"นิโคล" รับห่วง "ทิกเกอร์" หลังเป็นศิลปินเต็มตัวตามรอยพ่อแม่
ซุ่มฝึกซ้อมมานาน 3 ปี สำหรับ “ทิกเกอร์ อชิระ เทริโอ" จนได้เป็นศิลปินเดี่ยวคนแรกจากค่าย G’NEST เรียกว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นเลยจริง ๆ เพราะมีคุณพ่อคุณแม่ที่เป็นศิลปินในตำนาน อย่าง “นิโคล เทริโอ” และ “แมว จิรศักดิ์ ปานพุ่ม” ล่าสุด ทิกเกอร์ ได้ควงคุณแม่มาเปิดใจในรายการโต๊ะหนูแหม่ม กับพิธีกรตัวแม่ “หนูแหม่ม สุริวิภา” พร้อมเคลียร์ดราม่าใช้เส้นพ่อแม่จนได้เซ็นสัญญาเป็นศิลปินสังกัดค่ายดัง
"นิโคล" รับห่วง "ทิกเกอร์" หลังเป็นศิลปินเต็มตัวตามรอยพ่อแม่
รู้สึกยังไงตอนนี้มีเพลงเป็นของตัวเองแล้ว?
ทิกเกอร์ : รู้สึกว่าฟินครับ ใจฟูมาก เพราะผมตั้งใจทำโปรเจคนี้มากเราก็แฮปปี้มาก แบบเราไม่อยากจะเชื่อ
คุณแม่รู้สึกยังไงบ้าง?
นิโคล : น่ารัก เราถึงขั้นน้ำตาไหล วันแรกที่นั่งดูน้ำตาคลอเลยซึ่งมันเป็นน้ำตาแห่งความภาคภูมิใจ มันก็เป็นเหมือนรอยยิ้มแต่จะไต้ขึ้นไปอีกระดับ เป็นความภาคภูมิใจและดีใจกับลูกแค่นั้นเอง ใจฟูพองโตแล้วก็อิ่มเอมมีความสุข
คุณพ่อคุณแม่ไปดูด้วย พ่อว่ายังไงบ้าง?
นิโคล : คือเค้าเลือกเพลงของคุณพ่อไปร้องด้วย ตอนแรกร้องเพลงของเราเราไม่ร้องไห้ แต่พอร้องเพลงคนของเธอ (เพลงของพ่อแมว) มันเป็นเพลงที่เราชอบมาตั้งนานแล้ว และเพลงนี้มันโดน พอทิกเกอร์ร้องทุกครั้งเลยเราก็จะร้องไห้
ความฝันนี้เริ่มมาตั้งแต่ตอนไหน?
ทิกเกอร์ : เริ่มมาเพราะคุณแม่ครับ เพราะมีงานวันแม่ที่ต้องร้องที่เชียงใหม่ แล้วเค้าอยากให้ผมเล่นกีตาร์และร้องเพลง อันนั้นคือก้าวแรกในการเล่นกีตาร์เป็นศิลปิน เหมือนเค้ารอของเสียงเพลง ก็เล่นไปสักพักและเราได้ลองเขียนเพลงเองทำเองเองโมเมนต์นั้นเป็นโมเมนต์ที่เราคิดว่าอันนี้เป็นเส้นทางที่เราอยากไปในชีวิต
ได้เซ็นสัญญากับแกรมมี่?
นิโคล : เหมือนเราได้กลับบ้านอีกครั้ง เหมือนเราได้เป็นคนเซ็นสัญญาเอง แต่มันมากไปกว่านั้นเพราะเขาคือลูกของเรา มันล้นกว่าความรู้สึกของเราที่ได้เป็นศิลปินเอง เหมือนเราได้พาเค้าไปอยู่ในที่จุดนั้นได้เราก็หมดห่วงแล้วเค้าได้ทำในสิ่งที่ฝันก็เป็นจริงแล้ว พอเซ็นน้ำตามันก็ไหลอีก ร้องไห้ตรงโต๊ะเซ็นสัญญาแตกฮือกันทั้งห้องเลย
ฝึกฝนนานไหม?
ทิกเกอร์ : เราก็ฝึกฝนมานาน เรียนรู้อะไรต่างๆมาเยอะมาก จนครูถามว่าเดี๋ยวมีค่ายใหม่เปิดออดิชั่นนะ เราสนใจมั้ย ซึ่งอันนึงก็เป็นวันแรกเลยที่เราร้องเพลงและเล่นกีตาร์ให้ใครฟัง
การที่เราได้เซ็นสัญญาไม่ได้ใช้เส้นสายใช่ไหม เพราะหลายคนมองว่าทั้งพ่อและแม่ก็อยู่แกรมมี่?
ทิกเกอร์ : ใช่ครับ ผมใช้เวลาฝึกฝนนาน 3 ปี เพราะคนที่ใจร้อนคงทิ้งฝันไปนานแล้ว ด้วยความที่มันเป็นแพชชั่นตอนผมเรียนดนตรีของตัวเองไปหาครูเองมันเป็นแพชชั่น แต่พอเป็นการเทรนมันเป็นแพตเทิร์นที่เราต้องรับผิดชอบ และยังช่วยปรับมายด์เซ็ทของเราให้เหมือนมีความรับผิดชอบมากขึ้นกับเวลากับตัวเองกับสิ่งที่ผมทำ มันเพิ่มไฟให้กับตัวเอง
กลัวว่าลูกแต่ต้องเจอกับอะไรที่เราไม่อยากให้เจอไหม?
นิโคล : ถ้าถามว่ากลัวไหมทุกคนก็ต้องมีความกังวลหรือเป็นห่วงดีกว่า แต่จะทำอะไรก็ตามแต่ถามว่าน่ากลัวไหมก็คงไม่เท่าไร ซึ่งเราก็รู้สึกว่าการที่เขาอยู่ในสายอาชีพที่เราทำดีกว่า อย่างน้อยนึกขึ้นได้ว่ามันเป็นแบบนี้นะ งานที่เราทำเราสามารถให้คำปรึกษาหรือแชร์ประสบการณ์กัน
กดดันไหม เพราะพ่อกับแม่คือควีนและคิงในสายเพลงเลย?
ทิกเกอร์ : ไม่ครับ เพราะเราอยู่กันคนในยุค เหมือนเราเป็นตัวของตัวเราเอง เราก็ทำให้เต็มที่ที่สุดในความสามารถของเรา ที่เหลือให้แฟนเพลงได้ตัดสินใจว่าจะเลือกฟังหรือว่าอะไร
อ่าน ข่าวบันเทิงวันนี้ ที่เกี่ยวข้อง :