บทละครโทรทัศน์ นาคี ตอนที่ 18 หน้า 2
คืนนั้น ที่เถียงนา วันชนะหน้านิ่วคิ้วขมวด คิดสงสัยในตัวคำแก้ว ก่อนที่จะโพล่งขึ้นมา “คำแก้วชอบทำตัวพิลึกๆ พวกแกว่ามั้ย”
เขษฐ์ค้าน “พิลึกยังไงวะ ฉันก็เห็นปกติดี งานบ้านงานเรือนก็ไม่ขาดตกบกพร่อง”
ประกิตขนลุก “แกไม่เห็นตอนที่คำแก้วจ้องลูกไก่ตาเป็นมัน ฉันว่าคำแก้วต้องเป็นงูล้านเปอร์เซ็นต์”
สมมาตรเอาหมอนปาใส่หน้าประกิต “ไอ้บ้า ! แค่เขามองไก่ แกก็หาว่าเค้าเป็นงู ไอ้โรคจิต !”
ประกิตเถียง “แต่พวกชาวบ้านเค้าลือกันให้โขมงว่าคำแก้วเป็นงูนะเว้ย”
เชษฐ์แย้ง“อันนินทากาเลเหมือนเทแกลบ มันไม่แสบเหมือนเอาตูดไปครูดหิน มีแต่คนโง่เท่านั้น ที่จะเชื่อลมปากของคนพาล”
“มันต้องพิสูจน์เอากันให้รู้ดำรู้แดงกันไปเลยว่าคำแก้วเป็นงูจริงหรือเปล่า” วันชนะครุ่นคิด
“พิสูจน์ยังไงวะ” ประกิตสงสัย
วันชนะคิดไม่ออกหันไปถามเชษฐ์ “ไอ้หลวงปู่ แกรู้วิธีที่งูที่แปลงเป็นมนุษย์กลับคืนร่างเดิมมั่งมั้ยวะ”
“งูไม่เคยได้ยิน เคยได้ยินแต่พญานาคว่ะ”
“เออ ! นั่นแหละ นาคกับงูมันก็สปีชีส์เดียวกันแหละวะ”
“ตามพุทธประวัติ บอกว่าพญานาคจะกลับคืนร่างเดิมด้วยเหตุ 5 ประการ ได้แก่ เกิด ตาย เสพสังวาส ออกหากิน แล้วก็นอนหลับด้วยเหตุนี้พระพุทธองค์ถึงได้มีพุทธบัญญัติห้ามพญานาคเข้ามาบวชในพระพุทธศาสนา”
สมมาตรอยากรู้ “แล้วแกจะพิสูจน์คำแก้วยังไงวะ”
วันชนะดีดนิ้วเป๊าะ “ดีล่ะ!คราวนี้ไอ้พลแล้วก็แกสองคนจะได้ตาสว่างกันเสียที!” วันชนะยิ้มอย่างมีแผนการในใจ
ทศพลเปิดแฟ้มที่ได้มาจากสุภัทร ดูรูปภาพซากเมืองมรุกขนครแล้วร่างเป็นภาพสเก็ตช์
คำแก้วเห็นทศพลหน้าดำคร่ำเคร่งกับการศึกษาโบราณคดีก็ถามขึ้น “พี่อยากกลับไปเรียนต่อที่กรุงเทพมั้ย”
ทศพลดึงคำแก้วมากอด พลางยิ้มปลอบใจ “การเรียนไม่จำเป็นต้องเรียนที่มหาวิทยาลัยก็ได้ มีหลายเรื่องที่ตำราก็ไม่ได้สอน ต้องเรียนรู้เอาเองจากชีวิตจริง”
“แต่ถ้าพี่พลได้เรียนจนจบ พี่จะได้เป็นเจ้าคนนายคนมีงานมีการดีๆ ไม่ต้องทำไร่ไถนา เลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่อย่างทุกวันนี้ บางทีคำแก้วก็อดคิดไม่ได้ว่าถ้าเราไม่รู้จักกัน พี่น่าจะมีอนาคตที่ดีกว่า”
“อนาคตของพี่พี่เลือกแล้ว ขอแค่มีคำแก้วอยู่กับพี่ ไม่ว่าวันข้างหน้าจะเป็นยังไง จะลำบากยากแค้นแค่ไหนพี่ก็พร้อมยอมรับมัน” ทศพลจับมือคำแก้วขึ้นมาจูบ ก่อนจะสบตาคำแก้วอย่างแนวแน่ “พี่ไม่เคยเสียใจเลยสักนิดที่ตัดสินใจใช้ชีวิตกับคำแก้ว”
คำแก้วสบตาทศพล ซึ้งใจที่ทศพลยอมทิ้งทุกอย่างมาอยู่กับตน