บทละครโทรทัศน์ รากนครา ตอน 3 หน้า 5
ย้อนภาพ สั้นๆ ภาพในพิธีเผาศพสิงห์คำ ..มิ่งหล้ายิ้มให้ศุขวงศ์ แต่สายตาศุขวงศ์อยู่ที่แม้นเมือง จนถึงมิ่งหล้าหันมาปรายตามองแม้นเมืองเพราะรู้ว่าศุขวงศ์สนใจแม้นเมืองมากกว่า ภาพในพิธีบรรจุอัฐิเห็นศุขวงศ์นั่งคุยกับมิ่งหล้าอย่างสนิทสนมใกล้ชิด ภาพเหตุการณ์ตอนมิ่งหล้าเข้ามาขอหนังสือจากแม้นเมือง ภาพเหตุการณ์ตอนแม้นเมืองหลบมุมหนึ่งเมื่อเห็นศุขวงศ์เข้ามาในเขตหอหลวง
แม้นเมืองพยายาม ถอนคลายออกจากการเกาะกุมของมิ่งหล้า
“มือพี่ไม่ได้เย็นเสียหน่อย – มือน้องร้อนต่างหาก น้องนั่นแหละจับไข้รึเปล่า” มิ่งหล้า จ้องมองไม่ละสายตา
“แต่เอ..คงไม่ใช่ ร้อนไข้หรอก..แต่ ร้อนใจมากกว่าละมั้ง..อุตส่าห์เข้ามารอพี่ถึงในห้อง..มีเรื่องอยากจะเล่าให้พี่ฟังอีกละสิ..ใช่ไหม” แม้นเมืองพยายามทำเบิกบาน
“ไม่เล่าให้พี่ฟังก็ไม่ รู้จะเล่าให้ใครฟังดี...” แม้นเมืองลุ้นแทบกลั้นลมหายใจ
“วันก่อนเจอกันที่วัดคงคาคำ..น้องกับเจ้าพี่ศุขวงศ์คุยกันสนุก วันนี้เจ้าพี่ก็เลยขอเข้ามาคุยต่อ”
“คุยกันเรื่องอะไรบ้างล่ะ” แม้นเมืองพยายามทำให้เป็นปกติ
“สารพัดเรื่อง น้องมีคำถามอะไร เจ้าพี่ศุขวงศ์ก็ตอบได้หมด เจ้าพี่เป็นคนรอบรู้มากชวนน้องคุยได้ทั้งวัน พรุ่งนี้เจ้าพี่ยังขอเข้ามาคุยกับน้องอีก..พี่คิดว่ายังไง” แม้นเมืองนิ่งอึ้ง รู้ตัวว่ากำลังถูกต้อนให้จนมุม
บ้านพักเบรกกิ้น
“เหลวไหลน่าแบร็กกิ้น”
แบร็กกิ้นหัวเราะ “เรื่องความรัก กับคนวัยขนาดเจ้ามัน ร้อนแรงและไร้เหตุผลเสมอ”
“ท่านมองเราผิดแล้ว – เราใช้เหตุผลและสติของเรา ตัดสินทุกอย่างเสมอ”
“เจ้าบอกตัวเองอย่างนั้นเพราะเจ้ายังไม่เคยรักใครต่างหาก..ตอนที่ยืนอยู่บนฝั่ง พูดอะไรก็พูดได้ทั้งนั้น แต่เวลาที่พลัดตกลงไปในกระแสน้ำเชี่ยว ก็ไม่เห็นเคยมีใครพูดอะไรออกสักคำ” เบรกกิ้น หัวเราะ
ห้องแม้นเมือง
“เจ้าศุขวงศ์ เขาไม่ใช่คนที่เราควรจะไว้ใจให้ใกล้ชิดหรอกนะมิ่งหล้า”
รอยยิ้มค่อยๆเหือดหายไปจากมิ่งหล้า แต่กลับจ้องแม้นเมืองนิ่ง
“เขาไม่มีความคิดเห็นข้อไหนที่สอดคล้องกับพวกเราชาวเชียงเงินเลยนะ น้องดูเขาให้ดีๆสิเขาเป็นเหมือนทาสสยาม เป็นข้ารับใช้พวกกุลาขาว เจ้าพ่อกับเจ้าอาเกลียดนักคนแบบนี้”
“พวกเราเหรอ.. น้องว่าพี่คนเดียวมากกว่าละมัง..แม้นเมือง”
“มิ่งหล้า”