บทละครโทรทัศน์ แอบรักออนไลน์ ตอนที่ 11 หน้า 3
แสนดีไม่ได้ยิน ถามย้ำ “ใครคะ ?”
”ไม่มีแล้วค่ะ...ไม่มีใครแล้วค่ะ...เอ่อ... พราวขอไปหาข้อมูลลูกค้าเพิ่มก่อนนะคะ” พริบพราวตอบเลี่ยงๆ แล้วลุกเดินหนีไปอีกทาง ปล่อยให้แสนดียังคงครุ่นคิดหาเหตุผลอื่นต่อไป
พริบพราวเดินมาอีกมุมหนึ่งของบริษัท...ด้านหลังเห็นแผนกมาร์เก็ตติ้ง และเห็นปราณนต์ทำงานอยู่
พริบพราวเริ่มครุ่นคิด ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาสอบสัมภาษณ์ ตอนที่สัมภาษณ์อวัศยาดูจะปลื้มปราณนต์มาก เธอติวพิเศษให้ปราณนต์ พาปราณนต์ไปหาลูกค้า ไปปฎิบัติธรรม และมองกันไปมา และสุดท้ายที่อวัศยามีปฏิกิริยาเหวี่ยงที่เพิ่งเกิดขึ้น
พริบพราวเริ่มจะสงสัยว่าข้อสันนิษฐานนี้จะเป็นจริงๆ หญิงสาวหันไปมองปราณนต์ที่กำลังนั่งทำงานอย่างตั้งใจ .. ปราณนต์ทำงานไป มองโทรศัพท์ไปเป็นระยะ
ทันใดนั้น..อวัศยาเดินออกมาจากห้องทำงาน..เดินเอาเอกสารไปวางโต๊ะพีระ แต่พอผ่านปราณนต์ก็แอบมองด้วยความเป็นห่วง
พริบพราวชะงักกึก.... “หรือว่า.....”
มุมสวยของบริษัท บริเวณทางเดินด้านนอก ปราณนต์นั่งอยู่ในมือถือโทรศัพท์ .. มอง รอ แล้วก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ปราณนต์ตัดสินใจไม่มอง..เก็บเข้ากระเป๋าแล้วก็ทนไม่ได้หยิบมาดูอีกที
อวัศยาเดินมาในมือถือกระเป๋าทำงานพร้อมกลับบ้าน เธอปรายตามาเห็นปราณนต์ ก็ชะงักกึก..รีบหลบวูบเข้าหลังเสา แล้วค่อยๆชะโงกหน้าออกมาดูอีกทีให้แน่ใจ
หญิงสาวเห็นปราณนต์นั่งมองโทรศัพท์ซึมๆ เธอคิดๆ ใจแอบเต้น..ความคิดของอวัศยาในยามนี้วิ่งปรู๊ดปร๊าดหลากหลายสิ่งเกินกว่าที่เธอจะจับความคิดตัวเองได้ทัน .. คำพูดของรันดังเข้าในความคิด
“ฉันก็ไม่ได้ให้แกไปขอความช่วยเหลือเค้าในฐานะ “แอบรัก” แต่ไปในฐานะ “อวัศยา” ผู้หญิงตัวเป็นๆบนโลกแห่งความจริง ถ้าปราณนต์ยอมช่วยก็เท่ากับแกได้ "สองเด้ง" หนึ่ง แกรอดตัวจากการแต่งงาน,และสอง แกได้พัฒนาความสัมพันธ์กับปราณนต์แบบปกติมนุษย์ไม่ต้องแอบอยู่หลังยัยแอบรัก”
อวัศยาคิดๆ..แล้วก็เอาวะ หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอด และคิดจะทำอะไรบางอย่าง
ปราณนต์ยังนั่งซึมอยู่ที่เดิม ด้านหลังเห็นอวัศยาเดินมา..หญิงสาวกำลังจะเดินผ่านเขา ทันใดนั้นเธอก็ทำเป็นสะดุดอะไรบางอย่าง กระเป๋าทำงานหลุดมือตกลงที่พื้นผั้วะ !!!! “อุ๊ย !!!!” ของในกระเป๋าหล่นกระจาย
ปราณนต์หันมา พอเห็นอวัศยากับของที่หล่นเกลื่อนก็ตกใจ “พี่ศยา ผมช่วยครับ” ชายหนุ่มลุกมาช่วยก้มเก็บของอย่างมีน้ำใจ
อวัศยาก้มเก็บของไป ลอบมองณนต์ไป ใจหวั่นๆ ไม่ค่อยได้เล่นละครสร้างสถานการณ์ แต่คิดในใจ “เอาวะ หลังชนฝาแล้วนี่”