บทละครโทรทัศน์ บ่วงอธิฏฐาน ตอนที่ 12 หน้า 3
“ดีเหมือนกันจะได้ประหยัดค่าน้ำ ค่าไฟ ที่คอนโดฉัน..ไม่เกรงใจละนะ”
“เชิญย่ะ ตามสบาย”
ปารมีหันไปเห็นเสื้อเชิ๊ตกฤตธร ตัวที่ถูกกาแฟหกรดแต่ซักทำความสะอาดหมดจดแล้ว แขวนเอาไว้หน้าตู้เสื้อผ้า “นั่นเสื้อแกเหรอ ทำไมตัวใหญ่จัง ยังกะเสื้อผู้ชาย...จะว่าของพ่อแกก็ไม่ใช่”
“ก็ไม่ใช่น่ะสิ” โยสิตาไม่เน้นแต่ทำเป็นปกติ
ปารมีตาโต โยสิตาปลดเสื้อออกมาจากไม้แขวนและเริ่มพับ “งั้นเสื้อใคร...บอกมาเดี๋ยวนี้นะ..ไอ้โย เอ๊ะ.หรือว่า...”
โยสิตาพยายามทำเรียบเฉย เป็นเรื่องปกติ “เสื้อคุณกฤตเขา” ปารมีตาโตเท่าไข่ห่าน ต้องเอาผ้าอุดปากตัวเองจะได้ไม่หลุดกรี๊ดออกมา“นี่...อย่าเยอะ แล้วก็ไม่ต้องจินตนาการอะไรทั้งนั้น เพราะมันไม่มีอะไรเลยนอกจากฉันทำเสื้อเขาเปื้อน ฉันก็เลยต้องรับผิดชอบเอามาซักให้ ก็เท่านั้น”
ปารมีหัวเราะคิกคัก “ฉันจะพยายามเชื่อละกัน”
“บอกตั้งกี่ครั้งกี่หนแล้วว่าอย่าแซวเรื่องนี้”
“บอกตั้งกี่ครั้งกี่หนแล้วว่าถ้าเป็นคู่กันแล้ว ยังไงก็ไม่แคล้วจากกันหรอก แกอย่าฝืนธรรมชาตินักเลย ฉันดูก็รู้ว่าลึกๆแกก็ปลื้มเขาอยู่ไม่น้อยเหมือนกันน่ะแหละ”
“ฉันใช้เขาเป็นแค่สะพานไปหาความจริงเรื่องศิลาจารึกแผ่นนั้นต่างหาก ฉันจะไม่มีทางไขว้เขวเด็ดขาด”
“ระวังหัวใจเอาไว้ให้ดีละกันนะแก ไม่งั้นรู้ตัวอีกทีก็...เอ๊ะ..หัวใจของฉัน..มันไปอยู่ที่เขาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”
โยสิตาฟาดหัวปารมีด้วยหมอน ปารมีวิ่งหนีออกไป โยสิตาฝากแค้นปารมีแล้วกลับมามองเสื้อกฤตธรที่พับเสร็จแล้ว
เช้าวันใหม่ หน้าบ้านกสินทร์ กวินทร์เดินออกมาหน้าบ้านจะไปที่โรงรถ โยสิตาหอบหิ้วสะพายกระเป๋า ข้าวของพะรุงพะรัง เข้าประตูบ้าน “สวัสดีครับคุณโย มาแต่เช้าเลยนะครับ”
“สวัสดีค่ะ ได้งานกระท่อนกระแท่นเดี๋ยวนายจ้างเกิดประท้วงจ่ายค่าจ้างกระท่อนกระแท่นไปด้วยละก็แย่เลยค่ะ”
“พี่กฤตไม่โหดอย่างนั้นหรอกครับ ตรงกันข้ามเลยละ ผมว่าพี่กฤตแฮปปี้มากกว่า”
โยสิตาเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจเหมือนอยากจะถามกลับ
ห้องนอนเมธาวี เมธาวียังนอนอยู่บนเตียง “ลุกขึ้น...ลุกขึ้น” เมธาวีค่อยๆลืมตาขึ้นเหมือนได้ยินเสียงเรียกแต่เหมือนยังเลื่อนลอยเหมือนเมายา บุษกรตวาด “ลุกขึ้น” มือบุษกรพุ่งเข้า มาจิกหัวเมธาวีกระชากดึงขึ้นมาอย่างแรง เมธาวีเผชิญหน้าระยะใกล้กับบุษกร “กูสั่งให้มึงลุกขึ้น มึงกล้าขัดคำสั่งกูรึ”
กวินทร์ถามไถ่ “คุณโยกินอะไรมารึยังครับ”
“เรียบร้อยแล้วค่ะ”
“พี่กฤตยังไม่ลงมาเลย ถ้ายังไงก็ฝากดื่มกาแฟเป็นเพื่อนพี่ชายผมด้วยนะครับ”