บทละครโทรทัศน์ บ่วงอธิฏฐาน ตอนที่ 1 หน้า 4
โบราณวัตถุ ภาพถูกเลื่อนไปเรื่อยๆ จนมาถึงภาพศิลาจารึก ด้านหน้า ด้านข้าง ด้านหลัง จนถึงภาพสุดท้ายด้านข้างอีกมุม แทบไม่มีอะไรผิดสังเกต โยสิตาคลิกภาพผ่านไปแต่ก็ต้องชะงักเปลี่ยนใจเพราะเหมือนพบสิ่งผิดปกติ คลิกภาพย้อนกลับไปดู ภาพศิลาจารึกภาพสุดท้าย... ปรากฎภาพผู้หญิงคนหนึ่ง แต่งตัวโบราณยุคนั้น มีกำไลรัดเหนือข้อศอกยืนอยู่ไกลๆ มองตรงมา โยสิตากดซูมเข้าไปเพื่อดูใกล้ๆ ภาพชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ จนเห็นหน้าบุษกร
“มาได้ยัง....ตอนถ่ายไม่มีใครนี่นา” โยสิตาพึมพำ
ภาพถูกซูมเข้าใกล้อีก เกรนเริ่มแตกเป็นเม็ดไม่ชัด และในพริบตา ภาพหน้าบุษกรที่ไม่ค่อยชัดนั้นก็เปลี่ยนเป็นหน้าปีศาจในเสี้ยววินาที โยสิตาตกใจผงะ จอคอมฯ ดับมืดในบัดดล โยสิตาคลิกขยับเรียกสัญญาณ จอคอมพ์ฯ กลับมามีภาพดังเดิม....ภาพศิลาจารึกรูปสุดท้ายเป็นปกติไม่มีผู้หญิงคนไหนเข้ามายืน
โยสิตาแปลกใจ งุนงง พยายามซูมหาภาพผู้หญิงคนนั้นแต่ก็ไม่ปรากฏบนภาพอีกเลย “อะไรกันเนี่ย!!!”
นอกเต็นท์ อธิน โยนฟืนลงเพิ่มในกองไฟ
โยสิตาเดินเข้ามาหา นั่งลงข้างๆ “พ่อคะ เมืองจันทรปุระนี่ อยู่ในยุคไหนกันแน่คะ”
“ยังบอกอะไรไม่ได้ลูก เพราะเราได้หลักฐานน้อยมาก ไม่ปรากฎศาสนสถานหรือเทวสถานให้เทียบเคียงเลย”
“หมายความว่า ถ้าศิลาจารึกแผ่นนั้น เป็นการบันทึกการสร้างเมืองก็จะไขปริศนาได้ทั้งหมดใช่ไหมคะ”
“ใช่...แต่ปัญหาคือตัวอักษรพวกนั้นพ่อแน่ใจว่าไม่เคยเห็นจะมีนักวิชาการซักกี่คนที่อ่านมันออก พ่อก็ไม่รู้”
“แล้วทำไมเมือง เมืองนี้ถึงได้ล่มสลายล่ะคะ”
“มีแต่ตำนานที่คนเล่าต่อกันมานะลูก ล่มสลายเพราะคำสาป”
โยสิตานิ่งงัน...ในความเงียบ...เสียงหมาหอนไกลๆ ดังแว่วมา บรรยากาศชวนให้รู้สึกวังเวง “คำสาปเหรอคะ”
สองคนพ่อลูกนั่งข้างกองไฟ รอบๆ มืดมิด มีแต่ดาวเต็มฟ้าในคืนเดือนเสี้ยว
ที่ห้องอาหารบ้านกสินทร์ เมธาวีเดินนำคนใช้ที่ถือถาดของหวานตามเข้ามา “ของหวานมาแล้วค่า.....”
คนใช้อีกคนกำลังเก็บโต๊ะเคลียร์จานชามของคาวออกจากโต๊ะ
“วันนี้มีอะไรมาให้ชิมล่ะ หนูเมย์” กสินทร์เอ่ยถามเมธาวี
“สละลอยแก้วค่ะคุณพ่อ เจ้านี้เขาอร่อยที่สุดในประเทศเลยนะคะ” เมธาวีหยิบถ้วยของหวานเสิร์ฟให้กสินทร์เองกับมือ “คุณพ่อลองชิมดูนะคะ” เมธาวีขยับมาเสิร์ฟของหวานให้กวินทร์ แถมหอมแก้มกวินทร์
“อีกหน่อยผมว่า พวกเราทุกคนคงลงพุงแข่งกันนะครับ คุณพ่อ” กวินทร์แกล้วแซว
“นั่นสิ หนูเมย์ดูแลดียังงี้ ไม่ไหวนา” กสินทร์หยอก