บทละครโทรทัศน์ ซีรี่ส์เลือดมังกร หงส์ ตอนที่ 12 หน้า 3
“อย่าลืมสิ เจ้หงส์ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับวงการนักเลงเลยด้วยซ้ำ จะรู้สายสนกลในภายในแก๊งหงส์ดำดีเท่าเถ้าแก่เต็กได้ยังไง”
“อยู่ๆไป เดี๋ยวเจ้หงส์ก็รู้เองนั่นแหละ”
“คิดตื้นๆ ถ้ามันง่ายอย่างนั้น อั๊ว...ลื้อ...อาหวัง...ใครๆก็เป็นหัวหน้าแก๊งกันได้น่ะสิ”
“โอ๊ยยยย... ต่อให้เอาตำแหน่งหัวหน้าแก๊งมาประเคนให้ หมวยไม่เอาด้วยหรอก ร้องงิ้วสนุกกว่าตั้งเยอะ…” หมวยพูดจบก็ร้องเพลงงิ้วเสียงแหลมปรี๊ด กุ่ยเอามืออุดหู เดินหนีด้วยความรำคาญ
หลงเดินผ่านหน้าห้องทำงานเถ้าแก่สุง เห็นแสงไฟในทำงาน จึงเข้าไปดู หงส์ยังคงนั่งอ่านกฎระเบียบข้อบังคับต่างๆของแก๊งหงส์ดำ รวมทั้งรายชื่อสมาชิกอาวุโสในแก๊งยาวเหยียด
“พรุ่งนี้ต้องเตรียมตัวเข้าร่วมพิธีตั้งแต่เช้า นายน้อยควรเข้านอนได้แล้ว”
“ฉันยังอ่านกฎข้อบังคับต่างๆในแก๊งหงส์ดำยังไม่จบน่ะ เหลืออีกตั้งร้อยกว่าข้อ”
“แก๊งหงส์ดำขึ้นชื่อว่ามีกฎระเบียบเคร่งครัดที่สุดในสมาคมเลือดมังกร คงไม่ง่ายที่จะทำความเข้าใจได้หมดทุกข้อในคืนเดียว”
“ฉันจะขึ้นเป็นหัวหน้าแก๊งวันพรุ่งนี้โดยไม่รู้กฎต่างๆภายในแก๊งหงส์ดำได้ยังไง”
“กฎทุกกฎบนโลกนี้ล้วนกำหนดขึ้นเพื่อควบคุมคนให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติ นายน้อยไม่จำเป็นต้องจำกฎได้หมดทุกข้อ แค่อาศัยสัญชาตญาณ แล้วทำตามอุดมการณ์ของเถ้าแก่สุงเท่านั้น”
“ฉันไม่คิดว่าสมาชิกอาวุโสในแก๊งหงส์ดำจะยอมรับฉันง่ายๆ โดยเฉพาะอาเจ็กเต็ก นายก็รู้ มันเป็นเรื่องใหญ่แค่ไหนที่ผู้หญิงจะขึ้นมาเป็นใหญ่ในวงการนักเลง”
“แต่ผู้หญิงหลายคนในประวัติศาสตร์จีนเคยกุมบังเหียนการเมืองไว้ได้”
“นายกำลังยุให้ฉันทำในสิ่งที่ฉันไม่เคยทำมาก่อน”
“ไม่ใช่ยุ แต่ผมชี้ให้เห็นถึงสิทธิที่นายน้อยควรมีและควรเป็นต่างหาก”
“อำนาจบารมีไม่สามารถถ่ายทอดได้ทางสายเลือด ถึงฉันจะเป็นลูกอาป๊า แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะต้องยอมก้มหัวให้ฉันเหมือนที่เคยก้มหัวให้อาป๊า”
“นั่นคือสิ่งที่นายน้อยจะต้องทำให้ได้”
“ทำไมต้องเป็นฉัน”
“เพราะนายน้อยเป็นความความหวังสุดท้ายของเถ้าแก่สุง”
หงส์มองไปยังกรอบรูปของสุงที่อยู่บนหิ้งบูชา... ใจสู้ขึ้นมาอีกครั้ง