บทละครโทรทัศน์ รากนครา ตอน 12
ห้องนอนแม้นเมือง แม้นเมืองกลับเข้ามาในห้องที่มืดสลัวทรุดลุงนั่งอย่างอ่อนแรง การได้พบหน่อเมืองครั้งนี้แทนที่จะมีแต่ความยินดี...
เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ หน่อเมืองสงสัย “ทำไมเจ้านิ่งไป...แม้นเมือง”
“น้องกำลังคิดถึง เจ้าอา เจ้าพ่อ”
“ถึงเชียงเงินจะไม่ได้ยิ่งใหญ่เท่าสยามหรือเมืองมัณฑ์แต่ศักดิ์ศรีของ เชียงเงินก็คือความเป็นอิสระไม่ก้มหัวให้ใคร”
“สิ่งนั้นอยู่ในลมหายใจของน้องเสมอ...เจ้าพี่”
“ดี...เมื่อวันนั้นมาถึงพี่จะมารับตัวเจ้ากลับไปอยู่เชียงเงินด้วยตัวพี่เอง”
ห้องนอนแม้นเมือง-ศุขวงศ์ แม้นเมืองค่อยๆเอนตัวลงนอน แต่แม้นเมืองไม่สามารถข่มตาให้หลับลงได้ เพราะความคิดปั่นป่วน อุดมการณ์ของหน่อเมืองจะไปถึงปลายทางได้อย่างไรในเมื่อ วันนี้ หัวใจของเธออยู่ที่ศุขวงศ์เสียแล้ว
เช้าวันใหม่ เรือนเจ้าย่าเรือนคำ หน่อเมืองกราบเรือนคำ “ขึ้นมานั่งเสียข้างบนด้วยกันเถอะเจ้าอุปราช”
หน่อเมืองขยับขึ้นนั่งบนตั่ง
“อุตส่าห์มีน้ำใจมาเยี่ยมย่า”
“ขาล่องลงเชียงใหม่ หลานมัวแต่รีบร้อน พะวงอยู่แต่ว่าต้องไป เข้าพิธีให้ทัน เลยไม่ได้ มากราบเจ้าย่า หลานต้องขอโทษ ด้วย”
“เรื่องเล็กน้อย...ย่าเข้าใจ...อะไรก็ไม่สำคัญเท่างานของบ้านเมือง มาเป็นอย่างแรก”
แม้นเมืองก้มหน้านิ่ง คำพูดเรือนคำตอกย้ำสำนึกตน
“ถ้าไม่รีบร้อน ก็อยู่เชียงพระคำหลายๆวันนะเจ้าอุปราช
“หลานเกรงว่า เจ้าพ่อจะตั้งตาคอยเพราะงานบ้านเมืองมีมาก”
“เสียดาย...ถ้ารีบกลับก็ไม่ได้พบกันกับเจ้าน้อย...รายนั้นก็ยุ่งเหยิ่งอยู่ แต่กับเรื่องค้าขายกับพวกฝาหรั่งจนบางที่ย่าก็นึกขัดใจที่เจ้าน้อยลงไปคลุกคลีกับพวกมันจนเกินงาม”
“พวกฝาหรั่งมันดูหมิ่นพวกเราว่าไรอารยธรรม แท้จริง แล้วพวกมันนั่นแหละต่ำทราม เสียยิ่งกว่า”
“นั่นน่ะสิ...ย่าเองก็ไม่เข้าใจ ว่าแล้วทำไมเราต้องลดหัวลงไปคบค้ากับพวกมันด้วย” แม้นเมืองรู้สึกว่าคนทั้งคู่เข้ากันได้อย่างเป็นปี่เป็นขลุ่ย แต่ในใจตัวเองนั้นเกิดความรู้สึกย้อนแย้งเล็กๆอย่างน้อยการได้รู้จัก แบร็กกิ้นก็ทำให้ได้เรียนรู้ว่าฝาหรั่งก็เป็นคนเหมือนกับเรา เพียงแต่แตกต่างกันด้วยความคิดเท่านั้น