บทละครโทรทัศน์ เพียงชายคนนี้ไม่ใช่ผู้วิเศษ ตอนที่ 13 หน้า 3
โสมมิกาเห็นสองคนกอดกันกลมขนาดนั้นก็ทนดูไม่ได้ หญิงสาวเจ็บใจมาก “หลงกันเข้าไป เก็บกดมาจากไหน อั้นไว้ไปต่อกันที่บ้านย่ะ ได้สามีพาร์ทไทม์ทำมาหยาม เธอกินเขาไม่ได้ทั้งชาติหรอก” โสมมิกาเดินสะบัดหน้าออกไป
พอโสมมิกาไปแล้ว ศตวรรษกับอนุศนิยาก็พากันถอนหายใจ พอรู้ตัวว่ากำลังกอดกันอยู่ก็รีบผลักอีกฝ่ายออกไป
“ทำไมฉันต้องมารับรู้อดีตเน่าๆ ของนายด้วยเนี่ย“ อนุศนิยารีบออกจากห้องลองไปด้วยความหงุดหงิด
พนักงานเดินออกมามองหน้าศตวรรษยิ้มๆ ศตวรรษอับอายมาก ได้แต่หลบออกจากร้านมาเงียบๆ
อนุศนิยาเดินหงุดหงิดมาที่ลานจอดรถอย่างหัวเสีย ศตวรรษรีบถือของตามมา อนุศนิยาข้ามถนนแต่ไม่ทันดูรถที่ขับมา
“ระวังคุณ...” รถกำลังจะเฉี่ยวอนุศนิยา แต่ศตวรรษไปคว้าตัวมาไว้ได้ ตัวของอนุศนิยาเหวี่ยงหลบรถเข้ามาทัน แต่ทำให้กระเป๋าถือของอนุศนิยาหลุดร่วงลงพื้น “เกือบไปแล้วเห็นมะ”
อนุศนิยาใจหาย ไม่ทันดูว่ากระเป๋าถือตกคว่ำอยู่ที่พื้น ศตวรรษก้มไปเก็บให้แล้วเห็นกระเป๋าสตางค์ของอนุศนิยาหล่นออกมา อนุศนิยาตกใจที่โดนจับได้ว่าไม่ได้ลืมกระเป๋าสตางค์จริงๆ
ศตวรรษหยิบกระเป๋าสตางค์ขึ้นมาถาม “ไหนว่าลืมเอามาไง” เขาเปิดออกดูเห็นเครดิตการ์ดเสียบอยู่พรึ่บหลายใบ “แล้วนี่อะไร?”
อนุศนิยาหาทางแถ “สามีภรรยาใช้กระเป๋าใบเดียวกัน มันแปลกตรงไหน?”
“ที่คุณมาที่นี่ ใช้เงินขนาดนี้ คุณตั้งใจปล้นผมใช่มั้ย?”
“จ่ายแค่นี้ ทำเป็นจะตาย หัดลงทุนซะบ้าง อย่าเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว”
อนุศนิยาเห็นศตวรรษเริ่มโกรธก็รีบเดินไปที่รถ ศตวรรษพยายามข่มอารมณ์เต็มที่ เขาไม่รู้เลยว่าอนุศนิยาตั้งใจป่วนเขาไปเพื่ออะไร สายตาของศตวรรษตวัดไปเห็นอะไรบางอย่างที่อนุศนิยาลืมตกไว้ที่พื้นอีก เขายิ่งหงุดหงิดยกกำลังสอง
ศตวรรษกลับมาหัวเสียต่อที่บ้าน ศตวรรษนั่งกดเครื่องคิดเลขดูหน้าหงิก จนกดเสร็จ “เอ้านี่!” เขายื่นเครื่งคิดเลขที่บวกเลขเสร็จให้อนุศนิยาดู “นี่คือยอดที่ผมรูดไปทั้งหมดวันนี้ อยากเขี้ยวกับผมนัก ผมก็จะเขี้ยวกับคุณให้หนักเลย”
ศตวรรษหันไปเซ็นเช็คยุกยิก แล้วดึงเช็คออกมาให้ “ยอดผ่อนหนี้เดือนนี้หักลบกับที่คุณมาปล้นผมไปวันนี้”
อนุศนิยาเจ็บใจที่ศตวรรษทำมาเขี้ยวกับเธอบ้าง เธอเห็นยอดเงินในเช็คที่เหลือไม่ถึงล้านก็ตกใจมาก “อย่ามามั่วนะ หายไปไหนเป็นล้าน”
“ก็หักค่าไอ้นี่ไง” ศตวรรษหยิบแหวนแต่งงานที่อนุศนิยาทำตกไว้ที่ลานจอดรถขึ้นมา
อนุศนิยาตกใจมากเพราะไม่รู้ตัวเลยว่าทำหายไป รีบคว้าคืนมา “ไปเอามาจากไหนน่ะ”