บทละครโทรทัศน์ หนึ่งในทรวง ตอนที่ 16 หน้า 4
“.. นี่ส่อง..เบาๆหน่อยสิ หูพี่จะแตกแล้ว..นี่ถ้าไม่เชื่อก็ไปถามคุณลุงวิทย์ก็ได้..คุณลุงเป็นคนมาขอหมั้นยัยปุ้มเมื่อวันก่อน..”
“ทำไม..ทำไมคุณลุงต้องมาขอหมั้นมันด้วยคะ”
“เรื่องนี้ก็ต้องขอบคุณพวกผู้หญิงขี้อิจฉาที่ปากอยู่ไม่สุขชอบเอาเรื่องของปุ้มกับหนึ่งไปพูดเสียๆหายๆ คุณลุงไม่อยากให้ปุ้มต้องอับอายขายขี้หน้า เลยมาขอหมั้นเพื่อสยบข่าวลือทั้งหมด..” ส่องแสงอึ้งไป สัทธาพูดต่ออย่างสนุกปาก “พวกผู้หญิงปากบอนคงจะหน้าหงายกันไปเป็นแถว ถ้ารู้ว่าคำพูดมั่วๆของตัวเองทำให้หนึ่งกับปุ้มลงเอยกันด้วยดีแบบนี้..จริงมั้ยจ๊ะน้องส่อง..” สัทธาเดินกลับเข้าบ้านไป
ส่องแสงช็อค!!!! “ไม่จริง ไม่จริง..ไม่จริง!!!!“
ที่บ้านเพชรลดา อนวัชเดินไปมาในห้องนอน ครุ่นคิดถึงคำพูดของหทัยรัตน์
“ถ้าคุณต้องการหมั้นเพียงเพราะต้องการเอาชนะฉัน คุณเตรียมตัวรับความพ่ายแพ้ได้เลย เพราะฉันไม่มีวันหมั้นกับคุณ”
อนวัชคิดหนัก..หาทางทำให้หทัยรัตน์รับหมั้นให้ได้..คิด ..“ไม่..ฉันไม่ยอม..ฉันจะต้องทำให้เธอรับหมั้นฉันให้ได้ จะให้ใครช่วยดี?” อนวัชนึกถึงหน้าคนที่จะช่วยตนได้ทีละคน.วิทย์ / ทิพย์ / สุทธิ์ / พิมพ์ / กรกนก / สัทธา / สุดา..แล้วก็ย้อนกลับมาที่สุดาอีกที..อนวัชปิ๊ง !! “คนนี้แหละที่จะช่วยได้!!”
สุดานั่งคุยกับอนวัชในร้านอาหาร
“พี่หนึ่งอยากให้แป้นช่วยพูดกับปุ้ม ?”
“ใช่..พี่เห็นด้วยที่คุณพ่อแก้ปัญหาแบบนี้..แต่พี่คิดว่าปุ้มเค้าคงไม่เข้าใจ แป้นก็รู้ว่าปุ้มเจ้าทิฐิขนาดไหน ถ้าจะให้รับหมั้นนายอนวัช คงยอมกัดลิ้นตัวเองตายมากกว่า พอคิดแบบนี้แล้วพี่ก็เลยเป็นห่วง ถึงได้เรียกแป้นมาอยากให้แป้นช่วยพูดกับปุ้ม”
“แล้วพี่หนึ่งจะให้แป้นพูดอะไรคะ ?”
อนวัชยิ้มพอใจ
ที่บ้านเดือนประดับ สุดานั่งคุยกับหทัยรัตน์
“พี่แป้นไม่ต้องเกลี้ยกล่อมปุ้มแล้วล่ะค่ะ...ยังไงปุ้มก็ไม่หมั้นกับคุณอนวัช”
“ปุ้ม..คิดดูดีๆนะ การตัดสินใจของปุ้มมันจะมีผลต่อชีวิตปุ้มในอนาคตนะจ้ะ..ปุ้มจะทนให้คนอื่นเค้าเข้าใจผิดและพูดจาดูถูกได้เหรอ?“
“ได้ค่ะ...”
สุดามองหทัยรัตน์อ่อนใจ และตัดสินใจใช้ไม้ตาย “แล้วปุ้มคิดถึงคุณพ่อ คุณแม่บ้างหรือเปล่า ว่าท่านจะเสียชื่อตามไปด้วย” หทัยรัตน์ชะงัก “ถึงแม้ว่าการหมั้นครั้งนี้จะเป็นการหมั้นของปุ้ม แต่มันส่งผลถึงคนรอบข้างอีกหลายคน ไหนจะคุณลุงวิทย์ที่เป็นคนเอ่ยปากขอหมั้นปุ้มให้พี่หนึ่ง แล้วยังคุณพ่อกับคุณแม่ที่เป็นผู้ใหญ่ฝ่ายปุ้ม ถ้าคนอื่นนินทาว่าปุ้มก็อาจจะพาดพิงถึงท่านทั้งสามคน”
หทัยรัตน์คิดตาม แววตาเริ่มครุ่นคิด ..