บทละครโทรทัศน์ ศรีอโยธยา ตอนที่ 20 (อวสาน ภาค1) หน้า 2
เจ้าพระยาพิชัย : ไหนๆ ก็สู้อุตส่าห์มาถึงที่นี่แล้ว ก็อยู่รับสำรับอาหารค่ำเสียด้วยกันเสียนะ ค่าที่รู้จักมักจี่กันร่วม 20 ปี แต่ไม่เคยมาเรือนนี้เลย อย่าปฏิเสธนะ ถ้าองค์สมเด็จกรมพระราชวังบวรฯจะกริ้ว ก็คงจะกริ้วว่าไม่กราบบังคมทูลเขิญท่านเสด็จมาเสวยด้วยอีกองค์
พิมาน : ขอรับท่านอาจารย์
เจ้าพระยาพิชัย : นี่แม่ศรีลงไปสั่งบ่าว ให้เตรียมสำรับสำหรับคุณพระท่านด้วยนะ แล้วเจ้าก็ไปอาบน้ำอาบท่าซะ ทองหยิบ...จะได้มาร่วมสำรับกับคุณพระท่าน
คุณทองหยิบ : เจ้าค่ะ...เจ้าคุณปู่เจ้าขา
ทั้งคู่กราบแล้วคลานออกไป
พิมาน : กระผมขอกราบขอบพระคุณ คุณหลวง ที่ถวายการอารักขาองค์สมเด็จกรมพระราชวังบวรได้อย่างแข็งขันในคืนนั้น แต่เสียดายคนร้ายฆ่าตัวตายหมด ทำให้ไม่ทราบถึงเบาะแสผู้ก่อการในครั้งนี้ คุณหลวงพอจะเดาได้ไหมขอรับว่า...ใครกันคือผู้บงการ
หลวงไกร : ก็ต้องเป็นผู้มีหู มีตา ในราชสำนักนั่นแหละคุณพระ
พิมาน : ใครกันจะหาญกล้าขนาดนี้
เจ้าพระยาพิชัยรีบพูดตัดบท
เจ้าพระยาพิชัย : เออนี่คุณพระ คุณพระคงยังไม่ทราบว่า สายของเราจากพม่ารายงานมาว่า องค์พระเจ้ามังรอกกำลังทรงพระชวรหนัก ฉันหวั่นใจเหลือเกิน...
หลวงไกร : เพราะว่าถ้าหากพระเจ้ามังรอกทรงสวรรคต เจ้าฟ้ามังระที่เป็นพระอนุชา ต้องเสด็จขึ้นครองราชย์สมบัติ
เจ้าพระยาพิชัย : พระเจ้ามังรอกเท่าที่ฉันได้ยินมานั้น ทรงมีพระราชหฤทัยไม่ต่างไปจากองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอุทุมพรเลย ทรงใฝ่ในศีลในธรรม ไม่โปรดที่จะทำสงครามกับชาติใดทั้งนั้น..ผิดกับพระอนุชาหน้ามือเป็นหลังมือ
หลวงไกร : และยิ่งเจ้าฟ้ามังระ ทรงทอดพระเนตรเห็นพระราชบิดาสิ้นพระชนม์ด้วยพระองค์เองที่กรุงศรีด้วยแล้ว...ลูกคิดว่าพระทัยท่านคงมีแต่ความเคียดแค้น
เจ้าพระยาพิชัย : ใช่ ไกร...พ่อหวั่นเหลือเกิน ขอให้อย่าทรงเป็นอะไรเลย...
พิมานฯ : ขอให้ทรงพระเจริญยิ่งยืนนานเถิด องค์พระเจ้ามังรอก
ห้องพระบรรทม พระเจ้ามังรอกบรรทมอยู่บนพระแท่น โดยมีเจ้าฟ้ามังระประทับนั่งอยู่เคียงพระองค์สมเด็จพระเชษฐาธิราช มหานรธา และขุนนางอยู่รายรอบพระแท่นบรรทม มีแพทย์หลวง หมอบอยู่หน้าพระแท่น