รีเซต

ออสการ์ 2022 🏆 กับ 6 สถิติที่สแตนบายรอสร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ในปีนี้

ออสการ์ 2022 🏆 กับ 6 สถิติที่สแตนบายรอสร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ในปีนี้
Jeaneration
21 มีนาคม 2565 ( 12:30 )
220

เหลือเวลาอีกเพียงไม่ถึงสัปดาห์ต่อจากนี้ เราจะได้ทราบกันแล้วว่าภาพยนตร์เรื่องไหนจะคว้ารางวัลอันยิ่งใหญ่และเกียรติยศสูงสุดของวงการไปครองกับ ออสการ์ 2022 ที่จะงานประกาศผลรางวัลขึ้นในช่วงเช้าวันที่ 28 มีนาคมนี้ ตามเวลาในบ้านเรา ณ โรงละครดอลบี้ เธียเตอร์ นครลอสแองเจลิส ที่จะมีการเปิดเผยผลรางวัล ทั้ง 23 สาขา ออกไปในวันดังกล่าวครบถ้วน

ออสการ์ 2022 ในปีนี้ถือว่าเป็นปีที่พยายามละเลงรูปแบบรายการและการจัดงานใหม่ในหลาย ๆ ด้าน และทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ไม่น้อยเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการตัดแอร์ไทม์ของบางรางวัลออกไปจากโชว์ เพราะอ้างเรื่องความกระชับของการถ่ายทอดสด หรือการใส่โชว์เพลงประกอบภาพยนตร์ที่ไม่ได้เข้าชิงรางวัลใด ๆ ที่ผู้ชมมองว่าแค่อยากเกาะกระแส และปีนี้ยังมีเพิ่มรางวัลมหาชน ที่เปิดให้คนทั่วโลกโหวตภาพยนตร์ที่พวกเขาชื่นชอบ เพื่อให้ได้รับรางวัลพิเศษ

แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้ ออสการ์ 2022 มี 6 สถิติที่น่าสนใจที่สแตนบายรอให้เกิดขึ้นบนเวทีรางวัลอันทรงเกียรติในครั้งนี้ สถิติต่าง ๆ นี้จะเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ให้กับวงการภาพยนตร์ระดับโลก เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นครั้งแรกและเกิดขึ้นอีกครั้งโดยทำลายสถิติเดิม และนี่คือสถิติที่น่าสนใจที่กำลังจะเกิดขึ้นบนเวทีออสการ์ในปีนี้ ที่เราต้องเฝ้าจับตามองกันให้ดี ๆ

เจน แคมเปียน จะสร้างประวัติศาสตร์ให้กับนักทำหนังผู้หญิงในฮอลลิวูด

เพราะเธอผู้นี้คือผู้หญิงคนแรกในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ ที่สามารถเข้าชิงรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมได้เป็นครั้งที่ 2 ย้อนกลับไปในปี 1993 เธอเคยได้ออสการ์จากการเขียนบทหนัง "The Piano" มาแล้ว แต่ในปีนี้ "The Power of the Dog" ของเธอได้เข้าชิงทั้งสาขาผู้กำกับและบทภาพยนตร์พร้อมๆ กัน และเธออาจจะกลายเป็นผู้หญิงคนแรกที่จะได้รางวัลจาก 2 สาขานี้คู่กันในปีเดียว และถ้าหากว่าหนังคว้ารางวัลใหญ่ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ไปด้วย เธอจะขึ้นแท่นเป็นนักทำหนังหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ทำเช่นนี้

คริสเตน สจ๊วต จะตอกหน้า BAFTA กับ SAG ที่ไม่เหลียวแล

แน่นอนว่าลีลาการแสดงของ "คริสเตน สจ๊วต" จาก Spencer หลายเวทีและหลายสถาบันต่างเห็นพ้องต้องกันว่าควรค่าแก่จะมีชื่อเธอติดเข้าชิงรางวัลทางการแสดง แต่กระนั้นในปีนี้กลับมา 2 เวทีใหญ่ๆ อย่าง SAG และ BAFTA ที่มองข้ามและเมินชื่อของดาราสาวผู้นี้ไปอย่างน่าประหลาดใจ แต่ถ้าหากว่าเธอมีโอกาสและเอาชนะอุปสรรคได้ เธออาจจะกลายเป็นนักแสดงคนแรกที่คว้าออสการ์ ไปโดยที่ปราศจากชื่อเข้าชิงบนเวทีใหญ่ๆ ครบทุกเวที และที่ผ่านมามีเพียงนักแสดงหญิง 2 คนเท่านั้นที่ทำได้ นั่นก็คือ "มาร์เซีย เกย์ ฮาร์เดน" จาก Pollock ในปี 2001 กับ "เรจินา คิงส์" จาก If Beale Street Can Talk เมื่อปี 2018

ทรอย คอตเชอร์ กับ โคดี้ สมิท-แม็คฟี ลุ้นทำสถิติที่ 2 ครั้งใหม่

พวกเขาทั้งคู่คือตัวเต็งในสาขานักแสดงสมทบชายในปีนี้ "ทรอย คอตเชอร์" จาก CODA กับ "โคดี้ สมิท-แม็คฟี" จาก The Power of the Dog ที่ยังคงขับเคี้ยวกันช่วงชิงรางวัลกันอย่างเมามันส์ และถึงแม้ว่าผลจะยังไม่ประกาศออกมา แต่พวกเขาก็จดจ่อที่จะสร้างสถิติใหม่ที่เป็นลำดับที่ 2 เอาไว้แล้ว

หากว่า ทรอย คว้ารางวัลนี้ไปครอง เขาจะกลายเป็นนักแสดงทุพพลภาพคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ ตามหลังนักแสดงร่วมของเขา "มาร์ลี แมทลิน" ที่เธอเคยได้รางวัลมาจากเรื่อง Children of a Lesser God ในปี 1986 เมื่อตอนที่ยังอายุ 21 ปี แต่ถ้าหากว่า โคอี้ ชนะรางวัลนี้ไป เขาจะได้ตุ๊กตาทองไปในตอนอายุ 25 ปี ที่กลายเป็นนักแสดงอายุน้อยที่สุดเป็นลำดับที่ 2 ในประวัติศาสตร์ เป็นรองแค่ "ทิโมธี ฮัตตัน" ที่เคยได้รางวัลสาขานี้จาก Ordinary People ในปี 1980 เมื่อครั้งที่เขาอายุได้ 18 ปี

อาเรียนา เดโบซ จะเป็นสาวลาตินที่คว้าตุ๊กตาทองจากบทซ้ำเดิม

ประวัติศาสตร์อาจจะต้องซ้ำรอยกันบ้างเล็กน้อย เพราะตัวเต็งสาขานักแสดงสมทบหญิงปีนี้ ดูเหมือนจะนอนมาแบบไม่ต้องลุ้นอะไรเท่านั้น และ อาเรียนา เดโบซ ก็อาจจะได้ทำสถิติเป็นสาวลาตินคนที่ 2 และเป็น LGTBQ ผิวสีคนแรกที่สามารถคว้ารางวัลนี้ด้วยบทบาทเดียวกับที่ "ริต้า โมเรโน่" เคยคว้ารางวัลจากบทบาทนี้ในปี 1961 เช่นเดียวกัน โดยก่อนหน้านี้เคยมีการบันทึกเอาไว้ในประวัติศาสตร์แค่เพียง 2 ครั้ง ที่มีนักแสดงได้ออสการ์จากการแสดงในบทเดียวกัน นั่้นก็คือ "มาร์โลน แบรดโด" กับ "โรเบิร์ต เด นีโร" จากบทเจ้าพ่อใน The Godfather และ "ฮีธ เลดเจอร์" กับ "วาคีน ฟีนิกซ์" กับบท โจ๊กเกอร์

Dune มีสิทธิ์จะโค่นและทำสถิติรางวัลระลอกใหม่

เป็นหนังที่ได้เข้าชิงโดดเด่นถึง 10 สาขารางวัล โดยส่วนใหญ่เป็นรางวัลเกี่ยวกับงานสร้างทั้งนั้น และหนังก็มีลุ้นรางวัลอยู่ในหลายๆ สาขาด้วย มีการคาดการณ์ว่าหนังอาจจะโกยรางวัลเกี่ยวกับการถ่ายภาพ, โปรดักชั่นดีไซน์ หรือการตัดต่อ และหากว่าหนังเรื่องนี้สามารถกอบกอบรางวัลเทคนิคต่างๆ ไปได้ 8 สาขา ก็จะเทียบเท่ากับสถิติของ "Cabaret" หนังคลาสสิกในปี 1972 ที่เคยทำเอาไว้ ที่กลายเป็นหนังกวาดรางวัลงานสร้างได้เพียบ แต่ไม่ได้รางวัลใหญ่ที่สุดของงานไปครอง

CODA เปล่งประกายความหวังให้วงการหนังสตรีมมิ่ง

กลายเป็นหนังรีเมคฟอร์มเล็กๆ ที่ตีตื้นขึ้นมาได้ในช่วงท้ายๆ หลังจากที่หนังชนะรางวัลใหญ่บนเวที SAG มาครอง ทำให้มีโอกาสเป็นไปได้สูงที่หนังจะสามารถกวาดรางวัลใหญ่ๆ ได้ไปอีก นอกจากการแสดงของ ทรอย คอตเชอร์ ที่ค่อนข้างลอยลำในหลายๆ เวที แต่กระนั้น CODA ก็ทำให้นี่กลายเป็นผลงานหนังออริจินัลเรื่องแรกของ Apple TV+ ที่ได้มีบทบาทบทเวทีรางวัลต่างๆ และได้เข้าชิงภาพยนตร์ยอดเยี่ยมของออสการ์เป็นเรื่องแรก

แต่ CODA ที่ได้เข้าชิงเพียง 3 สาขา คือ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, นักแสดงสมทบชาย และ ดัดแปลงภาพยนตร์ ที่ผ่านมายังไม่เคยมีหนังเรื่องไหนที่จะชนะรางวัลใหญ่ที่สุด โดยที่ไม่เข้าชิงสาขาผู้กำกับและตัดต่อหนังมาก่อน จะมีก็เพียง "Birdman" ในปี 2014 ที่ได้ชิงสาขาผู้กำกับ ก่อนจะได้รางวัลใหญ่ไป หรือ "Driving Miss Daisy" ในปี 1989 ที่เป็นหนังเรื่องเดียวในประวัติศาสตร์ที่ได้รับรางวัลใหญ่ของออสการ์ไปครอง โดยที่หนังไม่ได้รับเสนอชื่อเข้าชิงบนเวที DGA ด้วยซ้ำ และนี่จึงเป็นโอกาสที่น่าจับตามองของ CODA บนเวทีออสการ์ในปีนี้

Source: Variety

เกาะติดเวทีรางวัลอื่นๆ ที่ผ่านมาในปีนี้

ผลรางวัล BAFTA 2022 ออสการ์เกาะอังกฤษ 🏆 "The Power of the Dog" ผงาด!
สรุปผลรางวัลลูกโลกทองคำ Golden Globes 2022 🏆 หนัง-ซีรีส์ยอดเยี่ยมแห่งปี
SAG 2022 เปิดโผผู้เข้าชิงรางวัลการแสดงแห่งปี Screen Actors Guild ครั้งที่ 28
เปิดโผรางวัล Independent Spirit Awards 2022 เวทียิ่งใหญ่แห่งหนังนอกกระแส!
ใครนก..ใครปัง เก็บตกไฮไลท์สำคัญผู้ชนะรางวัล "ลูกโลกทองคำ 2022"
ใครนก..ใครปัง เก็บตกไฮไลต์สุดช็อก เปิดโผผู้เข้าชิงรางวัล "SAG Awards 2022"
สรุปผลรางวัลมะเขือเทศทองคำ หนัง-ซีรีส์แห่งปีจากเว็บดัง Rotten Tomatoes

----------------------------------------------------

>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa