บทละครโทรทัศน์ เด็ดปีกนางฟ้า ตอนที่ 8 หน้า 5
“เย้ จะได้ออกทีวี!!เดี๋ยวต้องโทรบอกแม่ก่อน เนี่ย..ต้องลงสเตตัสอวดชาวบ้านด้วย เออ..แต่ตอนนี้หิวว่ะ”
“นี่ผัก เอาทีละอย่างก่อนดีมั้ย”
“เฮ้ย เขาบอกว่าออกทีวีแล้วจะดูอ้วนขึ้นเป็นสองเท่า แบบนี้ฉันต้องลดน้ำหนักรึเปล่า”
“แค่นี้แกก็ผอมพอแล้วนาตาลี ถ้าลดอีก..ฉันคงมองทะลุตัวแกได้”
“ก็แหม ออกทีวีทั้งที – อ้าว กระเป๋าฉันล่ะ – อุ้ย..ลืมไว้ในห้องประชุมเดี๋ยวมานะ”
“งั้นพวกฉันไปรอที่แคนทีนเลยนะ”
“เฮ้ย รอหน่อยดิ”
“ไม่รอโว้ย หิวแล้ว – ไปนาง”
ผักกาดรีบจูงคะนึงนางเดินออกมา นักรบส่ายหน้าแล้วย้อนกลับไปทางห้องประชุม
ในห้องประชุม นักรบเดินย้อนกลับมาเจอพจน์ที่กำลังถือกระเป๋าที่นักรบลืมไว้ และกำลังจะเดินออกจากห้องประชุมพอดี “อ้าวนักรบ...นี่กระเป๋าเธอใช่มั้ยพี่ว่าจะตามเอาไปให้อยู่พอดี”
นักรบนิ่ง อึ้ง ใจสั่น ไม่นึกว่าจะมาเจอพจน์สองต่อสองในระยะใกล้ชิดแบบนี้ “ใช่ครับ ขอบคุณมากนะครับ”
นักรบประดักประเดิดรับกระเป๋าจากพจน์มา แล้วหมุนตัวกำลังจะเดินออกไป
“เออ.. นักรบ พี่มีอะไรจะถามหน่อย” นักรบชะงักใจเต้นโครมคราม หันกลับไปมองพจน์ “ครับ”
“จะไปออกทีวีนี่ไหวมั้ยเนี่ย”
นักรบงง “ไหวสิครับไหวอยู่แล้ว...ทำไมเหรอครับ”
“ก็...เธอดูเหมือนจะ...เขิน..เนอะ”
“ผมคงไม่เขินกล้องหรอกไปกันตั้งหลายคน”
“เปล่าพี่หมายถึง...เขิน...เวลาเธอคุยกับพี่”
นักรบไม่นึกว่าพจน์จะพูดตรงขนาดนี้ ใจระส่ำ หน้าแดง เขินจนไปไม่เป็น
“พี่ดูออก..ว่าเธอเป็นยังไง” นักรบเริ่มมือเย็น เท้าเย็น
“พี่อยากบอกเธอว่า เราจะเป็นยังไงก็แล้วแต่ ขอให้ภูมิใจในสิ่งที่เราเป็นและมั่นใจในสิ่งที่เราทำ ตราบใดที่เราเป็นคนดีคิดดี พูดดีแล้วก็ทำดี ไม่ได้ทำผิดศีลธรรม ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน”
พจน์พูดเรื่อยๆ แต่น้ำเสียงอบอุ่นนั้นชะโลมหัวใจนักรบยิ่งนัก
“ถ้าเธอมัวแต่เขินพี่ แล้วเราจะเป็นเพื่อนกัน ทำความรู้จักกันมากกว่านี้ได้ยังไง”
นักรบตกใจเหมือนโลกถล่ม ความรู้สึกแทบไม่เชื่อหูตัวเอง “พี่พจน์...”