รีเซต

[US Boxoffice] โชว์พลังเก๋า! "Bad Boys: Ride or Die" ยึดแชมป์แรงไม่แผ่วเลย

[US Boxoffice] โชว์พลังเก๋า! "Bad Boys: Ride or Die" ยึดแชมป์แรงไม่แผ่วเลย
Jeaneration
10 มิถุนายน 2567 ( 08:00 )
130

Box Office Bad Boys: Ride or Die

บ็อกซ์ออฟฟิศอเมริกา รายงานอันดับหนังทำเงินประจำสุดสัปดาห์วันที่ 7-9 มิถุนายน 2024 - ก็ให้มันรู้ไปเลยสิ..ว่าใครเก๋าเกม! ดูเหมือนว่าหนังบ็อกซ์บัสเตอร์ซัมเมอร์ฮอลลีวูดปี 2024 จะเริ่มจะสตาร์ทเครื่องติดขึ้นมาได้หน่อยแล้ว เพราะการกลับมาของคู่หูคู่ป๋าประจำวงการ ที่ถือครองแฟรนไชส์หนังชุดนี้มายาวนานเกือบจะ 3 ทศวรรษ พร้อมกับพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า...วันเวลาผ่านไปก็ยังโชว์ความเจ๋งไม่เปลี่ยนแปลง โฉบมายึดชาร์ตที่ 1 ได้สุดปัง

แชมป์หนังเรื่องใหม่สัปดาห์นี้ตกเป็นของ "Bad Boys: Ride or Die" หนังภาคที่ 4 ของแฟรนไชส์คู่หูขวางนรก ที่ยังคงได้ "วิล สมิธ" กับ "มาร์ติน ลอว์เรนซ์" กลับมารับบทบาทสร้างชื่อให้กับพวกเขาอีกครั้ง และภาคนี้ก็ส่งสัญญาณที่ดีมาตั้งแต่กระแสคำวิจารณ์ที่ลอยลำเป็นที่โปรดปรานของนักวิจารณ์และผู้ชมมาแต่ไกล ทำให้เปิดตัว 3 วันแรกไปได้สวย ๆ ที่ 56 ล้านเหรียญ จาก 3,885 โรงฉาย หรือคิดเป็นรายได้เฉลี่ยต่อโรงที่กว่า 14,000 เหรียญ

การกลับมาครั้งนี้ของแบดบอยส์ก็ยังคงตอกย้ำความเป็นหนังเพื่ออรรถรสความบันเทิงของผู้ชมโดยแท้ เพราะถือว่ายังทำผลลัพธ์เปิดตัวได้ค่อนข้างน่าพอใจไม่เบา ตัวเลขเปิดตัวของ Bad Boys 4 ถือว่ามีส่วนกระตุ้นให้โปรแกรมหนังซัมเมอร์นี้กลับมากระเตื้องขึ้นได้อีกครั้ง หลังจากที่ผ่านเดือนแรกไปอย่างเงียบเหงา รายได้ 3 วันถือว่าเปิดตัวได้ดีเป็นลำดับที่ 2 ของฤดูกาลปีนี้ เป็นรองแค่เพียง "Kingdom of the Planet of the Apes" ที่เคยเปิดตัวดีที่สุดของซัมเมอร์ 2024 ในตอนนี้ที่ 58.4 ล้านเหรียญ เมื่อเดือนก่อน

ตัวเลขเปิดตัวของ Bad Boys: Ride or Die นับว่าน่าพอใจ ถือว่าใกล้เคียงกับที่ Bad Boys for Life ภาคก่อนเคยเปิดเอาไว้ที่ 62 ล้านเหรียญ เมื่อช่วงต้นปี 2020 ที่เป็นสัญญาณที่บ่งชี้ได้ว่าแฟรนไชส์หนังเรื่องนี้ยังคงมีอนาคตที่สดใสและสามารถขยายลู่ทางไปต่อไปได้อีกในอนาคตอันใกล้ แม้ว่านักแสดงนำจะอายุมากขึ้น แต่บทบาทก็โตขึ้นตามวัย และยังหยอดใส่ความคลาสสิกที่คนดูที่ตามทันทุกภาคยังเอ็นจอยกับมันได้เป็นอย่างดีอยู่

Bad Boys: Ride or Die ไม่ได้แค่ทำได้ดีในอเมริกาเท่านั้น เพราะหนังก็ออกฉายทั่วโลกตีตลาดในเวลาไล่เลี่ยกัน โดยหนังเปิดตัวกับรายได้ตลาดนอกอเมริกาไปได้ถึง 48.6 ล้านเหรียญ นั่นเท่ากับว่าสุดสัปดาห์แรกที่หนังออกฉายนั้น ฟันรายได้ทั่วโลกไปได้ราว ๆ 104 ล้านเหรียญ และดูทรงว่าน่าจะร้อนแรงไปยาว ๆ ไปตลอดทั้งเดือนมิถุนายนนี้ ถือว่าหนังซัมเมอร์ของแทร่..น่าจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว

ส่วนอีกหนึ่งหนังใหม่ที่เปิดตัวเข้ามาค่อนข้างเงียบ ๆ อีกเรื่องก็คือ "The Watchers" หนังระทึกขวัญ ผลงานเดบิวต์กำกับเรื่องแรกของ" อีซานา ไนท์ ชามาลาน" ลูกสาวของเจ้าพ่อหนังหักมุม เอ็ม. ไนท์ ชามาลาน ที่เปิดตัวได้เบา ๆ ที่ 7 ล้านเหรียญ จาก 3,351 โรงฉายทั่วอเมริกา คิดเป็นรายได้เฉลี่ยต่อโรงที่ราว ๆ 2,000 เหรียญโดยประมาณ นับว่าเป็นตัวเลขที่ไม่ได้หวือหวาอะไรนัก

The Watchers มีนักวิจารณ์ชอบตัวหนังแค่เพียง 29% เท่านั้น ซ้ำยังได้แค่เกรด C- จากการสำรวจของผู้ชมหน้าโรงหนังของ CinemaScore เป็นสัญญาณที่ไม่ค่อยจะสู้ดีเท่าไหร่นัก ในแง่การยืนโรงฉายในระยะยาง และปฏิเสธไม่ได้ว่าในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ หนังสยองหนังระทึกแนว ๆ นี้ก็มีเข็นปล่อยออกมาฉายแทบจะล้นตลาด จึงอาจจะเป็นจุดที่อิ่มตัวของหนังแนวนี้แล้วหรือเปล่า?

ขณะที่อันดับอื่น ๆ ที่น่าสนใจก็มี "The Garfield Movie" ที่หล่นจากแชมป์ แต่ก็ยังทำเงินได้ดีต่อไป เก็บไปเพิ่มอีก 10 ล้านเหรียญ ลดลงไปแค่ -29% เท่านั้น กับยอดรวมในบ้านที่แตะที่ 68 ล้านบาท ถือว่าน่าจะยังยืนโรงฉายเก็บเงินได้อีกสักพัก เช่นเดียวกับ "IF" หนังครอบครัวที่ทำเงินไปอีก 8 ล้านเหรียญ ลดลงไปเพียง -24% เท่านั้น เห็นเงียบ ๆ แต่ก็ฟันรายได้มุ่งหน้าสู่หลักร้อยล้าน ทำยอดรวมไปได้ 93 ล้านเหรียญแล้ว

"Furiosa: A Mad Max Saga" ก็กระแสแผ่วลงเร็วจริง ๆ เพราะวีคนี้กระเด็นร่วงตกลงไปอยู่ที่ 6 กับรายได้อีก 4.2 ล้านเหรียญ ลดฮวบไปถึง -61% ดูทรงแล้วไม่ค่อยสู้ดีนัก เพราะรายได้รวมในอเมริกาตอนนี้ยังไม่ถึง 60 ล้านเหรียญ แถมตัวเลขในตลาดต่างประเทศก็เริ่มไหลแบบช้ามากขึ้นแล้วด้วย มีโอกาสสูงที่หนังภาคนี้ของตระกูลแมดแม็กซ์ น่าจะเจ็บตัวไปแบบพอประมาณ

ส่วนสัปดาห์นี้ในอเมริกามีการนำเอาไตรภาค "The Lord of the Rings" กลับมาลงโรงฉายใหม่ ในวาระฉลองครบรอบกว่า 2 ทศวรรษ โดยแบ่งเป็นการฉาย 3 ภาค ในวันศุกร์, เสาร์, อาทิตย์ ตามลำดับ ก็ถือว่าทำให้หนังกลับมาเข้า Top 10 บ็อกซ์ออฟฟิศได้อีกครั้งทั้ง 3 ภาค อยู่ที่แถว ๆ ท้ายตาราง

ขณะที่หนังใหม่ที่เข้าฉายแบบวงจำกัดที่น่าสนใจก็มี "Tuesday" ในหนังดรามาแฟนตาซีระทึกขวัญ ที่ได้คำวิจารณ์บนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes สูงถึง 89% เปิดตัวแค่ 2 โรงฉาย ทำเงินไป 25,600 เหรียญ ซึ่งหนังมีแผนที่จะเพิ่มวงฉายกว้างขึ้นในสัปดาห์ที่จะถึงนี้ และหนังตลกดรามา "I Used to Be Funny" เข้าฉายแค่โรงเดียวในอเมริกา เปิดตัวได้ใช้ได้แบบวงแคบ ๆ ที่ 15,000 เหรียญ โดยประมาณ

ส่วนสัปดาห์ถัดไปคาดว่าความร้อนแรงของซัมเมอร์จะเพิ่มดีกรีขึ้น ด้วยหนังแอนิเมชันภาคต่อของดิสนีย์-พิกซาร์ อย่าง "Inside Out 2" ที่จะเป็นหนังเข้าฉายแบบวงกว้างมาก ๆ เพียงเรื่องเดียว และหลายฝ่ายก็่คาดหวังว่ามันอาจจะเป็นหนังเปิดตัวระดับร้อยล้านเหรียญเรื่องแรกของปีนี้ด้วย แต่จะทำไมหรือไม่ต้องมาลุ้นกัน

 Source: TheNumbers

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

-------------------------------------

>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa