บทละครโทรทัศน์ หน้ากากนางเอก ตอนที่ 23 หน้า 2
“เธอฆ่าสุวรีย์ยังไง”
“พิมเปล่า”
“ฉันถามว่าเธอฆ่าสุวรีย์ยังไง...”
พิมพิชชาน้ำตาไหล “ไม่...พิมไม่ได้ทำ...”
“เธอยังจะกล้าพูดเธอว่าไม่ได้ทำอีกเหรอ....ได้....” อานนท์โกรธจัด ลากพิมพิชชาออกจากห้อง พาเข้ามาที่ห้องพระ ผลักลงพื้น หน้าเกือบชนรูปของคุณหญิงสุวรีย์ พิมพิชชาผวา แล้วรีบถอยหลังหนีอย่างหวาดกลัว “สาบานต่อหน้ารูปสุวรีย์ ต่อหน้าพระว่าเธอไม่ได้ฆ่า ถ้าเธอพูดโกหกแม้แต่คำเดียวขอให้มีอันเป็นไป!” อานนท์โกรธเกรี้ยว พิมพิชชามองดูที่รูปคุณหญิงสุวรีย์ สลับกับมองดูหน้าอานนท์ มองพระพุทธรูป พิมพิชชากลัวจนตัวสั่น “ว่าไง เธอฆ่าสุวรีย์ใช่ไหม” อานนท์คาดคั้น
“พิมเปล่า...”
รูปคุณหญิงสุวรีย์ตกลงมาแตกดังโครม! พิมพิชชาตกใจ ร้องกรี๊ด มองดูที่รูป สลับกับมองดูหน้าอานนท์
“บอกอีกทีสิว่าไม่ได้ทำ!...บอกฉันมา...” พิมพิชชามองหน้าอานนท์ไม่พูดอะไร อานนท์เขย่าตัวพิมพิชชาด้วยความโกรธแค้นใจ“ฉันบอกให้พูดออกมาว่าเธอไม่ได้ทำ...พูดออกมาสิพิม...พูดออกมา”
พิมพิชชาร้องไห้ ควบคุมสติตัวเองไม่ได้แล้ว “ใช่...ฉันฆ่าสุวรีย์!เอง...ฉันฆ่ามันด้วยมือของฉันเอง ในเมื่อโอกาสที่จะได้เป็นคุณนายบ้านหลังนี้มันมาอยู่ตรงหน้าแล้ว ฉันเลยถอดสายออกซิเจนของมันออก! นี่ไงล่ะความจริงที่ท่านอยากได้ยิน!”
อานนท์ตบหน้าพิมพิชชาดังเผียะ!“แกมันเลว!”
“พิมไม่ได้เลว ท่านนั่นแหละโง่เอง...”
“ที่เอี๊ยมเคยพูดกับฉันไว้มันถูกต้องทุกอย่าง!”
“แต่ท่านก็ไม่เชื่อมัน ท่านเลือกที่จะเชื่อพิมเอง!”
“แกออกไปจากบ้านของฉันไปเดี๋ยวนี้เลยนะ! แล้วอย่ากลับเข้ามาเหยียบที่นี่อีก ของสักอย่างฉันก็ไม่ให้แกเอาไป!”
“พิมไม่จำเป็นต้องหอบออกไปหรอกค่ะ เพราะยังไงท่านก็ให้พิมไว้หมดแล้ว”
“แก! ออกไปเดี๋ยวนี้! อนงค์! มาเอามันออกไป!”
“ไม่ต้องให้คนมาไล่หรอกค่ะ พิมเดินออกไปเองได้...ขอบคุณนะที่โง่ให้พิมหลอกอยู่ได้ตั้งนาน” พิมพิชชาเดินออกไป
อานนท์ทั้งแค้นใจ เจ็บใจ และเสียใจ เข้าไปทรุดลงตรงหน้ารูปคุณหญิงสุวรีย์ “สุวรีย์....ผมผิดไปแล้วทั้งต่อคุณ และลูก ผมจะทำยังไงดี” อานนท์กอดรูปคุณหญิงสุวรีย์ไว้ รู้สึกอ้างว้างไม่เหลือใคร
ที่ห้องนอนดำรง ดำรงยังหลับอยู่ เบอร์รี่นั่งเช็ควิดิโอที่แอบตั้งกล้องถ่ายเอาไว้ ยิ้มเยาะชอบใจ
เบอร์รี่เดินไปนั่งข้างเตียง ดำรงลืมตาตื่น “มีอะไรเหรอเบอร์รี่”
“เบอร์รี่มีอะไรจะให้คุณดำรงดู” เบอร์รี่เปิดวิดิโอให้ดู ดำรงนิ่ง “เหมือนคุณดำรงข่มขืนเบอร์รี่จริงๆ เลยใช่ไหมคะ”
“เธอถ่ายไว้ได้ยังไง”