บทละครโทรทัศน์ นาคี ตอนที่ 16 หน้า 4
“ลูกมันเลี้ยงได้แต่ตัว เลี้ยงหัวใจมันไม่ได้ ฉันผิดเองที่ไม่เคยทำหน้าที่พ่อที่ดีให้ลูกมันได้ภูมิใจสักครั้ง ตำแหน่งหน้าที่การงานที่ใครๆ ต่างยกย่องสรรเสริญ ไม่ได้ช่วยให้ครอบครัวฉันมีความสุขเลยสักนิด กว่าจะรู้ว่า “ครอบครัว” สำคัญแค่ไหน มันก็สายเกินไปเสียแล้ว” สุภัทรสำนึกผิด
“คนเป็นพ่อเป็นแม่ยอมลำบากเพื่อให้ลูกได้สบายทั้งนั้นวันใดที่พ่อทศพลมีลูก เขาจะเข้าใจหัวอกของดอกเตอร์ว่าห่วงใยเขามากแค่ไหน” คำปองสงสารเอ่ยปลอบ
สุภัทรเห็นคำแก้วนั่งน้ำตาร่วงเผาะๆ “หนูคำแก้ว... อย่าเสียใจไปเลยนะ สักวันไอ้ทศพลมันหูตาสว่าง รู้ว่าอะไรเป็นเพชร อะไรเป็นกรวด มันก็จะกลับมาเอง”
“จ้ะ พ่อ ฉันจะรอวันนั้น” คำแก้วตอบเหมือนคนสิ้นหวัง
คำปองกับสุภัทรมองคำแก้วด้วยความสงสาร
สัปเหร่อคงพาเมืองอินทร์มายังป่าช้าผีดิบ “ศพที่เป็นเครื่องสังเวยเจ้าแม่นาคีจะถูกแยกมาฝังต่างหากที่ป่าช้าผีดิบนี่”
“คนตายแล้วก็เป็นผีเหมือนๆ กัน จะต้องแยกฝังให้ยุ่งยากทำไม” เมืองอินทร์สงสัย
“เป็นธรรมเนียมของหมู่บ้านดอนไม้ป่า เชื่อกันว่าคนที่ถูกงูฉกตายจะต้องกลายเป็นบริวารเจ้าแม่นาคีจนกว่าจะมีตัวตายตัวแทน... แน่ใจนะว่าคืนนี้จะพักแรมที่นี่” สัปเหร่อคงสีหน้าหวาดๆ
“ต่อให้เฮี้ยนกว่านี้ข้าก็เคยนอนมาแล้ว” เมืองอินทร์วางสัมภาระบนเชิงตะกอน ใช้เป็นที่พำนัก
“คนที่ลบหลู่ท้าทายเจ้าแม่นาคีไม่เคยตายดีสักกะคน... ยังหนุ่มยังแน่น ริจะต่อกรกับเจ้าแม่นาคี คิดดีแล้วเหรอ”
“ข้าเรียนไสยศาสตร์มาจากหลายสำนักร้อนวิชาต้องออกตะเวนไปทั่ว ทั้งผีโป่ง ผีป่า ผีตายห่า ตายโหง ข้าเคยปราบมาแล้วทั้งนั้น” เมืองอินทร์คุยโว
“แล้วพ่อหมอมาที่ดอนไม้ป่านี่ทำไม อย่าบอกนะว่า....” สัปเหร่อคงกลืนน้ำลายเอื๊อก
เมืองอินทร์ยิ้มมุมปากแทนคำตอบ สัปเหร่อคงตกใจเมื่อรู้ว่าเมืองอินทร์จะมาปราบเจ้าแม่นาคี
ภูพระนางตอนเย็น หมออ่วมเดินนำเข้ามาในถ้ำ ตามด้วยกำนันแย้ม บุญส่ง และกอที่เหนื่อยจนแทบคลาน“ถึงแล้ว ! ที่นี่แหละ !”
กอเห็นถ้ำที่เต็มไปด้วยหินงอกหินย้อย “ไหนล่ะ เหล็กไหล ข้าเห็นมีแต่หินงอกหินย้อยเต็มถ้ำไปหมด”
หมออ่วมย่อตัวลงนั่งแล้วลูบไปที่พื้นถ้ำ มีขุยผงสีดำๆ ติดมือมา ทุกคนมองอย่างสนใจ
“นั่นอะไรน่ะหมออ่วม” กำนันแย้มมองเขม็ง
“ขี้ดิบเหล็กไหล เกิดจากการเคลื่อนตัวของเหล็กไหล ยังใหม่ๆ อยู่ แสดงว่าตัวเหล็กไหลยังอยู่ในถ้ำนี่” หมออ่วมชี้แจง
“จะทำอะไรก็รีบๆ ลงมือเข้าเถอะ ในนี้มันวังเวงพิกล ข้าไม่ค่อยไว้ใจ” บุญส่งเหลียวซ้ายแลขวา