บทละครโทรทัศน์ รากบุญ 2 (รอยรักแรงมาร) ตอนที่ 25 (ตอนจบ) หน้า 3
กสิณยิ้มพอใจ “ตอนนี้เธอเป็นเจ้าของกล่องแล้ว เพียงแค่เธอเอ่ยปาก กล่องรากบุญใบใหม่ก็จะถือกำเนิดขึ้นทันที”
อยุทธ์จ้องเขม็งไปที่เหรียญทั้งสาม “ด้วยอำนาจแห่งเหรียญทั้งสาม...” เหรียญทั้งสามก็ลอยแยกกัน เรียงเป็นรูปสามเหลี่ยมอยู่กลางอากาศ “ฉันขอสร้างกล่องรากบุญขึ้นมาใหม่เดี๋ยวนี้”
ขาดคำสีดำที่อยู่ในเหรียญแต่ละอันก็กลายเป็นควันดำลอยออกมาจากเหรียญ จนเหรียญทั้งสามกลายเป็นสีขาวบริสุทธิ์ ควันดำลอยมารวมกันที่กึ่งกลางของสามเหลี่ยม ก่อนจะผสมรวมกันแล้วขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดก็กลายเป็น “กล่องรากบุญ” ขึ้นมาใหม่โดยมีรูปร่างลวดลาย เหมือนกล่องใบเก่าทุกอย่าง
เจติยาและลาภิณ ตกตะลึงที่ได้เห็นกล่องรากบุญอีกครั้ง ในขณะที่พิมพ์อรดีใจที่เห็นกล่องรากบุญ จนลืมไปว่าตนไม่ใช่เจ้าของกล่อง ทันใดนั้นก็มีไฟสีดำสนิทลุกโชนขึ้นรอบตัวกสิณ กสิณสัมผัสได้ถึงพลังอำนาจที่เพิ่มขึ้นอย่างเปี่ยมล้น ด้วยพลังของกล่องรากบุญที่สร้างขึ้นมาใหม่
ในขณะที่กสิณกำลังดีใจกับพลังเต็มเปี่ยม แต่ทันใดนั้นก็สัมผัสได้ถึงอันตรายบางอย่างร้องตะโกนห้าม“อย่านะอยุทธ์!”
อยุทธ์พูดต่อ “และฉันขอพร ให้ทำลายกล่องรากบุญลงเดี๋ยวนี้”
ขาดคำ กล่องรากบุญใบใหม่ก็สลายไปทันที
พิมพ์อรมองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยความตกใจสุดขีด “อยุทธ์” สีหน้าหญิงสาวเจ็บช้ำ โกรธจนตัวสั่น
ไฟสีดำรอบตัวกสิณ กลายเป็นไฟสีเหลืองปกติ เผาไหม้กสิณทันที กสิณกรีดร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดถึงที่สุด หันไปมองเจติยาด้วยความแค้นสุดขีด “เจติยา!!!”
กสิณพุ่งเข้าใส่ร่างเจติยาอย่างรวดเร็ว และหายเข้าไปในร่างเจติยาทันที
ลาภิณตกใจ “เจ!!!”
กสิณในสภาพไฟลุกท่วมบีบคอเจติยา ลากลงไปสู่ก้นบึ้งของโลกวิญญาณด้วยกัน “ฉันจะฆ่าแกเจติยา ถึงฉันจะสลายไป ฉันก็จะลากวิญญาณของแกไปลงนรกกับฉัน”
เจติยาถูกบีบคอจนพูดไม่ได้ มือไม้อ่อน สิ้นเรี่ยวแรง ได้แต่ถูกกสิณลากลงสู่เบื้องล่างของโลกวิญญาณไปเรื่อยๆ แต่ทันใดนั้นเองก็มีแสงสว่างหลายดวง ลอยเข้ามาหาเจติยา แสงสว่างแต่ละดวงล้อมรอบเจติยาไว้ ทำให้กสิณไม่สามารถลากวิญญาณของเจติยาลงไปได้อีก
แสงสว่างจ้าวูบขึ้น กระแทกกสิณกระเด็นออกไป แสงสว่างแต่ละดวงลอยล้อมรอบตัวเจติยาเอาไว้ เจติยาก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น
แสงสว่างแต่ละดวงก็กลายเป็นเงารูปคน สีขาวโปร่งแสง ล้อมรอบตัวเจติยาเต็มไปหมด ก่อนที่เงาอันหนึ่งจะเด่นชัดขึ้น จนกลายร่างเป็นมยุรี
เจติยาเห็นมยุรีร้องด้วยความดีใจ “แม่”