บทละครโทรทัศน์ คลื่นชีวิต ตอนที่ 5 หน้า 12

วันใหม่ สาธิตเดินซื้ออาหารกลางวันในซูเปอร์มาเก็ต เขาเอื้อมมือไปหยิบขวดเครื่องดื่มที่ตู้แช่ เห็นรูปจีราวัจน์ที่ฉลากขวดเครื่องดื่ม สาธิตวางขวดเครื่องดื่มลงอย่างแรง แล้วเดินออกจากซูเปอร์มาร์เก็ตไปทันที
วันใหม่ ด้านหน้าตึกสำนักทนายความ สาธิตถือกระเป๋าใส่ชุดครุยกำลังจะเดินเข้าตัวตึก มีผู้หญิงยืนแจกใบปลิวโฆษณาสินค้าอยู่ ซึ่งมีรูปจีราวัจน์เป็นพรีเซ็นเตอร์ ผู้หญิงคนนั้นยื่นใบปลิวให้สาธิต สาธิตรับใบปลิวมา
ที่ห้องทำงานสาธิต เขากำลังฉีกใบปลิวที่เป็นหน้าของจีราวัจน์ทิ้งลงในถังขยะอย่างแรง แล้วหัน หน้าไปมองนอกหน้าต่างอย่างพยายามควบคุมความโกรธ
สาธิตเดินไปนั่งที่โต๊ะอย่างหุนหัน แล้วหยิบโทรศัพท์ตั้งโต๊ะ โทรหาทานตะวัน “ตะวัน..เอาสำนวนคดีทั้งหมดที่พี่จะขึ้นศาลในเดือนนี้..มาให้พี่ที”
สาธิตสั่งเสร็จวางโทรศัพท์ หยิบสำนวนคดีเปิดอ่านอย่างเคร่งเครียด เหมือนต้องการใช้งานทำให้ตัวเองลืมความเจ็บ ขณะนั้นเอง ปียากุลหอบหนังสือนิตยาสารท่องเที่ยวเข้ามา สาธิตยังคงก้มหน้าอ่านงานอยู่ ปียากุลแกล้ง วางกองนิตยสารท่องเที่ยวทับสำนวนที่สาธิตกำลังอ่านอยู่
สาธิตมองกองนิตยสารท่องเที่ยว แล้วเงยหน้ามามองปียากุล “ทำอะไรเนี่ยเปี๊ยก?”
ปียากุลเปิดนิตยสาร “พี่ธิตจิ้มเลย อยากไปประเทศไหน เดี๋ยวเปี๊ยกพาไป การทำงานหนัก มันไม่ช่วยให้จิตใจพี่ดีขึ้นหรอกนะ พี่ธิต...พี่ต้องไปเที่ยว !”
สาธิตรวบกองแฟ้มสำนวนคดีกองไว้ แล้วตั้งใจอ่านสำนวนต่อ “พี่ไม่อยากเที่ยว ..”
ปียากุลปิดแฟ้มงาน แล้วดึงงานออกจากสาธิต “..งั้นออกไปหาอะไรกินกัน”
สาธิตดึงแฟ้มงานกลับ “พี่ไม่หิว !”
ปียากุลดึงแฟ้มงานจากสาธิต “..งั้นไปช้อปปิ้ง..ดูหนัง..หรือไปร้องคาราโอเกะ เหมือนที่พี่ชอบพาเปี๊ยกแหกปากร้องเพลงระบาย เวลาเปี๊ยกมีปัญหากับชยันต์ไง” สาธิตดึงแฟ้มงานกลับ ก้มหน้าทำงานต่อ ไม่สนใจ “ถ้าพี่ธิตไม่ไป เปี๊ยกก็จะร้องเพลงให้พี่ฟังในห้องนี้แหละ !!” ปียากุลยื่นคำขาด แล้วปีนขึ้นไปนั่งบนโต๊ะ ขวางไม่ให้สาธิตอ่านแฟ้มสำนวนได้ พร้อมแหกปากร้องเพลง ตั้งใจให้กำลังใจพี่ชาย แต่ดันร้องเสียงเพี้ยนสุดๆ “และในวันนี้..เธอนั้นจงหยัดยืน และลุกขึ้นอีกครั้ง..ด้วยพลังในหัวใจ อย่าไปยอมแพ้..ให้กับปัญหาใดๆ จงพร้อมจะอดทนก้าวไปสู่หนทางที่ ฝันใฝ่ด้วยตัวเอง”
สาธิตอดยิ้มไม่ได้“นี่จะร้องให้พี่ซึ้งหรือร้องให้พี่ขำ”
“ร้องให้พี่มีกำลังใจต่างหาก พี่จะอยู่กับความทุกข์ไปทั้งชีวิตไม่ได้ ติวคงไม่มีความสุข ถ้าเห็นพี่เป็นอย่างนี้ ..พี่ต้องเดินต่อไป”
“พี่พยายามทำอยู่เปี๊ยก..แต่มันไม่ใช่เรื่องง่าย ที่พี่จะลืมติวได้..ติวคือหัวใจของพี่ พอไม่มีติว มันเหมือนชีวิตพี่ตายไปแล้ว”