บทละครโทรทัศน์ ศรีอโยธยา ตอนที่ 7 หน้า 4
พิมาน : รสชาติกลมกล่อมมากครับ อย่างที่ผมไม่เคยรับประทานมาก่อนเลย
บุษบาบรรณ์ : คุณพระเคยรับรสชาตินี้มาก่อนเจ้าค่ะ
พิมาน : ยังไง ยังไงคุณก็จะเรียกผมว่าคุณพระใช่มั้ยครับ
บุษบาบรรณ์ : บรรดาศักดิ์เป็นพระบรมราชโองการเหนือเกล้าในพระองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่มีใครหน้าไหนจะกล้าขัดพระบรมราชโองการได้หรอกเจ้าค่ะ
พิมาน : โอเคครับ ตกลง คุณพระก็คุณพระ คุณเก็บรักษาเรือนนี้ไว้ได้อย่างสมบูรณ์มากเลยครับ ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นศิลปะกรุงศรีอยุธยาตอนปลายที่หาชมที่ไหนไม่ได้เลยครับ ผมทึ่งในความวิริยะอุตสาหะของคุณมาก
บุษบาบรรณ์ : ดิฉันไม่ได้มีความวิริยะอุตสาหะแต่อย่างใดเลย ที่นี่ก็เป็นอยู่อย่างที่เคยเป็น
พิมาน : ผมยังไม่รู้จักชื่อคุณเลย
บุษบาบรรณ์ : ดิฉันชื่อบุษบาบรรณ์..แต่คุณพระเคยเรียกดิฉันว่าบุษบาเจ้าค่ะ
พิมาน : คุณสร้างเรือนมาเมื่อไหร่เหรอครับ....
บุษบาบรรณ์ : เรือนเจ้าพระยาพิชัยฯ สร้างขึ้นในแผ่นดินสมเด็จพระเพทราชพร้อมกับพระราชพิธีสถาปนาพระราชวงศ์บ้านพลูหลวงไงเจ้าคะ
พิมาน : คุณพูดเล่นเหรอครับ ที่นี่มันไม่ดูเก่าแก่ขนาดนั้นเลย....
บุษบาบรรณ์ : ดิฉันไม่เคยมุสาเจ้าค่ะ
พิมาน : ผมขออนุญาตเดินชมรอบๆ นะครับ.....
บุษบาบรรณ์ : เชิญเจ้าค่ะ
พิมาน : ถ้ายังงั้นเครื่องเรือนทั้งหมดในเรือนนี้ก็เป็นของเก่าแก่ตั้งแต่สมัยสมเด็จพระเพทราชาใช่มั้ยครับ
บุษบาบรรณ์ : บางชิ้นก็สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปราสาททองเจ้าค่ะ คือ ต้นตระกูลเราเป็นตระกูลพราหมณ์ที่เดินทางข้ามทะเลมาจากชมพูทวีปซึ่งเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารในพระองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปราสาททอง และตั้งถิ่นฐานอยู่ที่บ้านสมอพรือริมแม่น้ำเพชรบุรีอันถือว่าเป็นลำน้ำอันศักดิ์สิทธิ์เจ้าค่ะ จวบจนแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์ คุณทวดของดิฉันทั้งสองท่าน ได้ถวายตัวเป็นทหารรักษาพระองค์ คุณทวดใหญ่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณแต่งตั้งเป็นหลวงคชบาทขวา และ คุณทวดเล็กได้รับการแต่งตั้งเป็นหลวงคชบาทซ้ายประจำช้างทรงในสมเด็จพระนารายณ์
แผ่นดินบ้านสมเด็จพระนารายณ์มหาราช กรุงศรีอยุธยา พ.ศ.2222 ช้างทรงของพระนารายณ์มีทหารกล้าคอยปกป้อง