บทละครโทรทัศน์ บาปบรรพกาล ตอนที่ 19 หน้า 2
จวงเค้น “สารภาพออกมาเหอะค่ะ โทษหนักจะได้กลายเป็นเบา”
ทวนเอ่ยถาม “คุณรสฆ่านังปริกทำไม”
รสสุคนธ์โดนทุกคนพากันกดดัน รามนรินทร์รีบออกมาช่วยพูด “วันนั้นคุณรสอยู่กับผมทั้งวัน ผมเป็นพยานได้ แล้วอีกอย่างคนสุดท้ายที่เจอน้าปริกไม่ใช่คุณรสหรอกครับ แต่เป็นผมเอง”
ทุกคนได้ยินก็ตกใจ หันมองรามนรินทร์เป็นตาเดียวกัน
“ว่าไงนะราม!!” ม.ร.ว.หญิงภาวิดาตกใจ
“คุณเจอผู้ตายเมื่อไรครับ” ตำรวจซักต่อ
รามนรินทร์นึกย้อนเหตุการณ์
รามนรินทร์ได้ยินเสียงรสสุคนธ์ร้องก็รีบวิ่งออกมาดูเจอกับปริก “เออ...คือ...คุณรส คุณรสถูกจับตัวไป”
“ผมจะไปช่วยคุณรส น้าปริกรีบไปตามคนมาเร็ว” รามนรินทร์พูดจบก็วิ่งสุดชีวิตออกไป
ม.ร.ว.ภาณุกรครุ่นคิดเรื่องที่รามนรินทร์เล่าให้ฟัง “บางทีการตายของปริกอาจเกี่ยวข้องกับเรื่องที่หนูรสถูกฉุดก็ได้”
ม.ร.ว.หญิงภาวิดาแย้ง “ชายกรก็พูดเกินไป คนอย่างนังปริกเนี่ยนะจ้างคนมาฉุดแม่รส”
ม.ร.ว.หญิงแขไขค้าน “ถึงนังปริกมันจะชอบสาระแน แต่มันก็ไม่กล้าทำเรื่องชั่วๆ อย่างนั้นหรอก”
รามนรินทร์อธิบาย “ช่วงนี้เกิดเหตุการณ์ต่างๆ มากมาย เราก็ควรจะเอามาพิจารณาให้รอบคอบ ใครผิดใครถูกก็ว่าตามกระบวนการยุติธรรม...”
ม.ร.ว.หญิงภาวิดาได้ที “งั้นรามก็อย่าลืมให้ความเป็นธรรมกับนังปริกด้วยล่ะ ไหนๆ มันก็ตายไปแล้ว...อย่าให้มันต้องลุกขึ้นมาเรียกร้องความเป็นธรรมเองล่ะ”
รามนรินทร์ยิ้มขำ “คุณแม่เชื่อเรื่องบุญเรื่องกรรมด้วยเหรอครับ งั้นที่ผีคุณแม้นมาศออกอาละวาดทุกวันก็แสดงว่ากำลังเรียกร้องความเป็นธรรมใช่หรือเปล่าครับ”
“เหลวไหล มันเหมือนกันที่ไหน นี่อย่าบอกนะว่าแม่รสมันเป่าหูอะไรเราอีก”
ม.ร.ว.หญิงแขไขยืนกรานอย่างหนักแน่น “ราม...เรื่องความเป็นความตายไม่มีใครเอามาล้อเล่นหรอกนะ ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นเขาเห็นกับตาด้วยกันหมด ไม่มีฆาตกรที่ไหนหรอก...แม้นมาศนั่นล่ะที่ฆ่าตัวเอง”
รามนรินทร์หันไปสบตา ม.ร.ว.ภาณุกรพยักหน้ายอมรับอย่างเศร้าๆ
ผีแม้นมาศนั่งอยู่ริมสระบัว ผีแม้นมาศเอามือกวักน้ำในสระเล่นแล้วมองลงไปในสระบัว “ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย...สักวันหนึ่งกรรมจะต้องตามสนองพวกแก...แต่แกไม่จำเป็นต้องรอหรอกนะนังปริก” ผีแม้นมาศมองลงไปในสระบัว เห็นวิญญาณของปริกค่อยๆ ผุดขึ้นมาจากก้นสระ “ใครฆ่าแก แกจำหน้ามันได้ไม่ใช่เหรอ” ผีปริกโผล่ขึ้นมาจากน้ำแล้วพยักหน้าหงึกๆ พร้อมกับถลึงตาด้วยความเคียดแค้น ผีแม้นมาศยื่นมือไปลูบหัวผีปริกแล้วพูดอย่างอ่อนโยน ดูเห็นใจ “แกจะรออะไรล่ะ...ตามไปเอาคืนมันเลยสิ”