บทละครโทรทัศน์ รากนครา ตอน 9
กลางคืน เรือนพักมิ่งหล้า ผ้านุ่งและเสื้อ ถูกหยิบออกมาจากหีบไม้ เพื่อจับสีกัน ถัดไปคือเครื่องประดับ ที่ถูกหยิบมาวางเรียงรายให้เลือก มิ่งหล้ากวาดสายตามองเสื้อผ้า อย่างไม้ค่อยพอใจนัก
“ไม่ใช่ เสื้อตัวนั้น ต้องเอามาใส่กับผ้าซิ่นผืนนี้”
บริวารจัดคู่กันวุ่นวายอลม่าน ข่ายคำเข้ามาและงงงันกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“นี่ทำอะไรกัน..วุ่นวายไปหมด”
“เจ้ามิ่งหล้าให้เอาผ้ากับเสื้อมาจัดสีเจ้า..เจ้านาง”
“ค่ำมึดดึกดื่นอย่างนี้นี่นะ”
“พรุ่งนี้ลูกจะเข้าวังแต่เช้า”
“จะเข้าไปอีกแล้วรึ”
“วันนี้ราชินีเมืองมัณฑ์เสด็จออกมาให้ลูกได้เห็น ลูกแน่ใจว่าซักวันกษัตริย์เมืองมัณฑ์ ก็ต้องเสด็จออกมาเหมือนกัน ก็ไม่แน่วันพรุ่ง โชคดีอาจจะเป็นของลูกก็ได้”
“ยังไงก็ต้องระวังตัวให้มาก ที่นี่ไม่ใช่เชียงเงินบ้านเมืองของเรา”
“เจ้าแม่...โอกาสเป็นของผู้ที่ไขว่คว้าหามันเสมอ” ข่ายคำรับรู้ได้ถึงความมุ่งมั่น เด็ดเดี่ยวของมิ่งหล้า
มิ่งหล้าชี้ไปที่เสื้อผ้าซิ่น ชุดหนึ่งที่จับแมชกันเอาไว้ อย่างมั่นใจ “วันพรุ่ง ข้าจะใส่ชุดนั้น”
คุ้มเจ้าน้อยศุขวงศ์ ศุขวงศ์ เปิดประตูเข้ามาในห้องนอน แม้นเมืองยังนั่งสงบนิ่งอยู่มุมนึง
“ดึกแล้ว ทำไมน้องยังไม่นอนแม้นเมือง”
“ท่านยังไม่นอน แล้วข้าเจ้าจะนอนได้อย่างไร
“เจ้าอย่าเคร่งครัดกับธรรมเนียมจนเกินไปนักเลย พี่ยังมีงานที่ต้องสะสางอีกมาก หากเจ้าง่วงแล้วก็อย่าได้ผืนใจตัวเองเลย เข้านอนเสียเถอะ” ศุขวงศ์หยิบผ้าห่มคลุมไหล่จากมุมนึง แล้วเดินมาคลี่ผ้าผืนนั้นขึ้นคลุมไหล่ห่มให้แม้นเมือง แม้นเมืองรู้สึกได้ถึง ความอ่อนโยน และความห่วงใยจากศุขวงศ์
“ยิ่งดึกอากาศจะยิ่งเย็น ห่มผ้าเอาไว้ให้อุ่นด้วยนะ”
ศุขวงศ์ผละออกไปหยิบเอกสารบางอย่าง จากโต๊ะข้างเตียง และจะเดินกลับออกไป
“ที่เมืองมัณฑ์ ก็คงจะหนาวเย็นอย่างนี้เหมือนกันใช่ไหมเจ้า”
ศุขวงศ์ชะงัก เหมือนกันเพราะคิดว่าใจแม้นเมืองคงอยู่ที่เมืองมัณฑ์
“ก็คงอย่างนั้นคงจะหนาวเย็นไม่แพ้กันหรอก”