"แม่แตงโม" อัปเดตชีวิตปัจจุบันในวันที่ไร้ "แตงโม นิดา" เผยผลบุญส่งถึงลูกสาวแน่นอน (มีคลิป)
หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันกับการเสียชีวิตนางเอกดัง "แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์" ที่สุดท้ายถูกพิสูจน์หลักฐานได้แล้วว่าเสียชีวิตจากอุบัติเหตุตกเรือ แต่มีอีกหนึ่งคนที่สังคมยังจับตามองกันอยู่ ไม่ว่า "คุณแม่ภนิดา ศิระยุทธโยธิน" จะขยับตัวทำอะไรก็ผิด วันนี้ "คนดังนั่งเคลียร์" ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 เลยขอพาแม่มาเปิดใจเคลียร์ หรือโดนเคลียร์ กับทุกประเด็นร้อนที่สังคมประณามเธอ ว่าเรื่องราวทั้งหมดจริงหรือไม่
"แม่แตงโม" อัปเดตชีวิต ในวันที่ไร้ "แตงโม นิดา" เผยผลบุญส่งถึงลูกสาวแน่นอน
คุณแม่ได้เลี้ยงดูแตงโมตั้งแต่แรกเกิด ดูแลทั้งหมดกี่ปี ก่อนที่คุณแม่จะมีการเปลี่ยนแปลงชีวิต?
แม่ภนิดา : ถ้าดูแลจริง ๆ แล้ว ตั้งแต่เกิด ตั้งแต่อยู่ในท้อง ถึง 3 ขวบ
แม่อุปโลกน์ ไม่ใช่แม่จริง ๆ ตกลงจริง ๆ แล้วโมใช่ลูกคุณแม่ไหม ไม่มีมูลหมาไม่ขี้?
แม่ภนิดา : คุณแม่ก็อุ้มท้องมานะ สูติบัตรก็แตงโม เกิดมาก็ชื่อแตงโมเลย นามสกุลก็คุณพ่อเขา พัชรวีระพงษ์ และคุณแม่ก็สงสัย ข่าวนี้ตั้งแต่ เมื่อ 10 ปีที่แล้วก็เกิดขึ้นนะคะ น้องโมมีแม่อยู่ต่างจังหวัด แต่ตอนนี้ตายไปแล้ว ก็หน้าเนี่ยคนนี้ และก็กลับมาอีกรอบหนึ่งตอนน้องโมเสีย คิดไม่ออกเลย คิดว่าเป็นสื่อนี้แหละที่ต้องการสร้างข่าว
ขอบคุณคลิปจาก ช่อง 8
สื่อจะทำไปทำไม?
แม่ภนิดา : เขาอาจจะอยากทำลายคนแม่มั้ง อาจจะอยากสร้างข่าวให้เป็นประเด็นดัง ๆ ควบคู่กับข่าวน้องโม
มีคนบอกลูกอายุไม่เท่าไรก็ทิ้งไปมีครอบครัวใหม่ ให้น้องโมมีชีวิตลำบาก ต้องอยู่กับพ่อสองคน ดูแลตัวเองจริงไหม?
แม่ภนิดา : มันไม่ใช่ทิ้งนะคะ กับคุณพ่อเขาเราได้หย่าขาดจากกัน เราก็ไม่สามารถใช้ชีวิตคู่ด้วยกันได้ หย่าได้วันเดียว รุ่งขึ้นก็แม่มานอนกับลูกหน่อยจะไปทำงานต่างประเทศ นี่มันหมายถึงการหย่าหรือเปล่า เพราะในท้ายหย่าเขาจะลงว่าคุณแม่จะมีสิทธิ์เอาลูกไปเลี้ยงได้ เมื่อเสาร์-อาทิตย์ แต่นี่อย่าไปวันเดียว เขาก็เรียกคุณแม่ไปเลี้ยงลูกแล้ว หลังจากนั้นมาเราก็ติดต่อกันตลอด ไม่ได้เรียกว่าการหย่า จนถึงวินาทีสุดท้ายคุณพ่อเสียชีวิต คุณแม่ยังต้องไปนั่งให้เขาจับมือ
การที่สังคมมาว่า แม่โผล่มาเอาสมบัติ และแสดงตนว่าเป็นแม่ ไม่เป็นความจริง?
แม่ภนิดา : ไม่ได้แสดงตนนะ มันเป็นเรื่องจริง ลูกอยู่ในท้องดิฉันมา 9 เดือน เกิดมาก็ชื่อแตงโมเลยค่ะ ในสูติบัตรเนี่ย
ณ ปัจจุบันตอนนี้ คุณแม่รู้สึกอย่างไรบ้าง?
แม่ภนิดา : คิดถึงลูกนะคะ คิดถึงมากด้วย เพราะว่าเราจากกันแบบเราไม่เห็นหน้ากันเลย และเราไม่รู้เลยว่าน้องไปไหน ตอนที่ไปที่สะพาน ตอนทราบข่าวว่าน้องตกน้ำเนี่ย มันไม่ใช่ คุณแม่ก็จะบอกกับพี่ชายเขาว่า มันต้องไม่ใช่น้องโม ทำไมต้องเป็นน้องโมตกน้ำ น้องมาทำอะไรแถวนี้ มาอยู่ในน้ำได้อย่างไร ลูกเราไม่เคยเป็นแบบนี้ คุณแม่ยอมรับไม่ได้
เขาบอกกันแม่กลัวผีน้องแตงโมใช่ไหม ไม่กล้าเข้าบ้าน บ้านน้องโมก็ไม่กล้าเข้าไปเหยียบ?
แม่ภนิดา : ใครบอก เกินเหตุแล้วพูดแบบนี้
น้องโมจากไปจะปีหนึ่งแล้ว คุณแม่ได้อะไรซึ่งแสดงถึงการระลึกถึงน้องโมไหม?
แม่ภนิดา : น้องโมนับถือศาสนาคริสต์นะคะ แต่คุณแม่เนี่ยได้ทำบุญกับพระสงฆ์ ถวายสังฆทานให้น้อง ซึ่งศาสนาคริสต์เนี่ย เมื่อคนเสียชีวิตไปแล้ว เขาก็จะขึ้นไปอยู่บนฟ้าแล้ว ไปเป็นนางฟ้า น้องโมไปเป็นนางฟ้าแล้ว แต่เราอยากทำบุญให้ลูก อาจารย์บอกว่าไม่ต้องทำไม่ถึง
แล้วน้องโมไปเป็นนางฟ้า แต่แม่กรวดน้ำทำบุญ น้องโมจะได้บุญกุศลตรงไหนล่ะแม่?
แม่ภนิดา : ได้ ไปเช็กมาแล้ว น้องโมได้รับแล้ว สิ่งที่คุณแม่ทำให้
ทราบว่าคุณแม่ยังมีการเอาข้าวไปให้น้องโมที่หน้ารูปทุกวัน ลูกไม่ต้องไปผุดไปเกิด เพราะเรียกลงมาหาทุกวันหรอคะ?
แม่ภนิดา : จุดธูปด้วย (หัวเราะ) อยากทำบุญให้ลูกนะคะ ทำให้เขา คุณแม่ระลึกถึงเขาตลอดเวลา และต้องการทำบุญให้เขา ก็ตัดสินใจเลย เอาศาสนาพุทธนี่แหละที่เรานับถืออย่างน้อยพระก็ได้สวดให้ เอารูปเขาไปวางไว้ พระก็สวดให้ ก็ถึงค่ะ ถึงจริง ๆ ด้วย
เรื่องคดีความมันไปถึงไหนแล้ว ตัดสินไปเสร็จหรือยัง?
แม่ภนิดา : ยังเลยค่ะ ยังอยู่ในศาลชั้นต้น
แม่คิดว่าแตงโมตาย เพราะอุบัติเหตุ หรือฆาตกรรมคะ?
แม่ภนิดา : ถ้าจะให้ตอบแบบถูกต้องเนี่ยนะคะ ก็คือต้องรอศาลเป็นผู้ตัดสิน ต้องรอศาลค่ะ เพราะจะต้องสืบพยานโจทก์ พยานจำเลย เยอะแยะ
แต่ในความรู้สึกของแม่ แม่คิดว่าลูกตกน้ำตายจริง ๆ เหรอ?
แม่ภนิดา : ไม่แน่ใจอ่ะ บอกตรง ๆ ว่าไม่แน่ใจคือ มันมีข่าว มีอะไรเข้ามาเยอะแยะทางสื่อนะ แต่ทางที่เป็นชิ้นเป็นอันว่าน้องโดนฆาตกรรมหรืออะไรแบบเนี่ย มันยังไม่มี แต่มันก็มีข่าวไม่ดีออกมา ทำให้เราคิด
ในเมื่อคุณแม่บอกต้องรอศาลใช่ไหม แต่มีคนบอกว่าคุณแม่ยอมความเพราะเห็นแก่เงิน ขอเรียกเพิ่มอย่างนั้น อย่างเนี่ย?
แม่ภนิดา : ยัง ๆ ไม่ยอมความนะ ยังไม่จบนะคะ ในศาลอีก 2 ปี ถึงปี 67 ค่ะ อันนี้ที่ขอเรียกเพิ่มมันไม่เป็นความจริงเลย คุณแม่ไม่เคยพูด และในวันที่ 22 ที่เราไปศาล ก่อนขึ้นศาลก็มีสัมภาษณ์ ก็ไม่มีนักข่าวถามเรื่องเงิน 2 หมื่นบาทนี่เลย ลงมาจากศาลก็ไม่มีใครถามนะ ปรากฏว่าพอกลับบ้านแล้ว เห็นข่าวนี้เต็มจอเลย ข่าวทุกข่าวเลย คุณแม่ไปเรียกร้องเงินเพิ่มอีก 2 หมื่นบาท ไปเอามาจากไหนข่าว คุณแม่ยังไม่รู้ ไม่ทราบเลย มันไม่จำเป็นที่คุณแม่ต้องไปพูดแบบนี้ มันไม่ได้หิวเงิน มันเป็นกฎหมาย เขาเรียกค่าสินไหม น้องโมเสียชีวิต คุณแม่ก็ได้เงินเยียวยาจากกระทรวงยุติธรรม ซึ่งต้องทำตามกฎหมายมีผู้เสียชีวิต ทุกคนได้หมด และทางผู้ที่ร่วมกระบวนการทางในเรือเขาก็ร่วมรับผิดชอบ ให้เอง เขาก็จ่ายมาด้วยความรับผิดชอบของเขา ไม่ได้ไปเรียกไปขอ เขาขอกราบเท้า ขอโทษคุณแม่ คุณแม่บอกว่า ต่อหน้าตำรวจได้ไหม ต่อหน้าสื่อเยอะ ๆ ได้ไหม เขาบอกได้ นั้นแหละคือสิ่งที่เขาทำ และเขาก็เสนอมาเองเขาจะดูแลคุณแม่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าน้องโมดูแลคุณแม่ น้องโมทำงานปีล่ะ 160 ล้านนะคะ สิ่งที่น้องโมได้ เขาก็ทำจริงๆ เขาก็โอนเงินเข้าบัญชีคุณแม่ตลอดตั้งแต่น้องโมเสียชีวิต
พอแม่พูดแบบนี้ สังคมก็เลยพูดเลยว่าแม่ยอมหุบปากเลย ยอมไปหมดเลย ไม่ต้องสืบเลย ลูกตายเพราะอะไร ก็เพราะได้เงินทอนแล้ว?
แม่ภนิดา : ยังไม่เคยพูดเลย ก็คิดกันไปเอง ทุกวันนี้สืบอยู่ว่า น้องเสียชีวิตเพราะเหตุใด และทำเพราะเหตุใด มันก็ต้องสืบเนอะ
ถ้าสมมติศาลตัดสินว่าน้องโมเสียชีวิต เพราะอุบัติเหตุตกน้ำรับได้ไหม?
แม่ภนิดา : รับได้ทุกเรื่อง
แต่ถ้าศาลตัดสินว่าคนนี้ฆ่าลูกฉันตาย แม่จะแค้น อาฆาต จนไฟลุกไหม?
แม่ภนิดา : แม่ไม่ทำแบบนั้นหรอกค่ะ แม่มีโรคความดันสูง แม่ทำเหมือนอาจารย์ไม่ได้ เดี๋ยวเส้นเลือดแตก คุณแม่ก็ต้องรับทราบ ก็อาจจะคุยกับเขาคนที่ทำร้ายลูกเราว่าทำไมต้องทำเช่นนี้ เพราะเหตุใด มันต้องมีสาเหตุ ใช่ไหมคะ
แล้วคิดไหมว่าลูกเรา ดาราสาวตัวน้อย ๆ ทำไมการตายของลูกมันกลายเป็นเรื่องสลับซับซ้อน เหมือนหนังบันลือโลก คิดไหมทำไมลูกเราถึงต้องมีรายละเอียดเยอะอย่างนี้?
แม่ภนิดา : ให้พูดตรง ๆ นะ ไปคบเพื่อนไม่ดี คนไม่ดี ชักนำเขาไป ปกติเขาไม่ไปไหนนะ เขาอยู่แต่บ้านกับเบิร์ด เจียวไข่ทานข้าวกันที่บ้าน ป้อนข้าวกันอยู่ เล่นกับแมว น้องโมเขาไม่ไปไหน มีวันนั้นเนี่ย จริง ๆ เขาเลิกติดต่อกับเพื่อนคนนี้ไปแล้ว 3 เดือน ไม่ได้คุยกันแล้ว ไม่ได้จ่ายเงินอะไรกันแล้ว ค่าบริการดูแลเนี่ย ก็ไปได้อีกคนหนึ่งเขาจัดการให้ ทีนี้คนนี้กลับมาคุยโทรศัพท์ โทรเรียกน้องโมไปลงเรือกัน อืมไปทำงาน เดี๋ยวเขาก็บอกไปทำงาน เดี๋ยวเขาก็บอกว่าไม่ได้ทำ ไม่ได้ทำงาน ก็เรียกไปเที่ยว ไปชิล ๆ กินไวน์ชิล ๆ ในเรือ
อันนี้แม่ก็ได้ฟังจากปากเขามาว่าช่วยไปเที่ยวเฉย ๆ?
แม่ภนิดา : ใช่ ๆ แต่ทำงานก็ไม่เห็นทำหนิ ทำอะไร คุณแม่ก็ไม่เห็นทำ น้องโมแต่งตัว เตรียมตัวไปทำงาน เห็นไหม เห็นชุดน้องไหม
เราเป็นแม่ เราเลี้ยงลูกมาอย่างดี เป็นเลือดในอก แล้ววันหนึ่งลูกเราจากไป เราก็เสียใจ แต่เรากลายเป็นแม่ที่ไม่ดีในสายตาสังคมส่วนหนึ่ง ท้อบ้างไหมแม่?
แม่ภนิดา : ถ้าถามว่าท้อไหม คุณแม่ไม่ท้อนะคะ เพราะคุณแม่ไม่ได้อ่านคอมเมนต์ อ่านน้อยมากเลย ดูแต่คลิปอะไรพวกนี้ คุณแม่ก็มีวิธีทำใจของคุณแม่เอง เราก็ปลอบใจตัวเองว่า คนด่าได้เดี๋ยวก็ดีได้ เขามีสิทธิ์ที่จะด่าเรา หากเขาคิดว่าเราเป็นเช่นนั้นนะ ก็ด่าได้หมดแหละ ด่าคุณแม่ ด่าได้ แต่ขอให้เป็นเรื่องจริง ขอบคุณที่มีคุณแม่อยู่ในหัวใจ ถึงจะด่าหรือจะว่า หรือจะคิดถึงคดีของน้องโม ก็ขอบคุณนะคะ ขอบคุณจริงๆที่ยังที่ใส่ใจน้องโมอยู่
หลังจากนี้ศาลจะตัดสินและจบลงอย่างไร แต่ที่รู้ตอนนี้ในรายการมีคำถามมากมาย ที่สังคมอยากรู้ เลยเป็นสาเหตุเชิญคุณแม่มาเปิดใจ แฟน ๆ สามารถไปรับชม และรับฟังกับคำถามเต็ม ๆ แบบเอ็กซ์คลูซีฟในรายการ "คนดังนั่งเคลียร์" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.55 น. ทางช่อง 8
อ่าน ข่าวบันเทิงวันนี้ ที่เกี่ยวข้อง :