บทละครโทรทัศน์ พิษสวาท ตอนที่ 21 หน้า 4
“มากันแล้วหรือ?”
“พระเจ้าข้า โจทก์และจำเลยได้มาพร้อมกันแล้ว”
“เจ้ายังต้องการคำพิพากษาจากเราจริงๆหรืออุบล?”
“หม่อมฉันขอความยุติธรรมอีกเพียงครั้งเดียว! แล้วหม่อมฉันจะไม่ร้องขอสิ่งใดอีกเลยพระเจ้าข้า”
“เราให้โอกาสที่ไม่เคยให้กับใคร เพราะวิญญาณเจ้าเต็มไปด้วยความอาฆาตร้าย มุ่งแต่จะเรียกร้องหาความยุติธรรมให้แก่วิญญาณเจ้า...”
เชษฐากระซิบ “พี่อัค คุณอุบลเขากำลังคุยกับ...”
ทิพอาภากระซิบ “เราได้มาพบท่านก่อนที่เวลาของเราจะมาถึง...”
เชษฐากับทิพอาภาพยายามเงยหน้ามองหาเจ้าของเสียง
“อย่าพยายามเลย พวกเจ้ายังไม่อยู่ในภาวะที่จะได้เห็นเรา!” เชษฐาชะงัก “วันนี้เราอนุญาตให้เจ้าตามมา เพราะเจ้าทั้งสองมีหัวใจรักจริง เรามีอำนาจเหนือทุกอย่าง ยกเว้นคุณความดีในหัวใจมนุษย์”
“พระเจ้าข้า” ทั้งสองตอบรับกระแสเสียงพระยม
“บัดนี้เราจะเริ่มพิจารณาคดี ทุกคนจงยืนขึ้น!!” อุบล อัคนี ทิพอาภา เชษฐายืนขึ้น แสงเพลิงทั้งลานพิพากษาเปลี่ยนเป็นนิ่งสงบ“อุบล เจ้ากล่าวหาว่าได้ถูกชายผู้นี้ลวงไปฆ่าอย่างโหดเหี้ยม แลบังคับจองจำวิญญานให้ต้องทำหน้าที่เฝ้าทรัพย์แผ่นดิน โดยมิได้ยินยอมพร้อมใจ ใช่หรือไม่?”
“พระเจ้าข้า...”
“จงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้จำเลยและพยานได้ฟัง”
“หากหม่อมฉันเคยกระทำผิดใดจนทำให้ต้องได้รับความทุกข์ทรมานนี้... ความผิดนั้นก็มีอยู่อย่างเดียว คือหม่อมฉันเคยรักชายผู้นี้!!”อุบลมองอัคนีรำลึกถึงความหลังอย่างเจ็บปวด
อุบลกำลังร่ายรำบวงสรวงทวยเทพ ในสงครามศึกอังวะ พ.ศ. ๒๓๐๓ ทันใดนั้น ปืนใหญ่ถูกยิงเข้ามาในวัง ถูกยอดปราสาทพระที่นั่งสุริยาศอัมรินทร์หักพังลงมา ทุกคนแตกตื่นวิ่งหนีเอาตัวรอด อุบลตัดสินใจรำอยู่คนเดียว
“ในวันที่ยอดปราสาทพระที่นั่งสุริยาศอัมรินทร์ถูกปืนใหญ่จนหักพังลงมา... ขณะที่ผู้คนแตกตื่นหนีตายหม่อมฉันคิดเพียงว่าจะทำเช่นใดจึงจะช่วยแผ่นดินได้”
ในสนามรบ ขุนอรรครบกับทหารอังวะ จนเข้ามาถึงหน้าค่าย ปีนใหญ่แตก ฝ่ายอังวะพ่ายกลับไป ทหารเฮลั่น แสดงความดีใจ ที่รบชนะ ขุนอรรคยืนมองด้วยความโล่งใจที่รักษาแผ่นดินไว้ได้
“เช่นเดียวกับขุนศึกที่ถึงแม้ใครๆต่างพูดกันว่าการศึกครั้งนี้ไร้ซึ่งหนทางแห่งชัยชนะ แต่เขาก็ยังสู้ต่อ จนผู้คนร่ำลือถึงความมุทะลุดื้อรั้น... และนั่นเป็นครั้งแรกที่หม่อมฉันได้ยินชื่อขุนศึกผู้นี้...”