รีเซต

[US Boxoffice] มันกลับมาหนนี้ "Alien: Romulus" โกยเงินดีใช้ได้ในรอบทศวรรษ

[US Boxoffice] มันกลับมาหนนี้ "Alien: Romulus" โกยเงินดีใช้ได้ในรอบทศวรรษ
Jeaneration
19 สิงหาคม 2567 ( 08:00 )
204

Box Office Alien: Romulus

บ็อกซ์ออฟฟิศอเมริกา รายงานอันดับหนังทำเงินประจำสุดสัปดาห์วันที่ 16-18 สิงหาคม 2024 - แล้วก็ถึงวาระสิ้นสุดการครองบัลลังก์ของท่านศาสดามาร์เวล เพราะการกลับมาเยือนของสิ่งมีชีวิตที่น่าหวั่นวิตกที่สุดแห่งกาแล็คซี ที่เป็นการหวนคืนบ็อกซ์ออฟฟิศอีกครั้งในรอบหลายปี กับการสานต่อแฟรนไชส์ที่ออกจะลุ่ม ๆ ดอน ๆ ไปในบางช่วงเวลา แต่กระนั้นก็พอจะทำให้วงการหนังคึกคักได้อีกครั้งในช่วงปลายฤดูร้อนที่กระแสเริ่มจะแผ่วบางลงเรื่อย ๆ

"Alien: Romulus" ยึดตำแหน่งแชมป์ได้อย่างไม่ยากเย็นในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นี่คือการกลับมาสานต่อแฟรนไชส์เอเลี่ยนบนจอใหญ่อีกครั้งในรอบ 7 ปี ซึ่งเป็นการคัมแบ็กที่น่าพอใจไม่น้อย กับรายได้เปิดตัว 3 วันแรกที่ 41.5 ล้านเหรียญ จาก 3,885 โรงฉายทั่วอเมริกา คิดเป็นรายได้เฉลี่ยต่อโรงที่ราว ๆ หมื่นเหรียญพอดี

การมาของ Alien: Romulus ก็ยิ่งตอกย้ำให้ดิสนีย์เป็นเจ้าแห่งหนังซัมเมอร์ปีนี้ ที่มีหนังฮิตเป็นของตัวเองในทุก ๆ เดือน ตลอดทั้ง 4 เดือนของฤดูร้อนที่ผ่านมา นี่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแฟรนไชส์ที่ดิสนีย์สานต่อโปรเจกต์ดั้งเดิมจากอดีตค่ายทเวนตี้ เซ็นจููรี ฟ็อกซ์ โดยผลลัพธ์ที่ได้นี่ก็คือหนังเอเลี่ยนที่เปิดตัวได้ดีที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ตลอดกาล จากทั้งหมด 9 เรื่องที่ผ่านมา เป็นรองแค่เพียง Prometheus ที่เคยเปิดเอาไว้ที่ 51 ล้านเหรียญ เมื่อฤดูร้อน 12 ปีก่อน

ไม่เพียงเท่านั้น หนังไปได้ค่อนข้างสวยจากการออกฉายทั่วโลกด้วย เพราะออกสตาร์ทกับตัวเลข 66.7 ล้านเหรียญ ทำให้สุดสัปดาห์แรก Alien: Romulus เปิดตัวรอบโลกได้ฉลุยกว่า 108 ล้านเหรียญ โดยที่กระแสคำวิจารณ์ของหนังก็น่าพอใจไม่น้อย มีนักวิจารณ์ชื่นชอบถึง 82% และผู้ชมให้เกรดเฉลี่ยที่ B+ ถึงหนังจะใช้ทุนสร้างไปราว ๆ 80 ล้านเหรียญ แต่จากสถิติที่ผ่านมานั้น หนังชุดเอเลี่ยนในยุคหลัง ๆ ก็มักจะทำรายได้ได้คุ้มทุนแบบเส้นใยแดงผ่าแปดแทบจะทุกเรื่อง

"Deadpool & Wolverine" ก็ได้เวลาลงจากบัลลังก์ หลังจากที่ครองแชมป์ต่อเนื่องกัน 3 วีคซ้อน ทำเงินไปอีก 29 ล้านเหรียญ ลดลงมา -46% แต่ยังคงเป็นหนังที่ครองโรงฉายในอเมริกาได้เยอะที่สุดต่อเนื่องในสัปดาห์นี้ ยอดรวมในบ้านก็ทะยานไปที่ 545 ล้านเหรียญ กับอีกเฉียด ๆ 600 ล้านเหรียญจากทั่วโลก และบัดนี้ยังก้าวขึ้นเป็นหนังติดเรท R ที่ทำเงินสูงสุดตลอดกาล แซงหน้าสถิติเดิมของ Joker ไปเรียบร้อย

ขณะที่หนังรักดรามาที่กำลังมีประเด็นดรามาเกี่ยวกับปัญหาเบื้องหลังการถ่ายทำ อย่าง "It Ends With Us" หลังจากที่เปิดตัวได้อย่างน่าประทับใจไป วีคนี้ก็ทำเงินไปอีก 24 ล้านเหรียญ ถึงจะลดลงไป -52% แต่ก็นับว่าเป็นสถานการณ์ยังค่อนข้างดี เพราะหนังกวาดรายได้ 10 วันแรกไปได้แล้ว 97.7 ล้านเหรียญ กับยอดรวมทั่วโลกที่แตะ 180 ล้านเหรียญไปได้สวย ๆ จากการที่ใช้ทุนสร้างแค่ 25 ล้านเท่านั้น

เห็นกระแสพัดวูบหายไปเงียบ ๆ แต่ไม่ใช่ในอเมริกา "Twisters" ที่เข้าฉายเข้าสู่สัปดาห์ที่ 5 ยังคงเก็บเงินในระยะยาวได้เรื่อย ๆ ทำเงินไปเพิ่มอีก 9.8 ล้านเหรียญ ลดลงไปแค่ -35% เท่านั้น กับยอดรวมในบ้านที่พุ่งไปถึง 238 ล้านเหรียญ แม้ว่าหนังจะทำเงินนอกอเมริกาได้น้อยกว่าประมาณหนึ่ง แต่ขณะนี้ก็ฟันเงินทั่วโลกไปได้แล้วกว่า 333 ล้านเหรียญ นับว่าเป็นโกยเงินได้แจ่มไม่เบา

การกลับมาเฉลิมฉลองครบรอบ 15 ปีของหนังแอนิเมชันเรื่องเยี่ยมของสตูดิโอไลก้า อย่าง "Coraline" ก็เป็นการฉายซ้ำที่น่าประทับใจ เพราะเปิดตัวได้ 8.9 ล้านเหรียญ จาก 1,535 โรงฉาย คิดเป็นรายได้เฉลี่ยต่อที่ 5 พันเหรียญ ทำได้ดีพอ ๆ กับเมื่อตอนออกฉายครั้งแรกเลย ส่วนหนังนอกกระแส "Dìdi" ก็ยังทำผลลัพธ์ได้ดีต่อเนื่อง กับการฉายแบบวงจำกัดและเพิ่มวงฉายขึ้นทีละเรื่อย ๆ วีคนี้ทำเงินเพิ่มอีก 700,000 เหรียญ เพิ่มขึ้นอีก +8% หลังจากที่หนังเพิ่มโรงฉายเป็น 427 โรงทั่วประเทศ กับยอดรวมที่ 2.6 ล้านเหรียญ หลังฉายวงแคบ ๆ มาเกือบเดือน

แต่หนังที่สถานการณ์น่าเป็นห่วงเป็นอย่างยิ่ง ก็คงจะเป็น "Borderlands" ที่น่าจะพูดได้แล้วว่า เป็นหนังที่ทำเงินได้คว่ำบนบ็อกซ์ออฟฟิศปีนี้อีกเรื่อง เพราะสัปดาห์นี้หนังร่วงไปอยู่อันดับที่ 9 กับรายได้ที่ลดลงฮวบไปถึง -73% ได้ไปอีกเพียง 2.35 ล้านเหรียญ กับรายได้ 10 วันแรกแค่ 13.5 ล้านเหรียญ โดยหนังใช้ทุนสร้างไปกว่า 115 ล้านเหรียญ ที่น่าจะเป็นตัวเลขที่ข้างทุนอย่างย่อยยับ แม้กระทั่งตัวเลขจากนอกอเมริกาก็ไม่อาจจะช่วยกระตุ้นได้

สำหรับสัปดาห์ที่จะถึงนั้น ก็ยังคงเติมเต็มด้วยโปรแกรมหนังใหม่ช่วงปลายฤดูร้อน นำมาด้วยหนังระทึกขวัญชวนงงงวย "Blink Twice" ผลงานเดบิวต์การกำกับหนังเรื่องแรกของนักแสดงสาว โซอี้ คราวิทซ์ ตามมาด้วยฉบับใหม่ของอีกาพญายมใน "The Crow" เวอร์ชันปี 2024 จะเดือดแค่ไหน และยังมีหนังดรามาเจาะกลุ่มคนผิวสี "The Forge" ที่จะฉายเป็นหนังทางเลือกอีกเรื่อง ขณะที่หนังฉายในวงจำกัดจะมีหนังตลกร้ายเสียดสีสังคม "Greedy People" กับหนังดรามาจากนิยายดัง "The Supremes at Earl's All-You-Can-Eat" ฉายแบบวงแคบ ๆ

 Source: TheNumbers

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

-------------------------------------

>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa