บทละครโทรทัศน์ รากนครา ตอน 11
กลางคืน ห้องนอนคุ้มเจ้าศุขวงศ์ ศุขวงศ์ขยับเข้ามากอดแม้นเมืองที่นอนตะแคงหันหลังให้ แม้นเมืองที่ลืมตาอยู่แกล้งหลับตาลง “เจ้ายังไม่หลับ...พี่รู้...คิดอะไรอยู่แม้นเมือง”
“ข้าเจ้าคิดถึงบ้านที่เชียงเงิน”
“มีเรื่องอะไรที่ทำให้เจ้าไม่สบายใจ”
“ไม่มีเจ้า”
“ปากเจ้าไม่ตรงกับใจ พี่เป็นต้นเหตุของความไม่สบายใจของเจ้ารึไม่” แม้นเมืองส่ายหน้าแทนคำตอบ
“พี่พร้อมรับฟังปัญหาของเจ้า แต่หากเจ้าเก็บงำเงียบเอาไว้กับตัวอยู่อย่างนี้ เจ้าไม่ได้ทุกข์เพียงลำพัง แต่เจ้าจะทำให้พี่พลอยทุกข์ ไปด้วย...แม้นเมือง” แม้นเมืองนิ่ง...เจ็บ
ศุขวงศ์ดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้แม้นเมืองและกอดเอาไว้ ไออุ่นจากการกอดยิ่งทำให้แม้นเมืองเจ็บ...นับวันความรักที่มีต่อศุขวงศ์ยิ่งทวีคูณ แต่เมื่อนึกถึงมิ่งหล้าที่เป็นตัวจริงกับเรื่องของละอองคำที่ได้ยินมา แม้นเมืองรู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีค่าอะไร จึงควรหยุดใจรักศุขวงศ์เสีย ห้ามถลำใจรักไปมากกว่านี้
เช้าวันใหม่ คุ้มเจ้าศุขวงศ์ บริวารช่วยกันลำเลียงขนสัมภาระการเดินป่าลงมาจากเรือน อินทรควบคุมสั่งคนงานบริวาร คำแก้วกอดห่อผ้าแน่นตื่นเต้นกับการเดินทาง “ลุกลี้ลุกลนเป็นอะไรคำแก้ว”
“อ้ายอินทรเปิ้นว่าน้ำตกงามจ้าดนัก...ข้าเจ้าอยากไปเห็นเร็วๆ ...ข้าเจ้าจะได้ลงไปเล่นน้ำให้สนุกไปเลย”
“ทำอะไรอย่าให้มันเกินงามไปนัก”
แม้นเมืองลงบันไดมากับศุขวงศ์ แบร็กกิ้น
“ขนของเรียบร้อยใช่ไหมอินทร”
“เรียบร้อยทุกอย่างเจ้า พร้อมสำหรับการเดินทางแล้ว” ทุกคนขยับ บัวผันรีบเข้ามาแต่ไกล
“เจ้าน้อยเจ้า...รอก่อนเจ้า” ทุกคนหันไปมอง เรือนคำเข้ามากับละอองคำ
“เจ้าย่า” ศุขวงศ์รีบเข้าไปต้อนรับ
“ย่าได้ยินมาว่าเจ้าจะพาเมียไปเที่ยวน้ำตกก่อน ถึงจะแยกเข้าป่าตอนบ่าย”
“เจ้า...เจ้าย่า หลานอยากให้แม้นเมืองได้เห็นน้ำตกเชียงพระคำ”
“ละอองคำก็อยากเห็นเหมือนกัน”
“ข้าเจ้าเป็นคนเชียงพระคำแท้ๆ ยังไม่มีโอกาสได้เห็นสักที ถ้าเจ้าพี่จะเมตตาน้อง...”
เขียนจันทร์ คำแก้วอ้าปากค้าง สิ่งที่เม้ามอยกันกลายเป็นความจริง