บทละครโทรทัศน์ ศรีอโยธยา ตอนที่ 7
ศรีอโยธยา ตอนที่ 7
ร่างอันงามประดุจเทพธิดาของบุษบาบรรณ์ปรากฎตัวขึ้น พิมานตะลึงลานในรูปโฉมของนางจนแทบไม่หายใจ บุษบาเยื้องกายเดินลงมานั่งยังที่นั่งของนางซึ่งมีหมอนขวาน และพานหมากวางอยู่ ในขณะที่ นางรำเคลื่อนตัวออกไป พิมานในชั้นแรกนั้น เขาคิดว่าที่นี่คือสถานที่อันถูกจัดเป็นพิพิธภัณฑ์เล็กๆ เพื่ออนุรักษ์ศิลปวัฒนะธรรมไทย และจัดโชว์แก่นักท่องเที่ยวแบบเป็นที่นิยมในปัจจุบัน
พิมาน : ที่นี่ มันที่ไหนกันน่ะครับ อยู่ตรงไหนของอยุธยา
บุษบาบรรณ์ : ที่นี่ คือเรือนเจ้าพระยาพิชัยชาญฤทธิ์เจ้าค่ะ คุณพระ
พิมาน : ผมมาที่นี่ได้ยังไงกันครับ ผมจำได้ว่าผมเด็ดดอกแก้วขึ้นมาดม แล้วจำอะไรไม่ได้อีกเลย
บุษบาบรรณ์ : ทองหยิบกับลูกจันทน์เป็นคนพาคุณพระเข้ามา เหมือนอย่างที่คุณพระเคยเข้ามาเจ้าค่ะ
พิมาน : แต่ผมไม่เคยมาที่นี่เลยนะครับ
บุษบาบรรณ์ : แต่คุณพระจำทองหยิบได้...
พิมาน : ผมจำทองหยิบไม่ได้ครับ ผมเพิ่งจะพบทองหยิบเมื่อกี้นี้เอง แล้วทำไมคุณถึงเรียกผมว่าคุณพระ ผมชื่อพิมานเฉยๆ ครับ
บุษบาบรรณ์ : ก็คุณพระมีนามบรรดาศักดิ์ว่า คุณพระพิมานสถานมงคลมิใช่หรือเจ้าคะ
พิมาน : คงไม่ใช่หรอกครับ คุณหลวงหรือคุณพระน่าจะมีอยู่แต่ในละครทีวีเท่านั้น
บุษบาบรรณ์ผิดหวังเหลือเกินที่พิมานจำความไม่ได้เลยทั้งๆที่นางพอจะคาดเดาได้ว่าเขาอาจจะจำอะไรไม่ได้เลย
บุษบาบรรณ์ : มันก็เป็นธรรมดาที่คุณพระจะจดจำอะไรไม่ได้เลย เชิญรับกับข้าวก่อนเถอะเจ้าค่ะ บางที รสชาติคาวหวานของกับข้าวอาจจะเตือนให้คุณพระรำลึกถึงสิ่งที่ผ่านเลยมาก็ได้...
พิมาน : ผมไม่เคยเห็นสำรับอาหารไทยงามขนาดนี้มาก่อนเลย
บุษบาบรรณ์ : คุณพระเคยเห็นเจ้าค่ะ...แต่จดจำไม่ได้เอง
เขตพระราชฐานชั้นกลาง พระบรมมหาราชวัง พ.ศ. 2303 เจ้าจอมราตรีนั่งอยู่ในพระวอทอง โดยมีบุษบาบรรณ์และเหล่านางข้าหลวงเดินตาม ขบวนเสด็จเจ้าฟ้าสุทัศวัย 13 ตรงเข้ามาในทางเดินเดียวกัน เจ้าฟ้าสุทัศประทับอยู่บนพระเสลี่ยงทองที่มีมหาดเล็กแบก 4 นาย โดยมีพิมาน วัย14 และมหาดเล็กหนุ่มอีก 4 นายตามเสด็จ ขบวนเจ้าจอมราตรีหยุด เจ้าจอมราตรีลงมาจากพระวอทอง ในขณะที่ บุษบาวัย 11 และข้าหลวงทั้ง4ต่างทรุดตัวลงหมอบกราบถวายบังคมข้างทางเดิน เจ้าฟ้าสุทัศรับสั่งกับมหาดเล็กแบกพระเสลี่ยง