บทละครโทรทัศน์ ศรีอโยธยา ตอนที่ 9 หน้า 5

คุณท้าวเอาไม้เท้าขว้างเฉียดพระกำนัลนารีสังข์ไป
กำนัลนารีสังข์ : ว้าย
พระกำนัลนารีสังข์รีบวิ่งขึ้นตำหนักไป
พระกำนัลนารีสังข์คลานเข้ามาถวายบังคมในท้องพระโรง พระพันวัสสาประทับอยู่บนพระที่ในขณะที่ทรงร้อยมาลัย ทางด้านซ้ายของพระองค์คือ เจ้าจอมราตรี กรมหมื่นพิมลภักดี และเจ้าฟ้ารุจจาราวี ซึ่งทรงร้อยมาลัยอยู่เช่นกัน บุษบาและเหล่านางข้าหลวงที่เฝ้าแหนต่างก็ร้อยมาลัยเพื่อนำไปถวายพระ
พระกำนัลนารีสังข์ : พระอาญาไมพ้นเกล้า พระเจ้าอลองพญาเสด็จถึงริมฝั่งเจ้าพระยาหน้าประตูชัยแล้วเพคะ
สมเด็จพระพันวัสสา : ข้าขอสั่งให้เจ้าจงข้ามฟากไปเอามาลัยจากข้าไปรับเสด็จพระองค์ท่าน แช่ม....
ข้าหลวง : เพคะ....
สมเด็จพระพันวัสสา : เจ้าจงมารับมาลัยจากข้า ส่งให้พระกำนัลนารีสังข์ไปถวายพระเจ้าอลองพญา และ แถมให้อีกพวงไปถวายเจ้าฟ้ามังระอีกพระองค์ด้วย
ข้าหลวง : เพคะ
กำนัลนารีสังข์ : พระอาญาไม่พ้นเกล้า ถ้าหม่อมฉันนำพวงมาลัยไปรับเสด็จทั้งสองพระองค์ที่ฟากข้างโน้นตามพระราชบัญชา หม่อมฉันคงจะกลับมาเข้าเฝ้าแต่ตัว ส่วนหัวของหม่อมฉันคงจะถูกพระเจ้าอลองพญาทรงตัดเสียบประจานอยู่ที่หน้าหัวรอ เป็นแน่แท้ทีเดียวเชียวเพคะ
สมเด็จพระพันวัสสา : เจ้ากลัวตายเป็นเหมือนกันเหรอ.....นังสังข์
กำนัลนารีสังข์ : พระอาญาไม่พ้นเกล้า ไม่มีใครในโลกไม่กลัวตายเพคะ
สมเด็จพระพันวัสสา : งั้นข้าคงคิดผิดไปที่เห็นเจ้าเที่ยวเอาเรื่องศึกสงครามมาพูดเล่นสนุกปากสนุกคอราวกับเป็นเรื่องรื่นเริงบันเทิงใจ ข้าก็เลยคิดไปว่า จะส่งเจ้าไปรับเสด็จองค์พระเจ้าอลองพญาที่ฟากโน้น เผื่อพระองค์ท่านเห็นว่าชาวกรุงศรีช่างมีจิตใจอาจหาญไม่รักตัวกลัวตายเช่นเจ้า จะทรงล้มเลิกที่จะทำสงครามด้วยแล้วก็ยกทัพกลับกรุงอังวะไปเสียก็ได้
กำนัลนารีสังข์ : ถ้าพระเจ้าอลองพญาคิดเช่นนั้นจริง หม่อมฉันก็คงจะปฎิบัติตามราชบัญชาเพคะ แต่เกรงว่าหม่อมฉันยังไปไม่ถึงครึ่งฟากก็จะต้องลูกธนูของพลทหารศัตรู ดับชีพแดดิ้นเป็นศพลอยอยู่กลางน้ำ ยังไม่ได้ถวายพระมาลัยจากองค์สมเด็จพระพันวัสสาเลยนะเพคะ
สมเด็จพระพันวัสสา : งั้นทีหน้าทีหลังเจ้าก็อย่าได้คะนองปากคะนองคอ เอาเรื่องคอขาดบาดตายมาพูดพล่อยๆ อีกต่อไป อันตรายจะเข้าตัว
กำนัลนารีสังข์น้ำตาไหล : เพคะ
สมเด็จพระพันวัสสา : นี่ก็ใกล้เวลาที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จลงทอดพระเนตรโขนที่สวน