บทละครโทรทัศน์ ศรีอโยธยา ตอนที่ 7 หน้า 3
กำแพงกั้นระหว่างพระราชฐานชั้นกลางและพระราชฐานชั้นใน พิมานเดินเลาะกำแพงแก้วตรงไปยังมุมที่เคยแอบดู เขาหันซ้ายแลขวาเมื่อเห็นว่าปลอดคนก็แอบมองเข้าไปในช่องกำแพงแก้ว
เจ้าฟ้ารุจจาเทวี : บุษบารำได้งามเหลือเกิน ฉันอยากรำได้งามเหมือนบุษบาบ้างคุณท้าว
คุณท้าว : ไม่มีความจำเป็นเลยเพคะ ที่ทูลกระหม่อมจะทรงรำให้งดงามเยี่ยงนางรำ นางรำต่างหากเพคะ ที่มีหน้าที่รำถวายสักการะ
เจ้าฟ้ารุจจาเทวี : แต่กระนั้น..ฉันก็อยากรำให้สวยอย่างบุษบาอยู่ดี
ข้าหลวง : ทูลกระหม่อมเพคะ ได้เวลาเสด็จไปทรงพระอักษรแล้วเพคะ
เจ้าฟ้ารุจจาเทวี : ฉันไปนะ คุณท้าว
เจ้าฟ้ารุจจาเทวีและข้าหลวงตามเสด็จออกไป ทุกคนก้มลงถวายบังคม
คุณท้าว : เอ้า พวกหล่อน กลับตำหนักได้
เหล่านางรำและคุณท้าวต่างลุกขึ้นแยกย้ายกันออกไป บุษบาบรรณ์ลุกขึ้นเดินเข้าไปใกล้กำแพงแก้วโดยบังเอิญเนื่องจากเป็นทางกลับตำหนัก ทันใดนั้นมีลมพัดมาวูบหนึ่งจบใบไม้ร่วงลงมา
พิมาน : บุษบา...บุษบา
บุษบาบรรณ์หันมามองตามเสียงเรียกเด็กน้อยดีใจจนพูดไม่ออก
พิมาน : ฉันมาแอบดูเธอตั้งหลายวันแล้ว แต่เธอไม่มา..
บุษบาบรรณ์ : ฉันกลับไปอยู่ที่เรือนเจ้าคุณพ่อ เพิ่งกลับมาวันนี้เอง แต่ฉันได้ยินเสียงเธอจากสายลมทุกคืนเลย...
พิมาน : ชั้นก็ได้ยินเสียงเธอ...
บุษบาบรรณ์ : เธอรีบกลับไปเถอะพิมาน ถ้าคุณโขลนมาเห็นเธอละก็ โทษถึงโบยเลยนะ
พิมาน : ฉันไม่กลัว...
หัวหน้าจ่าโขลน : ไม่กลัว ใช่มั้ย.....
พิมานหันมาเห็นกลุ่มจ่าโขลนเขาหน้าซีดลงในทันที ยกมือพนมโดยไม่รู้ตัว
พิมาน : กลัวแล้ว...ขอรับ
หัวหน้าจ่าโขลน : จับไปเฆี่ยนให้หลังลายเลย ฐานที่ไม่เกรงกลัวพระอาญา
พิมานวิ่งหนีอย่างรวดเร็ว : กลัวแล้วขอรับ กลัวแล้วขอรับ กลัวแล้วขอรับ
หัวหน้าจ่าโขลนหัวเราะด้วยความเอ็นดู บุษบาบรรณ์มองผ่านกำแพงแก้วไปด้วยความเป็นห่วง
เรือนเจ้าพระยาพิชัยฯ ปัจจุบัน พิมานยังประหลาดใจกับสถานการณ์ที่กำลังเผชิญอย่างตื่นตาตื่นใจ
บุษบาบรรณ์ : คุณพระ พอจะจำรสชาติกับข้าวในสำรับได้บ้างไหมเจ้าคะ