บทละครโทรทัศน์ ระเริงไฟ ตอน 15 หน้า 4
“เข้าใจครับ...แต่ผมไม่เชื่อว่า นักธุรกิจระดับคุณดิลกจะไม่มีแผนสองเผื่อเกิดเรื่องฉุกเฉิน..เศรษฐกิจผันผวนอย่างนี้ บริษัทไหนก็ต้องหาหลักประกันไว้ทั้งนั้น”
“ไม่มีหรอกค่ะ คุณพ่อตัดสินใจทุกอย่างด้วยอารมณ์ พี่ดา..พี่ดาเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด”
ทัศนะไม่เห็นด้วย แต่บอกความจริงไม่ได้
ห้องประชุม B-Star ไตรทศกับดิลกเดินมาถึงหน้าห้องประชุม
“คุณพ่อครับ ผมเรียกประชุมทุกแผนกบ่ายนี้เลยนะครับ เราต้องวางแผนการตลาดใหม่หมด เรามีเวลาแค่เดือนเดียวที่ปรับปรุงระบบจัดจำหน่าย..”
“พอๆ ไม่ต้องพูดต่อ ไม่ต้องเรียกประชุม ไม่ต้องทำอะไรเลย”
“ผมไม่ยอมปล่อยให้บริษัทเราล้มละลายขายตัวอย่างเด็ดขาด” ดิลกตบไหล่ไตรทศอย่างขำๆ
“ใจเย็นๆไอ้ลูกชาย เครียดอะไรนักหนา บริษัทมันจะล้มก็ล้มไปในเมื่อ B-Star ไม่ใช่บริษัทของเราแล้ว!”
“อะไรนะครับ” ดิลกเปิดประตูห้องประชุมแง้มออกให้ไตรทศมองเข้าไปที่มีแต่นักธุรกิจแปลกหน้า
“พ่อขายหุ้นบริษัททิ้งหมดแล้ว” ไตรทศเห็นกลุ่มนักธุรกิจ 5 คนที่นั่งอยู่กำลังเซ็นชื่อซื้อหุ้นอยู่ นักธุรกิจคนหนึ่งหันมาเห็นดิลกเลยรี่เดินเข้ามาจับมือดิลก “นี่ลูกชายผมครับ ไตรทศ” ไตรทศยกมือไหว้อย่างงงๆ
“คุณประสิทธิ์ เจ้าของดีวายสปาไง คุณประสิทธิ์ซื้อหุ้นเราไปกว่าครึ่ง นี่แหละว่าที่ประธานบริษัท B-Star ของเรา” ไตรทศจ้องดิลกราวกับไม่เคยรู้จักพ่อตัวเอง
ร้านอาหารตึก T-Mart ชาคริตนิ่งคิดยังไม่วางใจดิลกนัก ขณะที่ญาดาแอบกดมือถือบนตักเพื่อส่งข้อความคอนเฟิร์มนัดกับทัศนะ “พ่อคุณแอบมีแผนอะไรหรือเปล่า”
“คะ?” ชาคริตเริ่มจับตามองญาดาที่ไม่นิ่งนัก
“พ่อคุณเคยรักบริษัทเหลือเกิน..แลกกับชีวิตลูกก็ยังได้ จะยอมปล่อยให้บริษัทเจ๊งคามือเชียวหรือ”
“คุณพ่อไม่มีแผนอะไรแน่ ท่านไม่ใช่คนซับซ้อนอย่างคุณ ท่านไม่อยากร่วมงานกับคุณ T-Mart ก็ไม่ใช่บริษัทชอปปิ้งออนไลน์บริษัทเดียวในโลก”
“ไม่ใช่บริษัทเดียว แต่เป็นหนึ่งเดียวของเอเชีย”
“ไตรกับเขมแก้ปัญหาทุกอย่างได้แน่”
“เชื่ออย่างนั้นแล้วสบายใจ ก็เชื่อไป”
“คิดว่า คุณเก่งอยู่คนเดียวเหรอ”
“ผมคิดว่า คุณเก่งที่สุดในบริษัท ไม่มีคุณ..B-Star โดนขายทอดตลาดแน่”