บทละครโทรทัศน์ คลื่นชีวิต ตอนที่ 18 หน้า 5
“งั้นคุณก็นอนเถอะ..แล้วอย่าลืมตรวจดูว่าครูล็อกประตูหน้าต่างดีรึเปล่า..ครูแก่แล้ว ขี้ลืม” จีราวัจน์เอ่ย สั่งเป็นชุด
“ผมตรวจแล้ว..นอนเถอะ” สาธิตยิ้มๆ เมื่อได้ยินอย่างนั้น
“อืม ..งั้นฉันวางสายล่ะ” จีราวัจน์เอ่ยตอบ
“อืม..” สาธิตเอ่ยจบยังถือสายค้างไว้เงียบๆ รอว่าจีราวัจน์กดวางสายหรือยัง? จีราวัจน์เองก็ถือสายค้าง ไว้เงียบๆ เพื่อรอว่าสาธิตกดวางสายหรือยังเช่นกัน!
“ทำไมไม่วาง” จีราวัจน์ย้อนถาม หน้ายิ้มๆ
“ก็คุณบอกจะวางก่อน”
“งั้นฉันวางล่ะ” จีราวัจน์ฟังมือถือเงียบๆ เพื่อรอว่าสาธิตกดวางสายหรือยัง สาธิตเองก็ยังฟังมือถือเงียบๆ รอว่าเมื่อไหร่จีราวัจน์จะกดวางสาย ทันใดนั้น! ได้ยินเสียงครูอารีจาม
“ฮัดเช้ย !!!!!” สาธิตหันมองตามเสียง เห็นครูอารีเดินหน้าซื่อมาจากบันไดท่าทางเหมือนแอบฟังอยู่ที่ บันไดนานแล้ว
“ขอโทษที..ผมไม่แน่ใจว่าปิดหน้าต่างครบรึเปล่า เลยลงมาดูอีกที” ครูอารีแกล้งเดินไปตรวจหน้าต่าง แต่หูผึ่งฟังสาธิตคุยกับจีราวัจน์
“ผมวางสายก่อนนะ”สาธิตมองครูอารี แล้วบอกกับจีราวจน์ จากนั้นกดวางสาย
“ที่นี่อากาศเย็นนะ..แต่คนในเมืองคงอบอุ่น..คุณว่าไหม?” ครูอารีแกล้งสูดอากาศจากนอกหน้าต่าง
สาธิตมองครูอารี แล้วคิดถึงจีราวัจน์พลางยิ้มๆ
ด้านจีราวัจน์เดินเข้าห้องนอนพร้อมกับกดวางสายด้วยสีหน้ายิ้มๆ จีราวัจน์จะนอน แต่รู้สึกหัวใจมัน กระปรี้กระเปร่าจนนอนไม่หลับ รู้สึกอารมณ์ดีอยากฟังเพลงขึ้นมา จึงเดินไปเปิดวิทยุฟังเพลง สถานีวิทยุเปิด เพลงรัก จีราวัจน์ฟังเพลงแล้วทอดสายตามองออกไปทางหน้าต่าง มองไปทางพระจันทร์บนฟ้า
เวลาเดียวกัน สาธิตเองก็เดินมามองวิวท้องฟ้าและดวงจันทร์เหมือนจีราวัจน์ด้วยสีหน้ายิ้มมีความสุข
--
ที่โรงพยาบาล ในห้องพักฟื้น เจตรยืนมองท้องฟ้า โดยมีเสาน้ำเกลืออยู่ข้างๆ เจตรมองดาวเหนือบน ท้องฟ้า แล้วคิดถึงจีราวัจน์ จึงตัดสินใจโทรหาจีราวัจน์
จีราวัจน์ที่ยังยืนมองดวงจันทร์ที่หน้าต่าง พอได้ยินเสียงมือถือดังขึ้นก็นึกว่าสาธิตโทรมา จึงรีบวิ่งไปหยิบ มือถือที่โต๊ะแล้วกดรับ โดยไม่ทันมองเบอร์ !
“ไหนคุณว่าจะนอนแล้วไง..” จีราวัจน์เอ่ยแซว
“..อะไรนะครับคุณจี ?” เจตรเอ่ยถามงงๆ จีราวัจน์ได้ยินเสียงเจตร จึงรีบดูเบอร์ที่มือถือก็เห็นว่าตนเข้าใจ
ผิด พยายามพูดปกติกลบเกลื่อน