บทละครโทรทัศน์ นาคี ตอนที่ 6 หน้า 21

ภาวนาอยู่ในถ้ำจวบจนกระทั่งครบหนึ่งพันปีจึงจักสิ้นเวร!” เสียงฟ้าผ่าเปรี้ยง ! ลงมาหลังสิ้นคำสาปสรรของท้าวศรีสุทโธนาค
คำแก้วสะดุ้งเฮือก รีบชักมือออกจากรูปปั้นเจ้าแม่นาคีทันที คำแก้วเหงื่อผุดเต็มหน้า รู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก ทรงตัวไม่อยู่ โงนเงนจนทศพลต้องเข้ามาประคองไว้
“คุณ ! คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคำแก้ว หน้าซีดเชียว”
“อยู่ๆ ฉันก็หน้ามืดเหมือนจะเป็นลมน่ะ”
“อากาศในนี้คงจะร้อน นั่งพักก่อน เดี๋ยวผมไปเอาแอมโมเนียกับผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าให้”
“ไม่ต้อง! ดึกมากแล้ว ฉันกลับบ้านก่อนดีกว่า” คำแก้วพูดจบก็ลุกพรวดพราดออกจากเถียงนาไป
คำแก้วกลับมาที่ห้อง ภาพนิมิตมายานั้นยังคงทำให้ขนลุก“ถ้ารูปปั้นนั่นถูกสาป แล้วใครกันที่เป็นคนสาป?” คำแก้วคิดถึงรูปปั้นนั้นแล้วรู้สึกตะครั่นตะครออย่างบอกไม่ถูก
ทศพลเข้ามาในเถียงนา เห็นอาจารย์ทัศนัยยังคงนั่งพินิจพิจารณาเทวรูปเจ้าแม่นาคีอยู่ แสงสว่างจากตะเกียงเจ้าพายุทำให้เทวรูปเจ้าแม่นาคีดูลึกลับ น่าพิศวงยิ่งขึ้น
อาจารย์ทัศนัยเงยหน้าขึ้นมา “ทศพล ! มาดูนี่สิ”
“มีอะไรเหรอครับ อาจารย์”
“ตอนแรกผมนึกว่าเทวรูปนี่เป็นเนื้อหิน แต่พอดูดีๆ แล้วไม่ใช่”
“เป็นเนื้อสำริดรมดำเหรอครับ”
“ไม่ใช่เนื้อโลหะ จะว่าเนื้อดินเผาก็ไม่ใช่อีก มันไม่เหมือนวัตถุอะไรทั้งสิ้น มันคล้ายศพอาบน้ำยาที่ขุดพบในพีระมิดของอียิปต์มากกว่า”
“ศพอาบน้ำยาที่กลายเป็นหินนะเหรอครับอาจารย์”
“ใช่ ! เพียงแค่คิด แต่ถ้าจะให้แน่ใจต้องพิสูจน์ด้วยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์เสียก่อน”
“ไม่น่าเชื่อ! ถ้าเป็นศพอาบน้ำยาจริง แล้วท่อนล่างที่เป็นงูนี่ล่ะครับ”
“ผมก็ยังงงอยู่เหมือนกัน จะว่าเป็นรอยต่อ มันก็ดูเชื่อมสนิทจนเป็นเนื้อเดียวกัน”
“บางทีถ้าเรารู้ประวัติความเป็นมาของปราสาทร้างท้ายหมู่บ้าน เราอาจเชื่อมโยงถึงปริศนาเทวรูปเจ้าแม่นาคีนี่ก็ได้”
อาจารย์ทัศนัยหยิบแผ่นจารึกที่เอามาจากเทวาลัยขึ้นมาให้ทศพลดู “หวังว่าศิลาจารึกแผ่นนี้คงจะพอบอกอะไรเราได้บ้าง”
ทศพลมองไปยังเทวรูปเจ้าแม่นาคีอย่างสงสัย