รีเซต

[US Boxoffice] ปิดไตรภาค "Venom: The Last Dance" แรงยังดีแต่สตาร์ทได้เบากว่าทุกภาค

[US Boxoffice] ปิดไตรภาค "Venom: The Last Dance" แรงยังดีแต่สตาร์ทได้เบากว่าทุกภาค
Jeaneration
28 ตุลาคม 2567 ( 09:00 )
123

Box Office Venom: The Last Dance

บ็อกซ์ออฟฟิศอเมริกา รายงานอันดับหนังทำเงินประจำสุดสัปดาห์วันที่ 25-27 ตุลาคม 2024 - ก่อนที่จะอำลาเดือนที่ 10 ของปีนี้ เข้าสู่อีกเพียงแค่ราว ๆ 60 วันก็จะนับถอยหลังสู่ศักราชใหม่ มาพร้อมกับการเปิดตัวให้สมบูรณ์แบบของไตรภาคหนังแอคชันอสูรกายจากตัวละครของมาร์เวล ที่นับว่าเป็นหนังฟอร์มใหญ่ฟอร์มดีที่กลับมาทำให้บ็อกซ์ออฟฟิศคึกคักอีกครั้ง ถึงแม้ว่าสถิติต่าง ๆ อาจจะไม่ได้หวือหวาได้สักเท่าไหร่นัก

"Venom: The Last Dance" ภาคที่ 3 ของหนังชุดเวน่อมได้ฤกษ์ออกฉายแล้ว กับการออกสตาร์ทรายได้ 3 วันแรกที่ 51 ล้านเหรียญ จาก 4,131 โรงฉายทั่วอเมริกา หรือคิดเป็นรายได้เฉลี่ยต่อโรงที่ราว ๆ 12,000 เหรียญ เพียงพอที่จะหนังจะก้าวขึ้นเป็นแชมป์หนังได้อย่างสบาย ๆ แต่กระนั้นก็กลายเป็นว่าหนังเปิดตัวได้ค่อนข้างกว่าที่หลาย ๆ ฝ่ายคาดการณ์กันเอาไว้อยู่ประมาณหนึ่ง

Venom 3 กลายเป็นหนังที่เปิดตัวได้น้อยกว่าทุก ๆ ภาคที่ผ่านมา น้อยกว่าภาคแรก Venom ที่เคยเปิดไว้ที่ 80 ล้านเหรียญในปี 2018 และยังน้อยกว่าภาค 2 อย่าง Venom: Let There Be Carnage ที่เปิดตัวได้ดีที่สุดถึง 90 ล้านเหรียญ จากการฉายในช่วงโควิด-19 ยังระบาด เมื่อปี 2021 ตัวเลขออกสตาร์ทเท่านี้ถือว่าน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์และสตูดิโอคาดหวังว่าหนังจะสามารถทำเงินเปิดตัวได้ราว ๆ 65-75 ล้านเหรียญ

แต่อย่างไรก็ตาม Venom: The Last Dance ก็ไปได้ค่อนข้างสวยในตลาดนอกอเมริกา เพราะหนังเปิดตัวกับตลาดหนังทั่วโลกได้ที่ 124 ล้านเหรียญ ซึ่งทำให้หนังออกตัววีคหน้ากับรายได้ประมาณ 175 ล้านเหรียญ โดยที่หนังเรื่องนี้ใช้ทุนสร้างไปราว ๆ 120 ล้านเหรียญ ที่ดูทรงแล้วอาจจะต้องคาดหวังกับรายได้นอกบ้านเป็นหลักมากกว่า นี่คือหนังจากจักรวาลมาร์เวลของโซนีที่ค่อนข้างประสบความสำเร็จที่สุดกว่าทุก ๆ เรื่องที่ผ่านมาในแง่รายได้

แต่สาเหตุที่คาดว่าทำให้ Venom 3 ทำเงินได้ต่ำกว่าที่คิดเอาไว้ ก็น่าจะเป็นกระแสคำวิจารณ์ที่ไม่ค่อยข้างราบรื่นเท่าไหร่ เพราะหนังได้คะแนนเฉลี่ยมีนักวิจารณ์ชื่นชอบเพียง 37% บนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes ที่นับว่าคะแนนน้อยที่สุดกว่าทุกภาคเช่นกัน แม้ว่าคะแนนจากหนังชุดนี้ทุก ๆ ภาคจะได้มะเขือเทศเน่าล้วนทิ้งสิ้นก็ตาม ขณะที่แฟนหนังก็ตัดเกรดให้ B- ตามรูปการณ์ของหนังเช่นเดียวกัน กับอีกส่วนหนึ่งอาจจะเพราะว่าผู้ชมยังขยาดกับหนังแนวฮีโร่อยู่ หลังจากที่ภาคต่อ Joker สร้างความผิดหวังให้กับพวกเขา

อดีตแชมป์ "Smile 2" ก็ร่วงบัลลังก์ตามธรรมเนียม กับรายได้เพิ่มอีก 9.4 ล้านเหรียญ ที่นับว่าตัวเลขหายวับไป -59% ก็นับว่าเป็นการดร็อปที่ปกติของหนังประเภทนี้ แม้ว่าภาคแรกจะรักษาระดับได้ดีกว่านี้ก็ตาม แต่ล่าสุดหนังก็ฟันรายได้ 10 วันแรกไปได้แล้วที่ 40 ล้านเหรียญ ต่อจากนี้ไปก็คือเก็บกำไรล้วน ๆ แล้ว แม้ว่าความร้อนแรงจะไม่ได้เทียบเท่ากับภาคแรกก็ตามที

"Conclave" หนังดรามาระทึกขวัญวงการศาสนา ออกสตาร์ทได้น่าพอใจในอันดับที่ 3 กับรายได้ 6.5 ล้านเหรียญ จาก 1,753 โรงฉาย คิดเป็นรายได้เฉลี่ยต่อที่ราว ๆ 3,700 เหรียญ นี่คือผลงานใหม่ของผู้กำกับไฟแรงในตอนนี้ เอ็ดเวิร์ด เบอร์เกอร์ ที่นับว่าเป็นอีกเรื่องที่ถูกหมายตาว่าจะมีซีนบนเวทีรางวัลต่าง ๆ ต่อจากนี้ หนังได้คะแนนคำวิจารณ์ที่น่าพอใจถึง 92% ต้องมาติดตามต่อว่าหนังจะลากยาวฉายนาน ๆ ไปจนถึงเวทีออสการ์ได้หรือไม่

แอนิเมชันเรื่องฮิต "The Wild Robot" วีคนี้ทำเงินลดลงมาแค่ -36% เก็บไปอีก 6.5 ล้านเหรียญ ที่นับว่าเป็นยังหนังการ์ตูนที่ปังสุด ๆ ในเวลานี้ กับยอดรวมในบ้านที่ยังดีต่อเนื่องแตะ 111 ล้านเหรียญไปแล้ว หนังดรามากระแสใช้ได้ "We Live in Time" ของค่าย A24 ได้ฤกษ์ฉายโรงฉายวงกว้างในสัปดาห์นี้ ทำเงินไป 4.8 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น +15% จาก 2,964 โรงฉาย ทำให้อัดฉีดรายได้รวมขยับรวมไปที่ 11.7 ล้านเหรียญ

"Terrifier 3" หนังสยองเลือดสาดฉบับไตรภาคก็ยังรักษาระดับเลี้ยงไปถึงข่วงฮาโลวีน ทำเงินลดลงไป -49% เก็บไปอีก 4.7 ล้านเหรียญ กับรายได้รวมที่ 44 ล้านเหรียญ กำไรปัง ๆ ทั้งนั้น และที่ต้องจับตามองคือ "Anora" หนังเจ้าของรางวัลปาล์มทองคำจากเมืองคานส์ปีนี้ ยังคงฉายแบบจำกัดโรงอยู่ แต่ขยับเข้ามา Top 10 ได้สุดปัง กับรายได้ 860,000 เหรียญ จากเพียง 34 โรงทั่วอเมริกา คิดเป็นรายได้เฉลี่ยโรงที่ยังสูงถึง 25,000 เหรียญ นี่คือหนังที่ได้คะแนนคำวิจารณ์สูงถึง 99% ที่ได้รับกระแสปากต่อปากจากคนดูอยู่ในเวลานี้

ทางด้าน "Joker: Folie à Deux" หลุดออกจาก Top 10 ไปเรียบร้อยแล้ว หลังจากเข้าที่ฉายมาแค่ 4 สัปดาห์นี้ วีคนี้หนังทำเงินร่วงลงไปอีก -72% กับโรงฉายที่ยังถูกหั่นหายไปปริมาณเยอะ เก็บไปเพิ่มอีก 600,000 เหรียญ กับรายได้รวมที่ 57.8 ล้านเหรียญ ที่น่าจะทำให้เชื่อว่าหนังมีโอกาสที่จะปิดรายได้ไม่ถึงหลัก 60 ล้านเหรียญไปอย่างน่าผิดหวัง

สัปดาห์หน้าเริ่มต้นเดือนพฤศจิกายน เดือนที่ 11 ของปี กับโปรแกรมหนังที่ไม่ได้หวือหวาสักเท่าไหร่ นำมาโดย "Here" หนังชีวิตที่เป็นการกลับมารวมตัวกันของนักแสดงและทีมผู้สร้าง Forrest Gump กับกิมมิกกล้องมุมเดียวตลอดทั้งเรื่อง ตามมาด้วย "Absolution" หนังแอคชันระห่ำยี่ห้อลุงเลียมคนเดิม ที่จะเปิดตัวแบบวงไม่กว้างนัก ส่วนในวงจำกัดจะมีหนังสงครามหวังรางวัล "Blitz" ได้ฤกษ์ฉาย ร่วมด้วย "Juror No. 2" ผลงานชิ้นสุดท้ายก่อนเกษียณจากวงการของปู่คลินท์ และ "A Real Plan" อีกหนึ่งหนังดรามาขวัญใจนักวิจารณ์ที่มีลุ้นรางวัลปีหน้า

 Source: TheNumbers

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

-------------------------------------

>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa