บทละครโทรทัศน์ สุดแค้นแสนรัก ตอนที่ 2 หน้า 4
อัมพรอยากจะถามต่อว่าแล้วมันเมื่อไรกันล่ะ
เช้าตรู่ พระอาทิตย์ขึ้น อ่ำ อุไร กำลังใส่บาตรหน้าบ้าน อุไรแต่งตัวจะออกไปเรียนตัดเสื้อในเมือง ประยงค์จูงควาย 2 ตัวพาออกไปนา ประยงค์ยองๆ ลงไหว้พระที่สวนมา อุไรช่วยเก็บข้าวของภาชนะใส่บาตร
“แม่เก็บเอง เอ็งรีบไปเถอะ เดี๋ยวจะไม่ทันรถ”
“ยังไงโกพงษ์เขาก็ต้องรอฉันอยู่แล้วแม่...พี่ยงค์แวะก่อนได้ไหม” ประยงค์เดินจูงควายเข้ามาหา อุไรต่อว่า “เมื่อวาน ฉันกับแม่ตั้งใจไปเยี่ยมหลาน แต่แม่พี่ไล่ตะเพิดไม่พอ ยังเขวี้ยงหม้อแกงบรรลัยหมด พี่จะว่ายังไง”
“พี่ก็ไม่สบายใจกับเรื่องนี้เหมือนกันอุไร แต่จะให้พี่ทำยังไงได้”
“คนเรามันก็มีศักดิ์ศรีเท่าๆ กันน่ะแหละ พี่ยงค์ ถ้าเหลืออดเหลือทนกันจริงๆ ฉันจะไปรับพี่อัมพรกับหลานกลับมาอยู่ที่นี่ หน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหนฉันก็ไม่สนละ บอกให้รู้ไว้ก่อนนะ ฉันไปก่อนนะแม่” อุไรเดินออกไป
“อุไรมันเป็นคนเลือดร้อน อย่าไปถือสามันเลยนะยงค์”
“อาอ่ำไม่ต้องห่วงอัมพรมันหรอก ฉันสัญญา ฉันจะดูแลอัมพรกับลูกอย่างดีที่สุดจ้ะ”
ที่ห้องเรียน โรงเรียนสอนตัดเสื้อ นักเรียนในชั้น ต่างกำลังฝึกสร้างแพทเทิร์นเสื้อของใครของมัน ครูเดินดูงานของแต่ละคนและให้คำปรึกษา
อุไรก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่มุมนึง พะยอมอยู่อีกด้านของห้องเรียน
เพื่อนถาม “นี่โกรธเกลียดกันจนต้องแยกกันอยู่คนละมุมห้องเลยเหรออุไร”
“เขาเป็นฝ่ายแยกไปเอง แม่เขาคงสั่งมาน่ะแหละว่าให้เลิกคบกับฉัน”
เพื่อนอีกคนบ่น “เสียดายนะ แต่ก่อนเธอสองคนสนิทกันยังกะอะไรดี”
“เรื่องร้ายๆ อย่างนี้ ไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้นมาหรอก”
“แล้วจะกลับมาคืนดีกันได้ไหมเนี่ย”
อุไรไม่สนใจ “ใครดีมาฉันก็ดีตอบ ร้ายมา หน้าไหนฉันก็ไม่กลัวทั้งนั้นล่ะ”
ที่ป้ายรถประจำทาง กลางเมือง พะยอมยืนคอยรถอยู่มุมนึง อีกด้านนึง ห่างกัน อุไรก็ยืนคอยรถอยู่เหมือนกัน รถลือพงษ์ แล่นเข้ามาจอด ด้านหลังมีผู้โดยสารพอประมาณ อุไรเดินตรงมาขึ้นรถที่นั่งข้างคนขับ พะยอมเดินไปขึ้นด้านหลัง
ลือพงษ์เสนอ “เรียกพะยอมมานั่งข้างหน้าด้วยกันก็ได้ตัวเอง”
อุไรตัดบท “ช่างเขาเหอะ เขาอยากนั่งตรงไหนก็เรื่องของเขา”
พะยอมแทรกตัวเข้าไปนั่งเบียดกับผู้โดยสารอื่น รถแล่นออก
รถแล่นเข้ามาจอด ส่งผู้โดยสาร ผู้โดยสารลงจากรถมาจ่ายเงินด้านหน้า อุไรรับเงินมาใส่กระป๋องข้างตัวลือพงษ์