รีเซต

[US Boxoffice] ไอ้ต้าว "Venom 3" ยังยึดแชมป์ รียูเนียนทีม ฟอร์เรสต์ กัมพ์ สตาร์ทแผ่ว

[US Boxoffice] ไอ้ต้าว "Venom 3" ยังยึดแชมป์ รียูเนียนทีม ฟอร์เรสต์ กัมพ์ สตาร์ทแผ่ว
Jeaneration
4 พฤศจิกายน 2567 ( 09:00 )
70

Box Office Venom: The Last Dance

บ็อกซ์ออฟฟิศอเมริกา รายงานอันดับหนังทำเงินประจำสุดสัปดาห์วันที่ 1-3 พฤศจิกายน 2024 - มาถึงสัปดาห์ที่ย่างก้าวเข้าสู่เดือน 11 ของปีนี้กันแล้ว ที่คาบเกี่ยวกับช่วงเทศกาลวันฮาโลวีนสุดสยองและยังอยู่ในช่วงบรรยากาศการเลือกตั้งทั่วไปครั้งสำคัญของอเมริกาด้วย ที่ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นมีการเปิดให้โหวตลงคะแนนล่วงหน้ากันไป ท่ามกลางบรรยากาศของวงการหนังที่ค่อนข้างเงียบ ๆ เหงา ๆ สักหน่อย เพราะแทบจะไม่มีโปรแกรมหนังใหม่เข้ามาเสริมทัพในจุดเริ่มต้นของการเฉลิมฉลองปลายปีนี้เลย

นั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ "Venom: The Last Dance" ยังคงครองบัลลังก์แชมป์ได้อยู่ต่อไป กับรายได้ 26.1 ล้านเหรียญ ลดลงมา -49% จากสัปดาห์เปิดตัว นับว่าเป็นตัวเลขที่ดร็อปลงมาไม่เยอะอย่างที่คาดการณ์กันเอาไว้เลย แม้ว่าหนังจะออกสตาร์ทได้แผ่วบางกว่าทุก ๆ ภาค แต่ดูจากสัญญาณตอนนี้ก็น่าจะบ่งชี้ได้ว่าหนังอาจจะสามารถยืนโรงฉายยาวไปถึงช่วงสิ้นปีได้ เพราะล่าสุดรายได้หลังจากเข้าฉายมา 10 วันแรกก็แตะที่ 90 ล้านเหรียญ กับรายได้กว่า 220 ล้านจากทั่วโลกในตอนนี้

ขยับขึ้นมาเป็นรองแชมป์ได้อีกหนกับหนังแอนิเมชันเรื่องฮิตในฤดูกาลที่ผ่านมา อย่าง "The Wild Robot" ที่ทำให้เงินไปอีก 7.5 ล้านเหรียญ ที่นับว่าขยับเพิ่มขึ้นมาเฉย ๆ อีก +11% ในวีคที่ 6 ของการฉาย นับว่าเป็นสัญญาณที่น่าประทับใจมาก บ่งบอกได้ว่าคอนเทนท์ตรงใจกับคนดูครอบครัวเป็นอย่างดี และยิ่งทำให้หนังสามารถยืนยาวในการเก็บรายได้ไปต่อเนื่อง กับตัวเลขล่าสุดที่ 121 ล้านเหรียญในบ้าน และเกือบจะ 270 ล้านเหรียญจากทั่วโลก

"Smile 2" ขยับลงไปอยู่อันดับที่ 3 เพราะได้อานิสงส์จากช่วงเทศกาลฮาโลวีนนั่นเอง วีคนี้เก็บไปอีก 6.8 ล้านเหรียญ ลดลงไปแค่ -29% ยังเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจ กับรายได้รวมที่แตะ 52 ล้านเหรียญ ที่ยังพอมีลุ้นให้ทำผลลัพธ์ได้เทียบเคียงกับภาคแรกที่ทำไว้ระดับร้อยล้าน ขณะที่หนังดรามาหวังรางวัล "Conclave" กระแสก็ยังใช้ได้ เพราะทำเงินไปอีก 5.3 ล้านเหรียญ ตัวเลขยังหล่อเลี้ยงได้ดี เพราะดร็อปลงแค่ -20% จากกระแสปากต่อปากจริง ๆ และหลังจากฉายมา 10 วันแรกก็ฟันไปแล้ว 15 ล้านเหรียญ ต้องรอลุ้นให้มีบทบาทบนเวทีรางวัลมาช่วยต่อไป

สำหรับหนังใหม่เพียงเรื่องเดียวที่เข้าฉายแบบวงกว้างในวีคนี้ก็คือ "Here" หนังดรามาครอบครัวที่เป็นการรียูเนียนรวมทีมกันอีกครั้งจากทีมผู้สร้างและนักแสดงของหนังคลาสสิก Forrest Gump เมื่อ 30 ปีที่แล้ว แต่ปรากฏว่าการกลับมาของพวกเขาครั้งนี้ค่อนข้างแผ่วแรงไปหน่อย เพราะหนังเปิดตัวได้แค่ในอันดับที่ 5 กับรายได้ 3 วันแรกที่ 5 ล้านเหรียญ จาก 2,647 โรงฉาย คิดเป็นรายได้เฉลี่ยต่อโรงแค่เฉียด 1,900 เหรียญเท่านั้น

ผลงานการกำกับเรื่องล่าสุดของ "โรเบิร์ต เซเม็กคิส" ที่ได้ "ทอม แฮงก์ส" กับ "โรบิน โรต์" มาแสดงนำคู่กัน กับหนังที่ถ่ายทอดภาพมุมกล้องมุมเดียวกับเรื่องราว 100 ปีของบ้านหลังหนึ่งที่เต็มไปด้วยเหตุการณ์ต่าง ๆ ในแต่ละช่วงเวลาเหตุการณ์ชีวิตมนุษย์ หนังได้กระแสตอบรับไม่ค่อยสู้ดีเท่านั้น เพราะมีนักวิจารณ์ชื่นชอบแค่เพียง 36% บนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes ได้มะเขือเทศเน่ามาครองตามระเบียบ ขณะที่คนดูก็ให้เกรดแค่ B- กับหนังเรื่องนี้เท่านั้น

Here ใช้ทุนสร้างไปราว ๆ 45 ล้านเหรียญ และหวังจะเป็นหนึ่งในหนังที่อยากมีบทบาทบนเวทีรางวัลต่าง ๆ แต่ดูจากผลลัพธ์ที่ออกมาในเวลานี้ ทำให้ค่อนข้างร่อแร่ที่คณะกรรรมเวทีต่าง ๆ จะให้ความสนใจ แม้กระทั่งคนดูก็ยังไม่ให้การต้อนรับเท่าที่ควร นักวิเคราะห์มองว่าการที่หนังเปิดตัวได้ค่อนข้างเบาบางเช่นนี้ ชี้ให้เห็นว่าพลังของผู้สร้างและนักแสดงยังไม่เพียงพอที่จะดึงดูดคนดูเข้าโรงหนัง ยิ่งสตอรี่ของหนังที่ตีโจทย์ได้ไม่แตกอย่างที่ควรจะเป็น

นอกจากนี้ยังมี "Absolution" หนังแอคชันล้างแค้นแบบเดิม ๆ ของลุง "เลียม นีสัน" เปิดตัวอยู่รั้งท้ายตารางที่ 1.4 ล้านเหรียญ จาก 1,537 โรงฉาย ที่ถือว่าฉายแบบวงไม่กว้างมากนัก นับว่าเป็นตัวเลขที่จอดสนิท ที่ทำให้ลุงเลียมก็เริ่มพิจารณาที่จะวางมือเกษียณจากการเล่นหนังและบทเดิม ๆ แบบนี้ในอนาคตอันใกล้นี้แล้ว

ส่วนอันดับอื่น ๆ ที่น่าสนใจยังมี "We Live in Time" ที่ยังเลี้ยงตัวเลขได้ดี เก็บไปอีก 3.4 ล้านเหรียญ ลดลงแค่ -28% โดยหนังรักจากอังกฤษเรื่องนี้ทำเงินไปเบา ๆ ที่ 17.6 ล้านเหรียญแล้ว ขณะที่หนังสยองขวัญเลือดสาด "Terrifier 3" ก็ได้รับแต้มบุญจากฮาโลวีน ทำเงินไปอีก 3.2 ล้านเหรียญ ลดลงแค่ -32% และยอดรวมในตอนนี้ก็แตะ 50 ล้านเหรียญไปแล้ว และหนังตลกดรามากระแสดี "Anora" ที่ได้ฤกษ์เพิ่มโรงฉายเพิ่มขึ้นเป็น 253 โรงทั่วอเมริกา ก็ขยับเข้าสู่ Top 10 กับรายได้ 1.9 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น +110% ที่ถือว่ายังดึงดูดผู้ชมได้ดีอยู่ หลังจากเข้าฉายมา 3 สัปดาห์

อีกเรื่องที่เปิดตัวใหม่แบบวงจำกัดก็คือ "A Real Pain" หนังดรามาตลกที่ถูกจับตามองว่าจะเป็นตัวเต็งรางวัลทางด้านการแสดงในปีนี้ เปิดตัวได้ 240,000 เหรียญ จากแค่ 4 โรงฉาย ทำรายได้เฉลี่ยต่อโรงสูงถึง 60,000 เหรียญ นับว่าเป็นการออกสตาร์ทที่ดี และหนังมีแผนจะค่อย ๆ เพิ่มโรงฉายต่อไป แล้วจริง ๆ ยังมี "Juror No. 2" ผลงานหนังจากการกำกับของ "คลินท์ อีสต์วู้ด" ที่จะเป็นงานชิ้นสุดท้ายก่อนเกษียณวางมือในวัย 94 ปี หนังเข้าฉายแบบวงไม่กว้าง แต่วอร์เนอร์ฯ เลือกที่จะไม่เปิดเผยตัวเลขรายได้ออกมาในรายงานแต่อย่างใด

สำหรับสัปดาห์ถัดไป บรรยากาศของวงการหนังฝั่งอเมริกาจะกระเตื้องขึ้นมานิดนึง แม้ว่าจะไม่มีหนังฟอร์มใหญ่ ๆ ดี ๆ มาในช่วงนี้ แต่ก็เป็นคิวของหนังตลกครอบครัว "The Best Christmas Pageant Ever" ที่จะมาซื้อใจคนในครอบครัวช่วงนี้ ตามมาด้วยหนังเขย่าขวัญที่คำวิจารณ์ชวนเซอร์ไพรส์ "Heretic" ที่มี "ฮิว แกรนท์" แสดงนำ รวมทั้ง "Weekend in Taipei" หนังแอคชันล้างผลาญที่จะฉายแบบวงไม่กว้างนัก 

 Source: TheNumbers

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

-------------------------------------

>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa