บทละครโทรทัศน์ ระเริงไฟ ตอน 1
บทประพันธ์ โสภี พรรณรายบทโทรทัศน์ พิมพ์ธนา
โรงแรมหรู เวลาเย็น บรรยากาศงานแต่งงานหรูหราออกสไตล์เจ้าหญิงตามรสนิยมของเจ้าสาว ชาคริตกำลังผูกไทให้ตัวเองอยู่หน้ากระจก หน้าชาคริตดูนิ่งๆ ขณะหยิบสูททักซิโด้มาใส่ แล้วหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเสียบใส่กระเป๋าสูทโดยไม่สนใจกับช่อดอกไม้สำหรับติดเสื้อเจ้าบ่าวที่วางอยู่ ชาคริตเปิดประตูเดินออกไปอย่างมั่นใจว่าตัดสินใจถูกต้องแล้ว ช่อดอกไม้ถูกวางทิ้งไว้อย่างจงใจ
ช่อดอกไม้ที่ใหญ่กว่าถูกเสียบลงผมที่เกล้าสวยของเขมิกาโดยมือช่างทำผม เขมิกาในชุดเจ้าสาวมองตัวเองอยู่หน้ากระจกอย่างรู้สึกตื่นเต้นดีใจ เขมิกาแตะช่อดอกไม้ที่ผมเบาๆ ยิ้มอย่างมีความสุข
ชาคริตก้าวยาวๆ เข้าไปในลิฟต์ ไฮโซผู้หญิง 2 คนเดินช้าลากยาวในชุดราตรีมาแต่ไกล ส่งเสียงมาก่อนตัว
“รอด้วยค่ะ” ชาคริตยืนเฉยไม่สนใจ ไฮโซ 2 คนร้องเรียกอีก แต่ยังเดินเชื่องช้าน่ารำคาญ ประตูลิฟต์ค่อยๆ ปิดลง พร้อมๆ กับชาคริตเริ่มยิ้มด้วยความรู้สึกสนุกและสะใจ
ห้องจัดเลี้ยง บรรยากาศงานแต่งงานที่ดูระส่ำระสาย พิธีกรชายหญิงถือไมค์ยืนชะเง้อรอ บรรดาแขกในงานกระซิบกระซาบ แขกบางส่วนเดินออกไปจากงาน เขมิกายืนหน้าซีดอยู่กับดิลกที่ซุ้มดอกไม้สำหรับถ่ายรูปที่หน้างาน กมลพรรณแตะแขนดิลกอย่างเอาใจช่วย แล้วสะกิดให้ปาริฉัตรหยุดถ่ายเซลฟี่กับซุ้มดอกไม้ ทัศนะกับไตรทศเดินดุ่มๆ ด้วยความเคร่งเครียดเข้ามา “หาไม่เจอครับ คุณดิลก”
ไตรทศแนะ “ยกเลิกงานไปเลยดีกว่าครับ คุณพ่อ อย่าให้ต้องขายหน้าไปมากกว่านี้เลย”
“ไม่!! เค้าต้องมา ยังไงเค้าก็ต้องมา”
ชญานีเดินด้วยท่าทางสบายๆเข้ามา
“พี่ชายนีรับสายหรือยัง”
“ยังค่ะ ใจเย็นๆ งานเลทแค่สองชั่วโมงเอง เอ๊ะ หรือว่าสามชั่วโมง”
ทุกคนไม่ขำกับคำพูดเล่นๆของชญานี มีแต่ปาริฉัตรที่หัวเราะกิ๊กออกมาแล้วรีบเบรกตัวเอง แขกผู้ใหญ่ที่มีหน้าที่มาอวยพรเจ้าสาว มีคนติดตาม 3 คนเดินเข้ามาหาดิลก “ผมต้องกลับแล้ว แล้วตกลงเจ้าบ่าวหายไปไหน?!”
ดิลกนิ่งอึ้งอย่างอับอายขายหน้า เขมิกากลั้นน้ำตา