[US Box Office] ประกาศศักดา "Chainsaw Man The Movie" ผงาดยึดบัลลังก์แชมป์ในอเมริกา
Box Office Chainsaw Man The Movie: Reze Arc
บ็อกซ์ออฟฟิศอเมริกา รายงานอันดับหนังทำเงินประจำสุดสัปดาห์วันที่ 24-26 ตุลาคม 2025 - แล้วเราก็ได้เห็นชัยชนะที่สดใสของวงการอนิเมะในตลาดโลกต่อเนื่อง ต้องบอกเลยว่าปี 2025 เป็นช่วงเวลาเรืองรองของโปรแกรมหนังอนิเมะจริง ๆ เพราะกลายเป็นว่าการแตกยอดความสำเร็จจากฉบับมังงะและซีรีส์มาเป็นฉบับเดอะมูฟวี่ สามารถตีโจทย์ได้แตกในหมู่แฟน ๆ ของจริง และบัดนี้ชาวอเมริกันก็ได้อ้าแขนต้อนรับ "Chainsaw Man The Movie: Reze Arc" เวอร์ชันมูฟวี่ของอนิเมะซีรีส์เรื่องดังในยุคนี้ หลังจากที่โกยเงินทำกระแสจากฝั่งเอเชียไปได้อย่างน่าประทับใจไปแล้วเมื่อเดือนก่อน
อนิเมะครองแชมป์ในอเมริกาได้อีกครั้ง Chainsaw Man The Movie: Reze Arc ผงาดเปิดตัวอันดับที่ 1 กับรายได้ 3 วันที่น่าประทับใจถึง 17.25 ล้านเหรียญ จาก 3,003 โรงฉายทั่วอเมริกา คิดเป็นรายได้เฉลี่ยประมาณ 5,700 เหรียญ นับว่าเป็นชัยชนะที่ใสสะอาดอีกครั้ง พร้อมกับทำให้ค่ายโซนี่ยิ้มออกได้อีกหน เพราะการจับมือร่วมกับค่าย Crunchyroll ในการจัดจำหน่ายในอเมริกา เพราะในปีนี้โซนี่ยังไม่มีหนังไลฟ์แอคชันที่ทำเงินได้ฮิตเป็นของตัวเองได้เลยสักเรื่องเดียว
Chainsaw Man กลายเป็นความสำเร็จต่อเนื่องในหมวดอนิเมะ หลังจากที่เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา "Demon Slayer: Kimetsu no Yaiba Infinity Castle" ก็ได้สร้างปรากฏการณ์เปิดตัวในอเมริกาได้รุนแรงระดับ 70 ล้านเหรียญมาได้แล้ว นี่จึงเป็นการตอกย้ำได้ชัด ๆ ว่ากลุ่มผู้ชมยังประทับใจหนังการ์ตูนไม่เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะกลุ่มเจน Z ที่จากการสำรวจล่าสุดที่เพิ่งเปิดเผยออกมา ก็พบว่าผู้ชมช่วยวัยนี้ต้องการดูหนังการ์ตูนและแอนิเมชันในวงการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่แชมป์เก่า "Black Phone 2" ดร็อปลงไป -52% ในสัปดาห์ที่ 2 ของการฉาย ที่ถือว่าตัวเลขที่ลดลงไปไม่รุนแรงอย่างที่หลายฝ่ายคาดเอาไว้ หนังทำเงินไปเพิ่มอีก 13 ล้านเหรียญ กับยอดรวมรายได้ 10 วันแรก เฉียด ๆ แตะ 50 ล้านเหรียญแล้ว ก็ต้องนับว่านี่คือหนังสยองขวัญที่กลับมากู้สถานการณ์ให้กับค่ายบลัมเฮาส์ หลังจากที่ค่ายนี้ปล่อยผลงานพลาดเป้าต่อเนื่องมาเป็นปี ๆ และดูทรงจะสามารถกระตุ้นยอดได้อีกหนในช่วงสัปดาห์วันฮาโลวีนนี้ได้อีกด้วย
ที่เปิดตัวมาในอันดับที่ 3 ก็คือหนังน้ำเน่าจากนิยายขายดีของ คอลลีน ฮูเวอร์ (จาก It Ends With Us) "Regretting You" กลายเป็นหนังที่มากอบกู้ศักดิ์ศรีของหนังโรแมนซ์บนบ็อกซ์ออฟฟิศได้อีกครั้งในรอบปี เพราะทำเงินเปิดตัวไปได้ที่ 12.85 ล้านเหรียญ จาก 3,393 โรงฉาย คิดเป็นรายได้เฉลี่ยต่อโรงเกือบ ๆ 3,800 เหรียญ แม้ว่าหนังจะโดนนักวิจารณ์สับเละเทะตามสไตล์หนังกลิ่นอายละครก่อนข่าว แต่สะท้อนให้เห็นว่าผู้ชมยุคปัจจุบันยังคงต้องการคอนเทนท์เลียน ๆ แบบนี้อยู่ ชนิดที่นานทีมีหนก็ยังดี โดยหนังยังทำเงินเปิดตัวนอกอเมริกาได้อีก 10 ล้านเหรียญด้วย
แต่ที่น่ากุมขมับก็คงจะเป็น "Springsteen: Deliver Me From Nowhere" หนังดรามาตำนานเพลง บรูซ สปริงทีน ที่กลายเป็นการออกสตาร์ทแบบที่น้อยกว่าหลาย ๆ ฝ่ายคาดการณ์เอาไว้ กับรายได้ 3 วันแรกที่ 9.1 ล้านเหรียญ จาก 3,460 โรงฉาย คิดเป็นรายได้เฉลี่ยต่อโรงแค่ 2,600 เหรียญเท่านั้น เป็นตัวเลขที่ค่อนข้างน่าผิดหวัง และยังตอกย้ำอีกครั้งว่าหนังสายรางวัลปีนี้ที่ประเดิมเปิดตัวฉายแบบวงกว้าง ยังเผชิญหน้ากับผลลัพธ์ที่คอหนังไม่ได้ต้อนรับที่ดีสักเท่าไหร่นัก
Springsteen: Deliver Me From Nowhere เปิดตัวนอกอเมริกาไปได้แค่เพียง 7 ล้านเหรียญเท่านั้น นั่นทำให้ตอนนี้หนังเก็บรายได้ทั่วโลกไปได้แค่ 16 ล้านเหรียญ จากทุนสร้างราว ๆ 55 ล้านเหรียญ ถึงจะได้นักแสดงหนุ่ม เจเรมี อัลเลน มาสวมบทบาทตำนานเพลงเรียกแฟน ๆ แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร กับส่วนหนึ่งคงจะเป็นเพราะว่าตัวหนังก็ไม่ได้มีกระแสคำวิจารณ์ที่ดีเลิศมากนัก อยู่ในระดับกลาง ๆ จากคะแนนเฉลี่ยที่ 61% บนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes
ทางด้าน "Tron: Ares" ไม่น่าจะเข็นขึ้นได้แล้ว วีคนี้ทำเงินลดลงไปอีก -56% เก็บเพิ่มไป 4.9 ล้านเหรียญ กระแสเริ่มจาง ๆ กับยอดรวมที่แตะอยู่ 63 ล้านเหรียญ โดยยังห่างจากทุนสร้าง 180 ล้านอยู่พอสมควร เช่นเดียวกับหนังตลก "Good Fortune" ที่เรียกแขกไม่ได้เลย ทั้งที่คำวิจารณ์ดี ทีมดาราชั้นเลิศ เข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 ทำเงินไปอีกแค่ 3.1 ล้านเหรียญ ลดลงไปอีกครึ่ง กับรายได้รวมในบ้าน 10 วันแรกที่ยังแตะไม่ถึง 12 ล้านเหรียญเลย
เปิดตัวใหม่อีกเรื่องอยู่ท้ายตารางก็คือ "Shelby Oaks" แทรกตัวเข้ามาอยู่ในอันดับที่ 7 รายได้เปิดตัว 3 วันแรกที่ 2.35 ล้านเหรียญ จาก 1,823 โรงฉาย นี่คือหนังสยองขวัญนอกกระแสจากค่าย Neon ที่ไม่สามารถสร้างกระแสปากต่อปากจากผู้ชมได้เท่าไหร่ จึงทำให้ตัวเลขออกมาค่อยข้างเฉย ๆ ไปถึงธรรมดาสักนิด เพราะรีวิวของหนังเรื่องนี้ก็จัดได้ว่าอยู่แค่ระดับกลาง ๆ เท่านั้นเอง
และที่เปิดตัวแบบวงจำกัดแค่เพียง 17 โรงฉายทั่วอเมริกา ก็คือผลงานใหม่ที่เป็นการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งของ เอ็มมา สโตน และผู้กำกับ ยอร์กอส แลนธิมอส ใน "Bugonia" ออกสตาร์ทกับรายได้ 690,000 เหรียญ ที่ถือว่าดีพอใช้ได้ เพราะโกยรายได้เฉลี่ยต่อโรงมาสูงถึง 40,500 เหรียญ ผู้ชมค่อนข้างแน่นโรงพอสมควร หนังที่รีเมคมาจากหนังคัลท์จากเกาหลีเรื่องนี้ เป็นหนึ่งในหนังหวังรางวัลในปีนี้ ที่นักวิจารณ์เทคะแนนให้ถึง 90% พร้อมกลับมีแผนจะเปิดตัวฉายวงกว้างอย่างเป็นทางการในสัปดาห์วันฮาโลวีน
โดยที่สัปดาห์หน้าเป็นคิวของวันฮาโลวีน ปีนี้อาจจะไม่ได้มีโปรแกรมหนังสายสยองฉายแบบตรง ๆ นัก เพราะนอกจาก Bugonia จะได้ฤกษ์ฉายเป็นวงกว้างทั่วอเมริกาแล้ว ยังมี "Back to the Future" หนังคลาสสิกจากยุค 80s หวนกลับมาฉายในโรงอีกครั้ง โดยที่มีหนังระทึกขวัญกลิ่นอายการเมือง "Anniversary" มาเป็นตัวเลือกให้คนดู ที่จะเข้าฉายก่อนตั้งแต่วันพุธ ร่วมด้วยแอนิเมชันสยองสุดหรรษา "Stitch Head" มาสมทบเข้าฉายใหม่ด้วย
Source: TheNumbers
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- [US Box Office] ฮัลโหลความสยอง "Black Phone 2" กอบกู้หน้าให้บ้านบลัมเฮาส์ในรอบปี
- [US Box Office] สยายปีกครบไตรภาค "Tron: Ares" ออกสตาร์ทกับตัวเลขชวน..อืมมม
- [US Box Office] เทย์เลอร์ขอขึ้นแชมป์ "Party of a Showgirl" โกยเงินเจิดจ้าในอเมริกา
- [US Box Office] ส่งท้ายกันยา "One Battle After Another" โฉบเข้ามาปฏิวัติอันดับหนังทำเงิน
- TrueID BoxOffice 5 หนัง 5 ซีรีส์ออนไลน์ฮิตจากแอป TrueID
-------------------------------------
>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa