บทละครโทรทัศน์ รากนครา ตอน 13 หน้า 3
เรือนศุขวงศ์ คำแก้วเม้ากับขียนจันทร์
“ข้าเจ้าไม่เข้าใจ..เจ้าแม้นเมืองของเรา ทำอะไร เปิ้นก็จะต้องขอทำให้ได้เหมือนกัน เปิ้นจะเลียนแบบเจ้าแม้นเมืองไปทุกเรื่อง ทำไมกัน”
“เปิ้นก็คงบ่อยากน้อยหน้าในสายตาเจ้าศุขวงศ์”
“นี่มันเข้าขั้นหน้าไม่มียางอายแล้วนะน้าเขียนจันทร์”
เขียนจันทร์หยิกหมับ “ใครสอนเอ็งให้พูดอย่างนี้”
“โอย อูย..ไม่มีใครสอนเจ้า”
“อย่าพูดอย่างนี้อีก”
“ก็มันเหลืออดเหลือทน”
“จะพูดอะไรออกมา คิดถึงเจ้าถึงนายบ้าง ใครได้ยินเข้าจะตำหนิไปถึงพ่อแม่ ไปถึงเจ้านายเอ็ง ว่าไม่อบรมสั่งสอน”
“เจ้า..ก็คุยกันอยู่แค่น้าเขียนจันทร์กับข้าเจ้านี่แหละ บ่ให้คนอื่นได้ยินหรอก” เขียนจันทร์ถอนใจ
“เปิ้นถึงขนาดขอแบ่งเชียงเงินสี่วัน เชียงพระคำสามวันนี่มันก็น่าเกลียดมากพอแล้ว ไม่ รู้ว่าวันข้างหน้าจะขออะไรอีก”
“เอ็งรู้เรอะคำแก้วว่าขอแบ่งสามวัน สี่วัน มันหมายถึงอะไร”
“แหม น้าเขียนจันทร์ ข้าเจ้าบ่ใช่ละอ่อนแล้วเน้อ” เขียนจันทร์หมั่นใส้ไม่น้อย หยิกคำแก้วเข้าให้อีกชุด
“โอย อูย..เราจะอยู่กันเฉยๆทำไม่ รู้ไม่เห็น ไม่ได้หรอกนะน้าเขียนจันทร์ ยังไงก็ต้องคิดหาทางช่วยให้เจ้าแม้นเมืองของเราสบายใจขึ้นบ้าง”
อีกมุม คุ้มเจ้าศุขวงศ์ แม้นเมืองนั่งพับผ้าใจลอย เขียนจันทร์คลานเข้ามาหา
“เจ้าแม้นเมืองเจ้า ผ้านั่นทิ้งไว้เถอะ ประเดียวข้าเจ้าจะพับเก็บให้เอง”
“ไม่เป็นไรหรอกเขียนจันทร์ เขียนจันทร์กับคำแก้วก็งานล้นมือกันอยู่แล้ว เราอยู่ว่างๆให้เราทำตัวให้เป็นประโยชน์เถอะ”
“ข้าเจ้ารู้ ว่า เจ้าต้องหวานอมขมกลืนขนาดไหน มีอะไรที่ข้าเจ้าจะช่วยแบ่งเบาความทุกข์ของเจ้าได้ เจ้าบอกเขียนจันทร์มาเกิด”
แม้นเมืองผืนยิ้ม “ขอบใจนะเขียนจันทร์ เรารู้ว่าเขียนจันทร์เป็นห่วงเรา แต่สักวันเรื่องแบบนี้มันก็จะผ่านไปเอง เราทำให้เกิดปัญหา ทั้งๆที่รู้ว่าจะต้องเผชิญปัญหา เราก็ต้องทำใจยอมรับมันให้ได้น่ะแหละเขียนจันทร์.. ยังมีงานในหน้าที่ที่ต้องทำอีกมากเรื่องแค่นี้เป็นเรื่องเล็กน้อย”