแทนแรงงานด้วยตะกร้าอาหาร ผลผลิตจากไร่ อาสาสมัครตัวหลักประจำไร่ คือ ครูริช ครูอาสาชาวอเมริกัน สอนภาษาอังกฤษ ณ รร.บ้านหนองกะแยง หนุ่มรูปหล่อ นิสัยดี เป็นคนติดดิน พูดอีสานได้ ชอบวัฒนธรรม อาหารอีสาน แถมยังชอบสาวอีสานที่ชื่อชมพู่อีกด้วย

ชมพู่เปิดตัวว่าเป็นเจ้าของโครงการไร่ เขียวเจรจาขอให้เธอยกเลิกสัญญา ชมพู่จึงมีข้อแม้ ให้เขียวเรียนรู้เรื่องการทำเกษตร จนครบทุกด่านเสียก่อน แล้วเธอจะยอมคืนไร่แบ่งฝันปันรักให้ การกลับมาครั้งนี้ เขียวได้พบกับเพื่อนเก่าอย่างยอด และส้มแป้น ซึ่งตอนนี้ยอด กลายเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว หลังจากที่กระเจี๊ยบ เมียของเขาทิ้งไปมีสามีใหม่ ส่วนส้มแป้น ก็เปิดร้านขายส้มตำ เลี้ยงดูลูกสาวฝาแฝดสองคน เพราะสามีเอาแต่กินเหล้า และติดการพนัน จนต้องแยกทางกัน

ถึงแม้เขียวจะไม่เต็มใจ ทำงานในไร่นัก แต่กาลเวลา ก็ทำให้เขาเกิดความรัก ความผูกพันกับบ้านเกิดอีกครั้ง ความสัมพันธ์อันเอื้อเฟื้อ มีจิตใจอันงดงามของผู้คนที่บ้านหนองผักกะแยง ทำให้เขียวเริ่มเปลี่ยนไป เขียวเริ่มเรียนรู้วิถีชีวิตที่แท้ ทั้งเรื่องการทำนาข้าวอินทรีย์ การเลี้ยงใส้เดือน การปลูกผักอินทรีย์ การทำน้ำส้มควันไม้ การเลี้ยงไก่อารมณ์ดี การทำน้ำหมักหลากสูตร อีกทั้งประเพณีของชาวอีสานอีกต่าง ๆ มากมาย ที่แสดงถึงความรักสามัคคีที่มีต่อกัน จากคนที่ไม่อยากพูดภาษาอีสาน เขียวกลับมาพูดภาษาอีสานอีกครั้ง อย่างภาคภูมิใจ ส่วนครูริช ก็ยังคงหลงรักชมพู่ โดยไม่ได้หันไปมองครูน้ำฝนเลย ว่าเธอเอง ก็รักและหวังดีต่อครูริชเช่นเดียวกัน เขียวเริ่มตัดใจจากคนรักเก่าได้แล้ว และเริ่มรู้ตัวว่าหลงรักชมพู่เข้าให้แล้ว ทั้งพิลา พิไล ยายน้อย มานิต สมศักดิ์ ต่างเชียร์ให้ชมพู่และเขียวรักกัน เขียวเห็นว่าชมพู่สนิทสนมกับครูริชมาก ก็ลังเล และนึกน้อยใจ โดยที่ไม่มีใครรู้เลย ว่าชมพู่นั้น รักเขียวมาตั้งแต่วัยเด็ก และหัวใจของเธอก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง รอคอยวันที่เขียว จะกลับมาที่บ้านหนองกะแยงอีกครั้ง

ครูริชได้รับรู้หัวใจของชมพู่ในที่สุด ว่าทั้งสี่ห้องของเธอ มีแต่เขียวเพียงคนเดียวเท่านั้น ครูน้ำฝน ปลอบใจครูริช จนทำให้ครูริชใจอ่อน ยอมเปิดใจให้กับครูน้ำฝน ส่วนยอดและส้มแป้น ก็มาช่วยงานที่ไร่แบ่งฝันปันรักเสมอ หัวใจที่เคยอ้างว้าง ผิดหวัง ของทั้งสองคน ต่างเติมเต็มซึ่งกันและกัน ทำให้ทั้งสองครอบครัว หล่อหลอมหัวใจเป็นหนึ่งเดียว 

รวงข้าวในนาเริ่มตั้งท้อง มองไกลๆเห็นเมล็ดข้าวสีเขียว สีเหลืองอ่อน สลับกับสีทองระยิบระยับ แล้ววันหนึ่ง มอส ก็ยกกองถ่ายทำ มาที่บ้านหนองกะแยง โดยมีอลิซมาด้วย อลิซเลิกกับสามีแล้ว และตามกลับมาขอคืนดีกับเขียว เขียวสับสนว่าจะเลือกทางไหน ส่วนชมพู่ก็ร้องไห้เสียใจ ยิ่งเมื่อยายเพียรแอบครัว รู้ความจริง ว่าเขียวจะขายที่ ทำให้ทุกคนผิดหวัง เสียใจมาก ชมพู่คืนสัญญา การเช่าไร่แบ่งฝันปันรักให้ แล้วเดินจากเขียวไปแบบหัวใจสลาย สุดท้ายเขียวจะทำเช่นไร เขาจะเลือกกลับไปใช้ชีวิตหรูหราที่กรุงเทพฯ กับคนรักเก่า หรือจะใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านหนองกะแยง ที่ไร่แบ่งฝันปันรักแห่งนี้ ติดตามกันต่อไป 

“ปฏิบัติการพาบักเขียวกลับบ้าน” เหนื่อยในเมืองหลวงมานานพอแล้ว พร้อมกลับบ้านด้วยกันใน “มนต์รักหนองผักกะแยง” (รีรัน) วันจันทร์-อังคาร และวันศุกร์ เวลา 20.30-22.30 น. ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.25-22.25 น. เริ่ม 14 ธันวาคม 2564

เรื่องย่อ มนต์รักหนองผักกะแยง EP.1 วันศุกร์ที่ 14 พฤษภาคม 2564

ธรากร หรือเขียว(ณเดชน์) เด็กหนุ่มเลือดอีสาน ที่จากบ้าน ไปศึกษาเล่าเรียนที่กรุงเทพฯ จนเรียนจบ เขียวได้นั่งแท่นเป็นผู้กำกับดัง โดยมีมอส(ณัชพงศ์พล) เพื่อนรักคอยช่วยเหลือใกล้ชิด เขียวขยันขันแข็ง อดหลับอดนอน รับงานอย่างต่อเนื่อง เก็บหอมรอบริบ จนสามารถซื้อคอนโดหรู หวังจะใช้เป็นเรือนหอ กับ อลิซ(คาลิยา) นักแสดงสาว เจ้าบทบาท

ความฝันของเขียว พังลงทันที หลังจากที่เขา โอนกรรมสิทธิ์คอนโดให้เป็นชื่อของอลิซ วันรุ่งขึ้น เธอจึงหอบโฉนดหนีจากเขาไป พร้อมประกาศงานหมั้นสายฟ้าแลบ กับนักแสดงหนุ่ม เขียวเจ็บช้ำใจอย่างหนัก

ทางด้านหมู่บ้านหนองกะแยง ชมพู่ (เมลดา)ลูกของสมศักดิ์(สมจิตร)และพิกุล(ชไมพร) ก็ขยันขันแข็ง เอาการเอางาน ทำไร่ ทำสวนอย่างไม่หยุดหย่อน เป็นที่รักของทุกคนในหมู่บ้าน และเป็นที่พึ่งให้กับพ่อแม่ ที่สำคัญ ชมพู่มีครูริช(แดนนี่) ครูอาสามัคร จากอเมริกา มาช่วยงานที่ไร่เสมอ

ส่วนครอบครัวของยายเพียร(น้อย โพธิ์งาม) ก็มีความรัก ความอบอุ่นให้กันเสมอ ทั้งมานิต (หยอง ลูกหยี) พิไล(สรวงสุดา) พิลา(ยิ่งยง) ต่างดูแลยายเพียรเป็นอย่างดี แล้ววันที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง เขียวเดินทางกลับมาที่บ้านหนองกะแยง ยายเพียรขอแรงชมพู่ ให้ขับรถ ไปรับเขียวที่หน้าปากทางหมู่บ้าน เธอปิดหน้าปิดตาจนเขียวจำเพื่อนเก่าอย่างชมพู่ไม่ได้

วันรุ่งขึ้น มีงานบุญที่หมู่บ้าน ชาวบ้านต่างมาต่างมารำฟ้อน แห่ผ้าผะเหวด กันอย่างสนุกสนาน เขียวจนใจ ไปนั่งฟังเทศน์ ในวันต่อมา ร่วมกับครอบครัว และชาวบ้านทุกคนด้วย 

 เขียวเห็นป้ายที่หน้าไร่ เขียนชื่อว่า ไร่แบ่งฝันปันรัก มีทั้งสวนกล้วย เล้าไก่ โรงเรือนเลี้ยงไส้เดือน พร้อมด้วยการปลูกข้าว และพืชผักมากมาย เขียวเริ่มเกิดความคิด หากเขาขายที่นาของครอบครัวได้ จะเอาเงินกลับไปตั้งตัวที่กรุงเทพฯ อีกสักครั้ง ความสนุกที่ท่านห้ามพลาดใน “มนต์รักหนองผักกะแยง” วันศุกร์ที่ 14 พฤษภาคม 2564 เวลา 20.30 น. ทางช่อง 3 กด 33

เรื่องย่อ มนต์รักหนองผักกะแยง EP.2 วันเสาร์ที่ 15 พฤษภาคม 2564

ยายเพียร (น้อย โพธิ์งาม) บอกความจริงกับเขียว (ณเดชน์) ว่าคนที่มาเช่าที่ ทำไร่แบ่งฝันปันรัก ก็คือชมพู่(เมลดา) ลูกของสมศักดิ์ (สมจิตร) และพิกุล (ชไมพร) สิ่งที่ได้แทนค่าเช่า ก็คือ ผัก ผลไม้ ไข่ไก่ ที่ทำให้ยายเพียร มีไว้กินตลอดปี ซ้ำยังเหลือเอาไว้ทำบุญอีกด้วย แต่เขียวไม่เห็นด้วย เขาอยากได้เป็นเงินมากกว่า เขียวมีโอกาสได้พบกับชมพู่ จึงเสนอตัวเป็นนายทุน ให้ชมพู่ เปิดร้าน กาแฟ และเบเกอรี่ แทน 

ที่หมู่บ้านหนอกกะแยง มีงานบุญ พิธีสรงน้ำพระ เขียวยังคงตามไปเกลี้ยกล่อมชมพู่ถึงที่วัด แต่ชมพู่ไม่สนใจ กลับไปก่อกองทรายกับครูริช(แดนนี่) ด้วยกันแทน ส้มแป้นจึงบอกกับเขียว ว่าครูริชกำลังจีบชมพู่

ชมพู่มาหาเขียวที่บ้าน เพื่อคุยเรื่องไร่แบ่งฝันปันรัก พอดียายเพียรได้ยินเข้า เขียวจึงรีบตัดบท บอกกับยาย ว่าตนเองจะทำไร่ด้วยตัวเอง ยายเพียรจึงบอกให้เขียวไปลองทำงานที่ไร่กับชมพู่สีกหนึ่งปีก่อน จะได้เข้าใจการทำงาน ในไร่ เข้าใจเรื่องไร่อินทรีย์มากยิ่งขึ้น ชมพู่จึงตั้งข้อแม้กับเขียว ว่าเขาต้องทำงาน 7 เดือน 7 ด่าน ให้ผ่าน ถ้าทำได้ ชมพู่จะยกเลิกการทำไร่แบ่งฝันปันรัก แล้วคืนที่ดินให้

ด่านแรกที่เขียวจะต้องเรียนรู้กับชมพู่ และพร้อม ๆ กับชาวบ้าน คือเรื่องการทำนาหยอด ทั้งชมพู่ ครูริช ส้มแป้น (อนุสรา) ครูน้ำฝน(นับตังค์) มาเป็นอาสาสมัคร อธิบายการทำนาหยอดให้ชาวบ้านได้รับรู้ เขียวไม่ค่อยตั้งใจทำงานมากนัก จนครูริชต้องเข้ามาเตือน เขียวผ่านงานวันแรก ๆ ไปได้ แต่พอหลายวันเข้า ร่างกายก็เริ่มล้า แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้ จนเขียวเป็นลม ล้มหมดสติไป ชมพู่ต้องเข้ามาช่วยไว้ งานหนักชมพู่แล้วตามมาเอาใจช่วยสาวคนนี้ไปด้วยกันใน “มนต์รักหนองผักกะแยง” วันเสาร์ที่ 15 พฤษภาคม 2564 เวลา 20.25 น. ทางช่อง 3 กด 33

เรื่องย่อ มนต์รักหนองผักกะแยง EP.3 วันอาทิตย์ที่ 16 พฤษภาคม 2564

เขียว (ณเดชน์) ตัดสินใจ บอกน้าพิลา (ยิ่งยง) ว่าจะลงแข่งทำบั้งไฟ ชิงเงินรางวัล ห้าพันบาท มานิต (หยอง ลูกหยี) พ่อของเขียว จึงพาไปเรียนวิธีทำบั้งไฟ กับสมศักดิ์ (สมจิตร) พ่อของชมพู่ (เมลดา) โดยมีครูริช(แดนนี่) ผู้เข้าแข่งขันทำบั้งไฟอีกคน มาเรียนไปพร้อม ๆ กันด้วย

เมื่อถึงวันงานประเพณีบั้งไฟของชาวหนองกะแยง ทุกคนต่างไปกันพร้อมหน้า เขียวพกความมั่นใจไปเต็มเปี่ยม ผู้ใหญ่บ้านพิลา เป็นพิธีกรในงาน ยอด(เต๋า ภูศิลป์) อดีตแชมป์เก่า ก็ควงคู่มากับภรรยาสุดสุย กระเจี๊ยบ (กมลรัศมิ์) ด้วย ส่วนชมพู่ กับส้มแป้น (อนุสรา) ก็อยู่ทีมของครูริช โดยเขียวนั้น มีพ่อ แม่ มาให้กำลังใจพร้อมหน้า ซึ่งผลประกวดออกมาไม่เป็นไปตามคาด เขียวทั้งชวดเงินรางวัล และเสียหน้ามาก

รุ่ง (เตชินท์) เกลี้ยกล่อมให้ส้มแป้น ขายที่ เพื่อเอาเงินมาซ่อมแซมร้าน ถึงแม้ส้มแป้นจะไม่เต็มใจนัก แต่สุดท้าย ก็ขัดรุ่งไม่ได้ ส่วนยอด ก็เลี้ยงดูลูกอย่างดี ทั้งที่ต้องทำไร่ ไถนาไปด้วย โดยที่กระเจี๊ยบไม่สนใจเรื่องของครอบครัวเท่าใดนัก

หลังจากที่เขียวผ่านด่านทดสอบด่านแรกไปแล้ว ชมพู่ก็ให้เขียวปฎิบัติภารกิจด่านที่สองต่อไป คือการเลี้ยงใส้เดือน ชมพู่ให้เขียวไปเก็บขี้วัวกับครูริชที่ฟาร์ม ห่างไกลจากหมู่บ้านหนองกะแยง เพื่อมาเลี้ยงไส้เดือน กว่าจะถึงฟาร์มวัวก็ใช้เวลานับชั่วโมง เขียวบ่นไปตลอดทาง ซ้ำร้าย พอเก็บขี้วัวเสร็จ รถก็เกิดมาเสีย ทำให้ทั้งคู่ต้องกางเต้นท์ นอนที่ฟาร์มวัวด้วยกันอีก หรรษาแน่นอนงานนี้ห้ามพลาดใน “มนต์รักหนองผักกะแยง” วันอาทิตย์ที่ 16 พฤษภาคม 2564 เวลา 20.25 น. ทางช่อง 3 กด 33

เรื่องย่อ มนต์รักหนองผักกะแยง EP.4 วันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม 2564

ชมพู่(โบ เมลดา) ตั้งใจ สอนเรื่องการเลี้ยงไส้เดือนให้กับเขียว (ณเดชน์) รวมทั้งครูริช(แดนนี่) ก็มาเป็นพี่เลี้ยงให้อีกคน แต่สุดท้าย เขียวกลับทำไส้เดือนตาย ชมพู่โกรธมาก ชมพู่ถามพิกุล(เปิ้ล ชไมพร) ผู้เป็นแม่ เรื่องอดีตคนรักของผู้ใหญ่บ้านพิลา(ยิ่งยง) แม่จึงเล่าว่า มีคนมาติดพัน พิไล (สรวงสุดา) แต่พิไลไม่ชอบ กลับมาแต่งงานกับมานิต (หยอง ลูกหยี) ส่วนพิลา กลับเป็นคนที่ตกหลุมรักหนุ่มคนนั้นเสียเอง หลังจากที่ล้มเหลว เรื่องด่านการเลี้ยงไส้เดือน เขียวตัดสินใจจะไปจากไร่แบ่งฝันปันรักบอกกับยายเพียร(น้อย โพธิ์งาม) ว่าเขาคงไม่เหมาะกับชีวิตที่นี่ หยอดข้าวก็เป็นลม ประกวดทำบั้งไฟ ก็แพ้เลี้ยงไส้เดือนก็ตาย เขียวถอดใจกับชีวิตที่บ้านหนองกะแยงแล้วจริง ๆ 

เรื่องย่อ มนต์รักหนองผักกะแยง EP.5 วันเสาร์ที่ 22 พฤษภาคม 2564

ในเมื่อเขียว (ณเดชน์)ตัดสินใจจะไปจากบ้านหนองกะแยง ยายเพียร(น้อย โพธิ์งาม)จึงบอกว่าจะยกไร่แบ่งฝันปันรัก ให้ชมพู่(โบ เมลดา)ดูแลแทน เมื่อเขียวได้ฟัง จึงกลับมาฮึดสู้อีกครั้ง ครูริช(แดนนี่)จึงสอนเขียวเรื่องการเลี้ยงใส้เดือนให้ใหม่ ซึ่งครั้งนี้ผ่านไปได้ด้วยดี เพราะความตั้งใจของเขียว รุ่ง(เตชินท์)เอาเงินจากการขายที่ดินไปเล่นพนันจนหมด ประจวบกับที่ตำรวจ บุกเข้าทลายบ่อน รุ่งจึงถูกจับไปด้วย ส้มแป้นไปประกันตัวรุ่ง แล้วบอกตัดขาดความสัมพันธ์ นับแต่นี้เป็นต้นไป รุ่งกินเหล้าเมา มาอาละวาดที่ร้านส้มแป้น เขียวเห็นเหตุการณ์ เข้าไปช่วย จึงถูกรุ่งทำร้าย ชมพู่เข้าไปช่วยเขียวก็พลอยเจ็บตัวไปด้วย

เรื่องย่อ มนต์รักหนองผักกะแยง EP.6 วันอาทิตย์ที่ 23 พฤษภาคม 2564

ชมพู่(โบ เมลดา) บอกกับเขียว(ณเดชน์) ว่าจะเริ่มการทดสอบด่านที่สาม เริ่มจากการสอนเขียวเรื่องการเตรียมแปลงผัก สำหรับปลูกแตงกวาต่อไป ทั้งครูริช(แดนนี่) ส้มแป้น(อนุสรา) ยอด(เต๋า ภูศิลป์) ครูน้ำฝน(นับตังส์) มากันพร้อมที่แปลงผักเพื่อช่วยสอนงานเขียว กระเจี๊ยบ (กมลรัศมิ์) เมียของยอด (เต๋า ภูศิลป์) หนีตามผู้ชายไป ยอดร้องไห้เสียใจ ยายเพียร(น้อย โพธิ์งาม)จึงบอกกับยอด ว่าหากวันไหน ต้องเข้าไปทำงานที่ไร่ ให้เอาลูก ๆ มาฝากไว้ที่บ้าน จะช่วยเลี้ยงดูให้ มีคนว่าจ้างวงโปงลางให้ไปเล่นที่วัดบ้านดงดอกจิก พิลา(ยิ่งยง) จึงนำทีม เด็กนักเรียนบ้านหนองกะแยง พร้อมด้วย เขียว ชมพู่ ครูริช ครูน้ำฝน ส้มแป้น ยอด รวมถึงตะขบ มาย มิ้นท์ ขึ้นเวทีการแสดงอย่างสนุกสนาน 

เรื่องย่อ มนต์รักหนองผักกะแยง EP.7 วันศุกร์ที่ 28 พฤษภาคม 2564

ครูริช (แดนนี่) ยังคงแอบหลงรักชมพู่ (เมลดา) แต่ไม่กล้าบอก จึงไปปรึกษากับครูน้ำฝน (นับตังค์) ยิ่งทำให้ครูน้ำฝนช้ำใจ เพราะแท้ที่จริงแล้ว ตนแอบหลงรักครูริชอยู่ข้างเดียว เขียว(ณเดชน์) ไปนอนเฝ้าที่ไร่แตงกวา ชมพู่ดีใจมากที่เขียวเอาใจใส่เรื่องงานในไร่มากขึ้น ชมพู่กับเขียว ไปเก็บน้ำส้มควันไม้ด้วยกัน มานิต (หยอง ลูกหยี) กับสมศักดิ์ (สมจิตร) เห็นเด็กทั้งสอง เข้ากันได้ดี ก็ดีใจ เจ๊ลั้ง (อุ่นเรือน) พยายามเอายาฆ่าแมลง มาขายให้กับชาวบ้าน แทนการใช้ น้ำส้มควันไม้ แต่ไม่มีใครสนใจ เพราะไม่เชื่อใจเจ๊ลั้ง แต่เขียวรู้ไม่เท่าทันเจ๊ลั้ง จึงนำยาฆ่าแมลงกลับไปที่ไร่แบ่งฝันปันรักด้วย ติดตามได้ใน “มนต์รักหนองผักกะแยง”

เรื่องย่อ มนต์รักหนองผักกะแยง EP.8 วันเสาร์ที่ 29 พฤษภาคม 2564

เขียว (ณเดชน์) ป่วย เพราะโดนพิษของยาฆ่าแมลง ชมพู่ (เมลดา) มาเยี่ยมเขียวที่บ้าน เขียวจึงสารภาพว่านำยาฆ่าแมลงเข้ามาในไร่จริง แต่ยังไม่ได้ใช้กับพืชผัก ชมพู่ให้หมอดิน มาตรวจดินในไร่ พิสูจน์ ความบริสุทธิ์ใจของเขียว เมื่อความจริงทุกอย่างปรากฏ เขียวจึงกลับเข้าไปทำงานที่ไร่อีกครั้ง เขียวซึ้งใจในความรัก ที่ทุกคนมีให้แก่ตน เขียวเริ่มกลับมาพูดภาษาอีสานอีกครั้ง และความรู้สึก ดี ๆ ที่มีต่อชมพู่ ก็มีมากขึ้นทุกวัน

ชมพู่ให้เขียว ผ่านด่านการปลูกแตงกวาในที่สุด หลังจากที่กระเจี๊ยบ หนีจากยอด (เต๋า ภูศิลป์) ไป ส่วนส้มแป้น(เปรี้ยว อนุสรา) ก็เลิกกับสามี ทั้งสองครอบครัว ก็ต่างดูแลครอบครัวของกันและกันเป็นอย่างดี ยอดกับส้มแป้น จึงเกิดความรู้สึกที่ดีต่อกัน ติดตามต่อได้ใน “มนต์รักหนองผักกะแยง”

เรื่องย่อ มนต์รักหนองผักกะแยง EP.9 วันอาทิตย์ที่ 30 พฤษภาคม 2564

ที่บ้านหนองกะแยง มีงานบุญซำฮะ เป็นวันสุดท้าย ครอบครัวเขียว (ณเดชน์) ชมพู่ (เมลดา) ส้มแป้น(เปรี้ยว อนุสรา) ยอด (เต๋า ภูศิลป์) ครูริช (แดนนี่) ครูน้ำฝน(นับตังค์) ต่างไปร่วมงานที่วัดกันอย่างพร้อมหน้า 

หลังจากที่เขียว ผ่านด่านการปลูกแตงกวาแล้ว ชมพู่จึงเริ่มงานด่านต่อไป ด้วยการพาเขียวมาเรียนรู้ ที่เล้าไก่อารมณ์ดี ศึกษาขั้นตอนการเลี้ยงไก่อย่างละเอียด ชมพู่กับเขียว ดูแลไร่แบ่งฝันปันรักด้วยกัน บรรยากาศ เต็มไปด้วยความสุข

เมื่อยายผาเสียชีวิต ชมพู่จึงขอเงินบริจาคกับชาวบ้าน เพื่อช่วยให้ตาสอน เอาเงินไปไถ่โฉนดที่ดินคืนมาจากเจ๊ลั้ง (อุ่นเรือน) ให้ได้ ถึงแม้พ่อและแม่ของตะขบ (นนท์ สกลนคร) จะไม่กลับมารับตะขบไปเลี้ยง แต่ทุกคนที่บ้านหนองกะแยง ก็ให้ความรัก ความอบอุ่น ตะขบเป็นอย่างดี ติดตามได้ใน “มนต์รักหนองผักกะแยง”

เรื่องย่อ มนต์รักหนองผักกะแยง EP.10 วันศุกร์ที่ 4 มิถุนายน 2564

ชมพู่ (โบว์ เมลดา) ยังคงสอนเขียว (ณเดชน์) ให้เรียนรู้ เรื่องการเลี้ยงไก่ ซึ่งเขียวตั้งอกตั้งใจเป็นอย่างดี สมศักดิ์ พิกุล พิไล มานิต ต่าง ดีใจที่เด็กทั้งสองเข้ากันได้เป็นอย่างดี ครูริช (แดนนี่) เห็นภาพที่ชมพู่อยู่ใกล้ชิดกับเขียว จึงเริ่มทำใจ ตัดใจจากชมพู่ และยินดีที่เขียว และชมพู่ มีความรู้สึกที่ดีต่อกัน

รุ่ง(เตชินท์) บอกกับส้มแป้น (เปรี้ยว อนุสรา) ว่าตนเองจะบวชไม่สึก ยายเพียร (น้อย โพธิ์งาม) ปลอบส้มแป้น ว่าจะผ่านทุกอย่างไปได้ เหมือนที่ครั้งหนึ่งยายเพียร เคยผ่านเรื่องราวในชีวิตของตนเองมาแล้ว ส่วนยอด (เต๋า ภูศิลป์) ก็ให้กำลังใจส้มแป้น ยืนยันในมิตรภาพที่ดี จะยังคงมีให้กันตลอดไป 

เรื่องย่อ มนต์รักหนองผักกะแยง EP.11 วันเสาร์ที่ 5 มิถุนายน 2564

ระหว่างที่ความสัมพันธ์ของเขียว(ณเดชน์) กับชมพู่ (โบว์ เมลดา) กำลังไปได้ดี มอส(ณัชพงศ์พล) เพื่อนรักของเขียว ก็มาที่บ้านหนองกะแยง ขอร้องให้เขียว ช่วยกำกับงานโฆษณาให้ และขอยกทีมมาถ่ายทำ ที่ไร่แบ่งฝันปันรักด้วย ที่สำคัญ ครั้งนี้ อลิซ(คาลิยา) อดีตคนรักของเขียว ตามมาหาเขียว ที่ไร่อีกด้วย

ครูริช (แดนนี่) บอกกับชมพู่ ว่าเขียวไปช่วยงานมอส ทำให้ไม่สามารถมาช่วยเกี่ยวข้าวได้อีก ชมพู่แอบเศร้าใจหนัก คิดมาก แต่ไม่กล้าเล่าให้ใครฟัง

พิลา (ยิ่งยง) เข้าใจผิด คิดว่าเขียว กับอลิซ จะกลับมาคืนดีกัน เรื่องราวถูกบอกเล่าต่อ ๆ กันไป จนรู้ถึงหูของชมพู่ สร้างความกังวลใจให้เธอมากยิ่งขึ้นไปอีก

เรื่องย่อ มนต์รักหนองผักกะแยง EP.12 วันอาทิตย์ที่ 6 มิถุนายน 2564

การถ่ายทำโฆษณาของมอส(ณัชพงศ์พล) ที่ไร่แบ่งฝันปันรักผ่านไปได้ด้วยดี เขียว (ณเดชน์)กำกับงานให้จนเสร็จเรียบร้อย แต่กลับมีเรื่องเข้าใจผิด เมื่อ ยายเพียร (น้อย โพธิ์งาม) มานิต (หยอง ลูกหยี) พิไล (น้ำฝน สรวงสุดา ) พิลา (ยิ่งยง) รวมถึงชมพู่ (โบว์ เมลดา) ได้ยินมอส คุยกับเขียวเรื่องการขายไร่ และกลับไปอยู่กรุงเทพฯอีกครั้ง

ทุกคนโกรธเขียวมาก ยายเพียรเศร้าใจหนัก ทุกคนผิดหวังในตัวเขียว ชมพู่เองเองก็เสียใจมาก ความจริงจะเป็นเช่นไร เขียวจะหาทางอธิบายกับทุกคนได้อย่างไร ต้องลุ้นกันต่อ

ส่วนครูน้ำฝน (นับตัง นันท์นภัส) ก็สารภาพกับส้มแป้น (เปรี้ยว อนุสรา) ว่าหลงรักครูริช (แดนนี่) มานานแล้ว ส้มแป้นให้ครูน้ำฝน สารภาพความจริง กับครูริช ก่อนที่ครูริช จะกลับต่างประเทศ และทุกอย่างจะสายเกินไป ครูน้ำฝนจะทำเช่นไร ต้องติดตาม

เรื่องย่อ มนต์รักหนองผักกะแยง EP.13 (ตอนจบ) วันศุกร์ที่ 11 มิถุนายน 2564

หลังจากที่เขียว (ณเดชน์) ตัดสินใจ จะสานต่องานที่ไร่แบ่งฝันปันรัก เขียวก็พยายามไปง้อขอคืนดีกับชมพู่(โบว์ เมลดา) ให้ชมพู่ กลับมาดูแลงานที่ไร่ด้วยกัน แต่ชมพู่ยังคงไม่แน่ใจ ว่าเขียวจะมาหลอกเธออีกหรือเปล่า จึงไม่ยอมใจอ่อนให้กับเขียวสักที เขียวต้องไปขอให้พ่อและแม่ของชมพู่ ช่วยพูดกับชมพู่ด้วยอีกแรง

ยายเพียร (น้อย โพธิ์งาม) เรียกประชุม พิลา (ยิ่งยง) พิไล(สรวงสุดา) มานิต(หยอง ลูกหยี) พิกุล(เปิ้ล ชไมพร) สมศักดิ์(สมจิตร) พร้อมทั้ง ครูริช(แดนนี่) ยอด(เต๋า ภูศิลป์) ครูน้ำฝน(นับตังค์) ส้มแป้น (เปรี้ยว อนุสรา) มาร่วมระดมความคิด วางแผนเป็นกามเทพหาจังหวะยิงลูกศร ให้เขียวและชมพู่คืนดีกันให้ได้ เขียวก็มานั่งฟังความคิดเห็นของทุกคนด้วย แต่ความฝันที่เขาจะได้กลับมาคืนดีกับชมพู่จะเป็นจริงหรือไม่ เขียวยังคงกังวลใจ

ครอบครัวของเขียว และชมพู่ จะได้มาเป็นทองแผ่นเดียวกันหรือไม่ แผนการของทุกคนจะเป็นอย่างไร อย่าพลาดติดตามชม ตอนจบของละครมนต์รักหนองผักกะแยง วันศุกร์ที่ 11 มิย.นี้

รายชื่อนักแสดง มนต์รักหนองผักกะแยง ช่อง 3HD

  • ณเดชน์ คูกิมิยะ รับบท ธรากร/เขียว
  • เมลดา สุศรี รับบท ชมพู่
  • น้อย โพธิ์งาม รับบท ยายเพียร
  • แดนนี่ ลูเซียโน่ รับบท ครูริช 
  • นับตังค์ นันท์ณภัส รับบท ครูน้ำฝน
  • เต๋า ภูศิลป์ รับบท ยอด
  • อนุสรา วันทองทักษ์ รับบท ส้มแป้น 
  • สรวงสุดา ลาวัณย์ประเสริฐ รับบท พิไล
  • หยอง ลูกหยี รับบท มานิต
  • สมจิตร จงจอหอ รับบท สมศักดิ์
  • ยิ่งยง ยอดบัวงาม รับบท พิลา
  • ชไมพร สิทธิวรนันท์ รับบท พิกุล
  • ณัชพงศ์พล สุดดี รับบท มอส
  • คาลิยา นิฮุต รับบท อลิซ
  • รุ่งฤดี ข้อยุ่น รับบท มายด์
  • รุ่งราตรี ข้อยุ่น รับบท มิ้นท์ 
  • กมลรัศมิ์ อารีสนั่น รับบท กระเจี๊ยบ
  • พีรสันต์ บุญท้าว รับบท ตะขบ
  • อุ่นเรือน ราโชติ รับบท เจ๊ลั้ง
  • เตชินท์ ปิ่นชาตรี รับบท อ้ายรุ่ง
  • ด.ช.ณัทวัตร ศรีระกิจ รับบท เขียววัยรุ่น
  • ด.ญ.คีตภัทร ป้องเรือ รับบท ชมพู่เด็ก
  • ด.ช.ศิวกร อุตะทอง รับบท เขียวเด็ก
  • ด.ช.ราชันท์ หมัดสี รับบท ยอดเด็ก