บทละครโทรทัศน์ นาคี ตอนที่ 13 หน้า 4
“เขาไปขึ้นมาจริงๆ จะน้ำตาเช็ดหัวเข่า” คำปองส่ายหน้าระอากับความรั้น ปากไม่ตรงกับใจของคำแก้ว
คำแก้วตักแกงป่าจากหม้อใส่ชามให้คำปอง “แกงกำลังร้อน กินข้าวก่อนเถอะจ้ะแม่”
“เอ็งทำหม้อใหญ่ขนาดนี้ แม่กินไม่หมดหรอก” คำปองเจียดแกงในหม้อ แบ่งใส่ชามอีกใบ
“แม่จะตักแกงไปไหน”
“เอาไปให้ดอกเตอร์สุภัทร” คำปองตักแกงแล้วยกลงเรือนไป
เทวาลัยเจ้าแม่นาคี สุภัทรเดินสำรวจรูปปั้นนาคที่ประดับประดาในเทวาลัยอย่างหลงใหล สายตาสุภัทรเห็นความยิ่งใหญ่และเก่าแก่นับพันปีของเทวาลัย ทศพลเห็นสายตาของสุภัทรก็ยิ่งปักใจเชื่อว่าคนอย่างสุภัทรไม่เคยห่วงใครจริงๆ สุภัทรเดินเข้ามาถึงรูปปั้นพญานาคขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่าน ก็หยุดมองอย่างสนใจ
สุภัทรมองเพ่งพินิจไปที่รูปปั้น แต่แล้วก็รู้สึกผิดสังเกต เอื้อมมือไปแตะตรงรอยต่อช่วงฐานกับลำตัว “ฝีมือช่างพื้นเมืองทำเลียนแบบของเก่า อายุไม่ถึงร้อยปี”
วันชนะกระซิบกับประกิต “ไอ้พลตาถึงจริงๆ พูดเหมือนดอกเตอร์เปี๊ยบ”
“เขาถึงว่าลูกไม้ตกไม่ไกลต้นยังไงล่ะวะ”
สุภัทรนึกชื่นชมในตัวลูกชาย แต่ทำนิ่งแกล้งเสพูดกลบเกลื่อน “ก็แค่ข้อสันนิษฐานพื้นๆ”
“ผมรู้แค่งูๆ ปลาๆ คงสู้พ่อที่เอาเวลาทั้งชีวิตไปทุ่มเทศึกษาไม่ได้หรอกครับ”
สุภัทรมองทศพลอย่างไม่พอใจ รู้ว่าทศพลจงใจพูดเหน็บ
สมมาตรสงสัย “แล้วรูปสลักพญานาคของเดิมล่ะครับ หรือว่าพังไม่เหลือซากแล้ว”
สุภัทรอธิบาย “เทวรูปไม่ได้พังทลาย แต่มันถูกทำลายต่างหาก”
ทศพลสนใจขึ้นมาทันที อยากรู้ แต่ทิฐิเกินกว่าที่จะถาม
เชษฐ์เห็นท่าทางทศพลเลยถามแทน “ใครหนอช่างกล้าเทวรูปคู่บ้านคู่เมืองแบบนี้ยังทำลายลงได้”
“พระเจ้านิรุทธราช กษัตริย์มรุกขนคร”
ทศพลได้ยินก็ชื่อพระเจ้านิรุทธราชก็ชะงักไป
สมมาตรซัก “อาณาจักรต่างๆ แถบลุ่มแม่น้ำโขงล้วนแต่นับถือบูชาพญานาค แล้วทำไมพระเจ้านิรุทธราชถึงมีรับสั่งให้ทำลายทิ้งล่ะครับ ดอกเตอร์”
“เรื่องบางเรื่อง ตำราก็ไม่ได้บอกไว้ เราต้องค้นหาด้วยตัวเอง”
ทศพลบอก “อาจารย์ทัศนัยเคยพบชิ้นส่วนศิลาจารึกเกี่ยวกับตำนานเมืองมรุกขนครแผ่นหนึ่งในถ้ำใต้เทวาลัย แต่น่าเสียดายจารึกส่วนที่เหลือยังหาไม่พบ ถ้ำก็ดันถล่มเสียก่อน”
“ต่อให้ยากเย็นแค่ไหน เราก็ต้องหาศิลาจารึกส่วนที่ขาดหายไปให้เจอ” สุภัทรแววตามาดมั่นในการตามหาศิลาจารึก