"เฌอปราง" สลัคลุคไอดอล ลุยละครอิงประวัติศาสตร์ฟอร์มยักษ์ "บุษบาลุยไฟ"
EntertainmentReport2
15 มิถุนายน 2566 ( 16:00 )
166
หลังจากเปิดตัวละคร “บุษบาลุยไฟ” ละครพีเรียดอิงประวัติศาสตร์ฟอร์มยักษ์ ผลงานการผลิตโดย บริษัท จูเวไนล์ จำกัด ก็ได้รับกระแสตอบรับอย่างดีจากแฟนๆที่ตั้งตารอชมกัน ซึ่งไม่นานเกินรอก็จะได้รับชมตอนแรกกันแล้วในวันศุกร์ที่ 23 มิถุนายน นี้ ทาง ไทยพีบีเอส ซึ่งงานนี้นางเอกมากความสามารถ “เฌอปราง อารีย์กุล” (เฌอปรางBNK48) ขอสลัดภาพไอดอลสาว มาสวมชุดไทยพาผู้ชมย้อนกลับรู้จักประวัติศาสตร์ในยุค ร. 3
"เฌอปราง" สลัคลุคไอดอล ลุยละครอิงประวัติศาสตร์ฟอร์มยักษ์ "บุษบาลุยไฟ"
ที่สอดแทรกความสนุกแบบละครไว้ครบทุกอรรถรส ร่วมกับทัพนักแสดงแถวหน้าของเมืองไทยคับคั่ง อาทิ โทนี่ รากแก่น , เต๋า สมชาย เข็มกลัด, บิ๊ก ศรุต วิจิตรานนท์, ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา, ลูกหว้า พิจิกา จิตตะปุตตะ, เอ็กซ์ พรเลิศ พิพัฒน์รุ่งเรือง, บัว ภัทรสุดา อนุมานราชธน, อ้น เลอวิทย์ สังข์สิทธิ์, มากิ มาชิดา สุทธิกุลพานิช, แพรว หัสสยา อิสริยะเสรีกุล, ภัทร นัตธนนท์ ปิ่นโรจน์กีรติ, น็อต ธีร์ อริยฤทธิ์วิกุล, ทอม จักรกฤต โยมพยอม, อติล่า กานโยซ์, ริด้า ฟาริดา วัลเล่อร์, ญาณี ตราโมท, รัก ศรัทธา ศรัทธาทิพย์, หยา จรรยา ธนาสว่างกุล, จ๋า โมฬีวรรณ พันธรักษ์, พรเพ็ญ ฟ้าอำนวย และ กัญจนปกรณ์ แสดงหาญ
โดยละครเรื่อง บุษบาลุยไฟ เป็นเรื่องราวของสตรีผู้มาก่อนกาล ข้ามผ่านอุปสรรคแห่งยุคสมัย ท้าทายขนบ พุทธศักราช 2373-2374 รัชสมัยพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ลำจวน(เฌอปรางBNK48/มากิ มาชิดา) เป็นเด็กหญิงที่อยากเรียนหนังสือ เธอฉลาด จดจำกลอนและแต่งได้ด้วยวิธีเลียนจากกลอนสุนทรภู่(ทอม จักรกฤต) ที่เคยฟัง อยากเป็นนายโรงละครนอกแบบนายสุ่น(เอ๊กซ์ พรเลิศ) ผู้เป็นบิดา ขณะที่นวล(แพรว หัสยา)และน้อย(พิม ลัทธ์กมล) พี่ๆผู้หญิงอยู่ในกรอบประเพณี หัดร้องรำ รอวันมีสามี ลำจวน(มากิ มาชิดา) พบกับฮุน(โทนี่ รากแก่น) หนุ่มจีนกำพร้าต่ำต้อยที่วัดสุวรรณาราม ฮุน(โทนี่ รากแก่น) อยากเป็นช่างเขียนศิษย์ครูทองอยู่(บิ๊ก ศรุต) ผู้สูงส่ง แต่พวกศิษย์รังเกียจกีดกัน ครูคงแป๊ะ(เจ๋า สมชาย) ช่างเขียนที่ถูกมองเป็นคู่แข่งครูทองอยู่(บิ๊ก ศรุต)จึงรับเขามาสอน ลำจวน(มากิ มาชิดา) สงสารที่ฮุน(โทนี่ รากแก่น) ถูกกดขี่จึงสอนเขาพูดภาษาไทยให้ชัด แต่เนตร(น็อต ธีร์) พี่ชายของลำจวน(เฌอปรางBNK48/ มากิ มาชิดา) เข้าใจผิดจึงทำร้ายเขาจนมือเจ็บ ส่วนลำจวน(มากิ มาชิดา) ถูกจำกัดบริเวณไม่ให้มาวัดอีก
6 ปีผ่านไป ในงานฉลองที่วัดประยุรวงศาวาส ฮุน(โทนี่ รากแก่น) ได้พบลำจวน(เฌอปรางBNK48) ที่เป็นสาวแล้ว แต่เธอเป็นที่หมายปองของเจ้าคุณอินทรา(ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา) แห่งนครบาลที่มีอิทธิพลสูง นพ(ภัทร นัตธนนท์) จึงให้พ่อยกเธอให้เป็นนางเล็กๆ เหมือนพี่ๆของลำจวน(เฌอปรางBNK48) เพื่อหวังเอาใจเจ้าคุณอินทรา(ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา) แต่เธอไม่ปรารถนาชีวิตเช่นนั้น จึงกระโดดเรือระหว่างทางเข้าพิธีส่งตัวดำน้ำหายไป แล้วเธอก็มาโผล่ที่แพคุณพุ่ม(บัว ภัทรสุดา) ที่ท่าพระ(ท่าช้าง) จงใจมาขอพึ่ง เพราะ บุษบาท่าเรือจ้าง ท่านนี้คือ กวีหญิงประจำใจ คุณพุ่ม(บัว ภัทรสุดา) จับเธอแต่งเป็นชายให้ชื่อว่าเฉก พอดีมีการพบศพหญิงเปลือยจมน้ำ ที่บ้านจึงเชื่อว่าเป็นศพของเธอ ลำจวน(เฌอปรางBNK48) ในคราบเฉก เรียนรู้วิชาทึคุณพุ่มสอนอย่างรวดเร็ว
สุนทรภู่(ทอม จักรกฤต) มาเป็นสื่อให้เจ้าฟ้ากรมขุนอิศเรศรังสรรค์ทาบทามคุณพุ่ม(บัว ภัทรสุดา)ร่วมงานสักวาในวันเพ็ญเดือน 12 ดุจครั้งอดีต เมื่อได้พบเฉก(เฌอปรางBNK48) ก็ถูกชะตา จึงชวนไปร่วมสังสรรค์ที่บ้านครูคงแป๊ะ(เต๋า สมชาย) เฉก(เฌอปรางBNK48)ได้พบกับฮุน(โทนี่ รากแก่น) และมีโอกาสใกล้ชิดกัน แต่คุณพุ่ม(บัว ภัทรสุดา) พยายามขัดขวางทั้ง2คนเพราะเกรงจะมีภัยแต่ไม่สำเร็จ คืนลอยพระประทีปมาถึง ทั้งลำจวน(เฌอปรางBNK48)และคุณพุ่ม(บัว ภัทรสุดา) อยากอวดความสามารถ ทางสักวาของลำจวน(เฌอปรางBNK48) ในฐานะกวีสตรีหน้าใหม่แม้รู้ว่าเสี่ยง และเจ้าคุณอินทรา(ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา) ก็จำได้จริงๆ จึงคิดจะชิงตัวเธอกลับไปลงโทษ เรื่องราวความรักและความฝันของลำจวน(เฌอปรางBNK48) และ ฮุน(โทนี่ รากแก่น) จะเป็นอย่างไร คงต้องตามเอาใจช่วยกัน
เฌอปรางBNK48 เผยว่า “เรื่องนี้รับบท ลำจวน ค่ะ ช่างพูดช่างคุย ช่างเจรจา เจ้าบทเจ้ากลอน พอได้ทราบว่าจะได้เล่นละครเรื่องนี้ดีใจมาก เพราะถือว่าเป็นเรื่องที่ทรงคุณค่า และให้อะไรกับคนดูมากกว่าแค่ความสนุกของละคร ยังมีเกร็ดของประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจให้เราได้ทราบสอดแทรกอยู่ด้วย ซึ่งท้าทายความสามารถสุดๆ เพราะได้เล่นอะไรที่หลากหลาย เป็นบทละครที่มีพัฒนาการตั้งแต่วัยรุ่นไปจนถึงผู้ใหญ่ และด้วยความที่ลำจวนอยากเป็นกวีหญิง ก็ต้องอ่านเขียนเก่ง ซึ่งผิดกับเฌอที่ไม่เก่งภาษาไทย เรื่องนี้จึงต้องมีการเวิร์คช็อปค่อนข้างหนัก เฌอต้องเรียนทั้งการแต่งกลอน อ่านกลอน มีต้องเรียนร้องเพลงไทยเดิม มีเรียนรำไทย ยังมีเรียนวาดภาพร่วมกับพี่โทนี่ พี่เต๋า สมชายด้วย เพราะในเรื่องเราไปทุกที่ ลุยทุกอย่างจริง ๆ เรียกว่าสมบุกสมบันมาก ๆเลยค่ะ ยิ่งกว่าลุยไฟ ตกน้ำบ่อยมาก เรือล่มจริงๆก็มี ฝ่าโควิดก็ผ่านมากันได้ แต่ก็เป็นกองที่ทำงานแล้วมีความสุขสนุกมากๆ ทุกคนตั้งใจทำงานกันเพื่อให้ผลงานออกมาดีที่สุด ถ่ายทำกันมากว่า 2ปี คนที่ปวดหัวกับเฌอมากที่สุดคงจะหนีไม่พ้น พ่ออี๊ด สุประวัติ ที่เฌอจะมีคำถามคอยถามพ่อตลอด ขอบคุณพ่อมากๆเลยค่ะ รวมทั้งพี่ๆนักแสดงหลายๆท่านที่คอยสอน รับส่งบท รับส่งอารมณ์กัน จนเราเชื่อว่าเราเป็นตัวละครนั้นได้จริงๆ เรื่องนี้ทำให้เฌอได้เรียนรู้อะไรเพิ่มขึ้นเยอะมาก เป็นละครอีกหนึ่งเรื่องที่รักมาก ๆ ค่ะ อยากให้ได้รับชมกันเยอะๆ เชื่อว่าทุกคนจะชอบกันแน่ๆ ฝากด้วยนะคะ” เตรียมพบกับความสนุกแฝงความรู้ทางประวัติศาสตร์ในละคร “บุษบาลุยไฟ” ทุกวันศุกร์ - อาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไทยพีบีเอส ช่องหมายเลข 3